ข่าวเด่นวันที่ 15-16 สิงหาคม 2560

1. นครดานังจะมีจำนวนห้องพักเพิ่มขึ้น 2 เท่าภายในปี 2563

บริษัท CBRE Viet Nam บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังในเวียดนาม เปิดเผยว่า ในช่วง 3 ปีข้างหน้า จำนวนห้องพักในโรงแรมต่างๆ ในนครดานังที่มีอยู่ปัจจุบัน 14,255 ห้อง จะเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 32,000 ห้อง ซึ่งยังไม่รวมถึงห้องพักประเภทต่างๆ เช่น Condotel หรือบ้านพักให้เช่า แม้ว่าภาคการท่องเที่ยวในนครดานังจะต้องแข่งขันกับภาคการท่องเที่ยวของจังหวัดใกล้เคียงอื่นๆ อาทิ เมืองยาจาง และจังหวัดกว๋างนาม ก็ตาม

บริษัทฯ เปิดเผยต่อว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2560 นครดานังมีห้องพักให้บริการนักท่องเที่ยวเพิ่มกว่า 1,000 ห้อง ซึ่งในจำนวนนั้นแบ่งเป็นโรงแรมใหม่ระดับ 5 ดาว 1 แห่ง และโรงแรมระดับ 4 ดาว 3 แห่ง ทำให้ในปัจจุบัน จำนวนห้องพักของโรงแรมระดับ 3 – 5 ดาวในนครดานังมีจำนวนกว่า 12,700 ห้อง โดยบริษัทฯ คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ และมีจำนวนห้องพักเพิ่มขึ้นกว่า 3,800 ห้อง ภายในปลายปี 2560 จาก 21 โรงแรม เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 40 เมื่อเทียบกับปี 2560 และภายในปี 2562 จะมีจำนวนห้องพักใหม่จากโรงแรมระดับ 3 – 5 ดาวกว่า 19,600 ห้อง เปิดให้บริการนักท่องเที่ยว

ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2560 อัตราเข้าพักโรงแรมระดับ 4 – 5 ดาวอยู่ที่ร้อยละ 62 ราคาค่าห้องต่อ 1 คืนอยู่ที่  117.6 ดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยในช่วงระหว่างปี 2557 – 2560 โรงแรมระดับ 3 ดาวมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 31 และโรงแรมระดับ 4 มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 34

ที่มา สำนักข่าว VnExpress วันที่ 13 สิงหาคม 2560

http://kinhdoanh.vnexpress.net/tin-tuc/bat-dong-san/da-nang-se-co-gap-doi-so-phong-khach-san-vao-nam-2020-3626679.html

2. นครโฮจิมินห์จะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วเป็นอันดับ 2 ของทวีปเอเชียในอีก 5 ปีข้างหน้า

ข้อมูลจาก Oxford Economics กล่าวว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า การเติบโตทางเศรษฐกิจของนครโฮจิมินห์จะเป็นอันดับ 2 ของทวีปเอเชีย ตามหลังเพียงแค่กรุงนิวเดลี ของประเทศอินเดียเท่านั้น ซึ่งเป็นเมืองเดียวที่อยู่ใน 5 อันดับแรกที่ไม่ใช่เมืองในประเทศอินเดีย โดยมีการคาดการณ์ว่า ในปี 2564 เศรษฐกิจของนครโฮจิมินห์จะเติบโตขึ้นกว่าเดิมร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับปี 2559 เมื่อนับตั้งแต่ปัจจุบันไปจนถึงปี 2564 ระดับการเจริญเติบโตของ GDP ในนครโฮจิมินห์จะเพิ่มขึ้นถึงประมาณร้อยละ 8 ในแต่ละปี สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของนครโฮจิมินห์ในการเป็นศูนย์กลางทางการค้า อุตสาหกรรม และการบริการของประเทศเวียดนาม

สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า การที่สภาพเศรษฐกิจโดยรวมของนครโฮจิมินห์ และเมืองต่างๆ ในประเทศอินเดียมีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วไม่ใช่เรื่องแปลกแต่ประการใด เนื่องจากเมืองใหญ่ ๆ หลาย ๆ เมืองในประเทศจีนชะลอการพัฒนาลง และเมืองใหญ่ ๆ ใน ประเทศอื่น ๆ เช่น กรุงเทพฯ กรุงกัวลาลัมเปอร์ กรุงมะนิลา หรือกรุงจากาตาร์ มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 3 ต่อปี ในขณะที่เมืองต่าง ๆ ในญี่ปุ่นก็ชะลอการพัฒนาทางเศรษฐกิจลงเช่นกัน อาทิ นครโอซากาที่เติบโตขึ้นเพียงร้อยละ 1 ต่อปี โดยระดับการเติบโต GDP โดยเฉลี่ยของเมืองใหญ่ 30 แห่ง ในทวีปเอเชีย ระหว่างช่วงปี 2560 – 2564 อยู่ที่ร้อยละ 4.2 เท่านั้น เมื่อเทียบกับช่วงปี 2554 – 2559 ที่มีอัตราการเติบโตที่ร้อยละ 4.5

