ยอดส่งออกผลไม้ของจังหวัดเตี่ยนซางเพิ่มสูงขึ้นในไตรมาสที่ 1 ของปี 2563

จังหวัดเตี่ยนซางเป็นหนึ่งในจังหวัดสำคัญในภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นแหล่งเกษตรกรรมที่สำคัญของประเทศ มีพื้นที่ด้านการเกษตรกรรม 79,000 เฮกตาร์ สำหรับปลูกผลไม้หลากหลายชนิดและให้ผลผลิตถึง 1.49 ล้านตันต่อปี โดยในไตรมาสแรกของปี 2563 สามารถส่งออกผลไม้ได้ 1,920 ตัน มูลค่า 3.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไปยังประเทศจีน ภูมิภาคยุโรป สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562

ทั้งนี้ เนื่องด้วยการแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการส่งออกผลไม้และผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูปของจังหวัดฯ ไปยังต่างประเทศ คณะกรรมการประชาชนประจำจังหวัดฯ จึงได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานร่วมกับนักธุรกิจและองค์กรต่าง ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า  Big-C (ธุรกิจของไทย) ได้รับซื้อแก้วมังกรจากกลุ่มสหกรณ์อำเภอ My Thinh An เพื่อแก้ไขปัญหายอดจำหน่ายตกต่ำ และจังหวัดฯ ยังให้ความสำคัญกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง การพัฒนาเกษตรกรรมอัจฉริยะ และร่วมกับเครือข่ายกลุ่มสหกรณ์การเกษตร 130 แห่ง เพื่อส่งเสริมห่วงโซ่อุปทานการผลิตที่มีประสิทธิภาพอีกด้วย

ที่มา: Viet Nam News วันที่ 15 เมษยาน 2563

URL: https://vietnamnews.vn/economy/715228/tien-giangs-q1-fruit-exports-up-203.html

ราคาที่ดินสำหรับการเกษตรกรรมปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากการแพร่ระบาดของ Covid-19

ในขณะที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการแพร่ระบาดของ COVID-19 แต่กลับมีการลงทุนในที่ดินสำหรับเกษตรกรรมมากขึ้นเนื่องจากประชาชนต้องการกลับไปใช้ชีวิตที่ใกล้ชิดธรรมชาติและสภาพแวดล้อมในชนบทมากขึ้น

บริษัทตัวแทนซื้อขายที่ดินในนครโฮจิมินห์ระบุว่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมบริเวณจังหวัดทางตอนใต้ของเวียดนามมีราคาเพิ่มสูงขึ้นถึง 2-3 เท่า เนื่องจากประชาชนจำนวนมากมีแนวโน้มย้ายถิ่นฐานออกจากเมืองใหญ่ไปยังชนบทมากขึ้นตั้งแต่ปี 2562 และสถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 ยิ่งเป็นปัจจัยทำให้ผู้คนย้ายถิ่นที่อยู่ไปชานเมืองและชนบทมากขึ้น เนื่องจากการบังคับใช้มาตรการการเว้นระยะห่างทางสังคม (social distancing) ทำให้หลายคนแสวงหาพื้นที่สวนและพื้นที่เพาะปลูกในชนบทแทนการกักตัวอยู่ในพื้นที่คับแคบในเมืองใหญ่ ผู้อำนวยการบริษัทอสังหาริมทรัพย์ Viet An Hoa กล่าวว่า นักลงทุนส่วนใหญ่จะแบ่งค่าใช้จ่ายจากงบประมาณร้อยละ 5 - 10 เพื่อซื้อที่ดินสำหรับเกษตรกรรมหรือฟาร์มขนาดเล็กในจังหวัดใกล้เคียงของนครโฮจิมินห์

แหล่งข่าวระบุว่าเมืองดาลัด จังหวัดเลิมด่ง ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวตากอากาศที่มีชื่อเสียงบริเวณที่ราบสูงตอนล่างของประเทศมีความต้องการซื้อที่ดินเพื่อการเกษตรที่สูงขึ้นโดยราคาที่ดินต่อ 1 แปลงขนาด1,000 ตารางเมตร ปรับตัวสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากเดิมประมาณ 400-700 ล้านด่ง (17,000-30,000 ดอลลาร์สหรัฐ)  เป็น 3-6 พันล้านด่ง (128,000-256,000 ดอลลาร์สหรัฐ) และจังหวัดด่งนายโดยมีราคาประมาณ 2-2.5 พันล้านด่ง (85,500-106,900 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อแปลง ทั้งนี้ ราคาที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงก็เพิ่มสูงขึ้น อาทิ จังหวัดเตี่ยนซาง ซึ่งพื้นที่ต่อแปลงมีราคาเพิ่มขึ้นจากเดิม 200-230 ล้านด่ง (8,500-9,800 ดอลลาร์สหรัฐ) เป็น 400 ล้าน – 1 พันล้านด่ง (17,100-42,700 ดอลลาร์สหรัฐ)  รวมถึงจังหวัดล็องอานและจังหวัดด่งท้าป ก็มีราคาตั้งแต่ 400 ล้าน – 1 พันล้านด่ง (17,100-42,700 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อแปลงเช่นกัน

ที่มา: Vietnamplus วันที่ 20 เมษายน 2563

URL: https://en.vietnamplus.vn/agricultural-land-price-increases-during-covid19/171770.vnp

นครโฮจิมินห์เป็นจังหวัดแรกที่มีรายได้จากการส่งออกมากกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสแรก

จากรายงานของกรมศุลกากรเวียดนามพบว่า นครโฮจิมินห์เป็นจังหวัดแรกในเวียดนามที่มีมูลค่าการส่งออกมากกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสแรกของปี 2563 และยังมีอีก 10 จังหวัดในเวียดนามที่มีมูลค่าการส่งออกมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสแรก ได้แก่ จังหวัดบั๊กซาง บั๊กนิญ บิ่ญเซือง ด่งนาย หายเซือง นครไฮฟอง ล็องอาน เตยนิญ ท้ายเหวียน และกรุงฮานอย ซึ่งทั้ง 11 จังหวัดมีมูลค่าการส่งออกรวมกันประมาณ 4.93 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 78 ของมูลค่าการส่งออกของทั้งประเทศในช่วงไตรมาสแรกของปี 2563 ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2562 มี 10 จังหวัดข้างต้นที่มีมูลค่าการส่งออกมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐยกเว้นจังหวัดเตยนิญ

ทั้งนี้ ในปี 2562 นครโฮจิมินห์ยังคงเป็นผู้นำด้านการส่งออกโดยในไตรมาสแรกมีมูลค่าการส่งออก 1.05 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 คิดเป็นร้อยละ 16.6 ของมูลค่าการส่งออกของทั้งประเทศ รองลงมาเป็นจังหวัดบั๊กนิญซึ่งมีมูลค่าการส่งออก 8.06 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 450 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 และนครไฮฟองซึ่งมีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น 1.05 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะเดียวกันกรุงฮานอยและจังหวัดท้ายเหวียน มีมูลค่าการส่งออกลดลงจาก 3.35 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเหลือ 3.15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และจาก 7.36 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเหลือ 6.95 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ

ที่มา: Nhan Dan Online วันที่ 27 เมษายน 2563

URL: https://en.nhandan.com.vn/business/item/8596102-hcm-city-becomes-first-locality-with-over-us$10-billion-export-revenue-in-first-quarter.html