เมื่อวันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม 2562 สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ร่วมกับสถานกงสุลใหญ่ประเทศสมาชิกอาเซียนในนครโฮจิมินห์และหน่วยกาชาดเวียดนามประจำนครโฮจิมินห์จัดกิจกรรม “ASEAN Blood Donation Day” ตามที่สถานกงสุลใหญ่อินโดนีเซียได้ริเริ่ม เพื่อให้ชาวไทยและชาวอาเซียนในนครโฮจิมินห์ได้ร่วมกันบริจาคโลหิตเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยชาวเวียดนามต่อไป โดยภายในงานดังกล่าวมีผู้บริจาคโลหิตจำนวน 185 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้บริจาคในนามชุมชนไทยจำนวน 70 ราย และมีบุคคลสำคัญจากฝ่ายเวียดนามเข้าร่วม อาทิ รองประธานคณะกรรมการแนวร่วมปิตุภูมิแห่งชาตินครโฮจิมินห์ รองอธิบดีกรมสัมพันธ์ต่างประเทศนครโฮจิมินห์ รองประธานและอดีตประธานสมาพันธ์องค์กรมิตรภาพนครโฮจิมินห์ ประธานสมาคมมิตรภาพเวียดนาม-อาเซียนนครโฮจิมินห์ และประธานสภากาชาดเวียดนามสาขานครโฮจิมินห์ ตลอดจนกงสุลใหญ่ รักษาการกงสุลใหญ่และผู้แทนสถานกงสุลใหญ่ประเทศอินโดนีเซีย ไทย มาเลเซีย ลาว กัมพูชาและสิงคโปร์

โอกาสนี้ นายอภิรัตน์ สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง กงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ได้รับเชิญให้กล่าวสุนทรพจน์ในฐานะที่ไทยเป็นประธานอาเซียนในปีนี้ใจความว่า

“ตั้งแต่อาเซียนได้ถือกำเนิดขึ้นที่กรุงเทพฯในปี 2510 ปัจจุบันกำลังมีทั้งศักยภาพ และขณะเดียวกันก็กำลังเผชิญความท้าทายต่างๆ ทั้งในระดับภูมิภาคและเวทีโลก ซึ่งอาเซียนต้องร่วมกันรับมือเพื่อไปสู่ความสำเร็จร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีนี้ ไทยมีพันธกิจในการนำอาเซียนไปสู่ความก้าวหน้าภายใต้แนวคิด Advancing Partnership for Sustainability ซึ่งการจัดงานในวันนี้ก็ได้สะท้อนว่า พวกเราสมาชิกครอบครัวอาเซียนทุกคนย่อมมีส่วนในการสร้างสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียนให้เป็นประชาคมแห่งการให้และการแบ่งปัน

อีกทั้งการรวมตัวกันวันนี้แสดงว่าชุมชนชาวอาเซียนในพื้นที่ พร้อมร่วมมือกับเวียดนามซึ่งเป็นประเทศเจ้าบ้านของพวกเราและจะเป็นประธานอาเซียนในปีหน้า เพื่อทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์ ตอบแทนคืนสู่สังคมเวียดนาม

อนึ่ง ในเดือนตุลาคมของทุกปี ยังเป็นเดือนที่มีความหมายยิ่งต่อชาวไทย เนื่องจากเป็นเดือนแห่งการรำลึกถึงมหาราช 2 รัชกาลของไทย ได้แก่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งทั้งสองพระองค์ทรงมีบทบาทสำคัญในประวัติของสภากาชาดไทย และทรงให้ความสำคัญต่อมนุษยธรรมและการให้อีกด้วย จึงขอเชิญชวนชาวไทยร่วมกันทำความดีโดยตั้งจิตน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ทั้ง 2 รัชกาล”

นอกจากนี้ ภายในกิจกรรม ยังมีการตั้งซุ้มอาหารจากแต่ละประเทศ โดยสถานกงสุลใหญ่ฯ ได้รับการสนับสนุนผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าวจากบริษัทเวียดเวิลด์และผลิตภัณฑ์อาหารจากบริษัทเคเอฟซี ซึ่งสถานกงสุลใหญ่ฯ ขอขอบคุณมา ณ ที่นี่