ทั้งนี้ หนังสือพิมพ์ Nikkei รายงานเพิ่มเติมว่า ในอนาคตอันใกล้ เมืองที่จะมีโอกาสพัฒนาทางเศรษฐกิจมากที่สุดจะไม่ใช่เมืองที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เช่น จังหวัดเชียงใหม่และนครดานัง ซึ่งเป็นเมืองที่มีการพัฒนาการทางเศรษฐกิจมากที่สุดในภาคกลางของเวียดนาม

ที่มา หนังสือพิมพ์ Tuoi Tre วันที่ 10 สิงหาคม 2560 หน้า 19

3. บริษัท Tokyo Gas ต้องการสร้างคลังเก็บแก๊ส LNG บริเวณท่าเรือ Cai Mep – Thi Vai จังหวัดบ่าเหรี่ยะ-หวุงเต่า

ในวันที่ 15 สิงหาคม 2560 นาย Michaiaki Hirose ผู้อำนวยการสูงสุดของบริษัท Tokyo Gas สัญชาติญี่ปุ่น ได้เข้าหารือกับนาย Nguyen Xuan Phuc นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ณ ทำเนียบนายกรัฐมนตรี ในการเสนอแผนการก่อสร้างคลังเก็บแก๊ส LNG บริเวณท่าเรือ Cai Mep – Thi Vai จังหวัดบ่าเหรี่ยะ-หวุงเต่า โดยบริษัทฯ จะใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด

ในที่ประชุม นายกรัฐมนตรีฯ แสดงความยินดีต่อบริษัทฯ ที่ประสบความสำเร็จในการจัดตั้งสำนักงานตัวแทนในเวียดนาม และได้ร่วมมือกับบริษัท PV GAS ในการพัฒนาธุรกิจแก๊ซธรรมชาติ ซึ่งประเทศเวียดนามมีทรัพยากรแก๊สธรรมชาติใต้ทะเลเป็นจำนวนมาก ซึ่งนายกรัฐมนตรีฯ มองว่า บริษัทฯ จะสามารถประสบความสำเร็จได้ในเวียดนาม และอนุญาตให้บริษัทฯ ศึกษาแผนการพัฒนาและความเป็นไปได้ในการลงทุน และให้นำส่งคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติการลงทุนอีกครั้ง ซึ่งหากบริษัทฯ ประสบปัญหาในการลงทุนหรือมีข้อร้องเรียนประการใด ตัวแทนของบริษัทฯ สามารถสอบถามและแจ้งไปยังกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าได้โดยตรง

นาย Hirose กล่าวว่า ในอนาคต บริษัทฯ จะเพิ่มความร่วมมือกับบริษัท PV GAS โดยหวังว่ารัฐบาลจะให้ความร่วมมือและช่วยเหลือเพิ่มมากขึ้น โดยทั้ง 2 บริษัท จะร่วมมือกันสร้างคลังเก็บแก๊ส LNG บริเวณท่าเรือ  Cai Mep – Thi Vai โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในประเทศเวียดนาม นอกจากนั้น นาย Hirose ย้ำว่า เวียดนามเป็นคู่ค้าที่สำคัญมากที่สุดประเทศหนึ่งในด้านธุรกิจพลังงาน

นายกรัฐมนตรีฯ กล่าวย้ำว่า ยังมีนักลงทุนชาวเวียดนามอีกหลายบริษัท ที่มีความเชื่อมั่นและต้องการจะร่วมมือกับนักลงทุนสัญชาติญี่ปุ่น สืบเนื่องมาจากนักลงทุนชาวญี่ปุ่นมีความน่าเชื่อถือ มีประสบการณ์ และมีความเชี่ยวชาญ

ที่มา หนังสือพิมพ์ Bao Dau Tu Viet Nam วันที่ 16 สิงหาคม 2560

URL: http://baodautu.vn/tokyo-gas-muon-xay-dung-kho-cang-lng-cai-mep---thi-vai-tro-thanh-cong-trinh-hien-dai-nhat-viet-nam-d68170.html

4. เถื่อเทียน-เว้ ขออนุมัติดำเนินธุรกิจคาสิโน

คณะกรรมการประชาชนจังหวัดเถื่อเทียน-เว้ ได้เสนอต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อขออนุญาตให้มีการพัฒนาธุรกิจคาสิโนในโครงการ Laguna Lang Co Complex ที่ลงทุนโดยบริษัท Laguna Viet Nam โดยจะเพิ่มเงินลงทุนจาก 875 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จำนวนห้องพักบริเวณโรงแรมจาก 2,180 ห้อง เป็น 3,178 ห้อง และจำนวนบ้านพักประเภทวิลล่าจาก 1,180 หลัง เป็น 2,253 หลัง ซึ่งเงินลงทุนมูลค่ากว่า 249.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐจะถูกนำไปใช้ในการพัฒนาธุรกิจคาสิโน พื้นที่ 2.64 เฮกตาร์โดยเฉพาะ

ก่อนหน้านี้ในเดือนมิถุนายน 2558 จังหวัดเถื่อเทียน-เว้ เสนอให้เขตเศรษฐกิจ Chan May Lang Co เป็นหนึ่งในโครงการนำร่องในการพัฒนาธุรกิจคาสิโนของประเทศให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา อย่างไรก็ดี คณะรัฐมนตรีเวียดนามไม่เห็นชอบโครงการดังกล่าว

ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา มีนักลงทุนต่างชาติจำนวนมากเดินทางมาศึกษาดูงานในจังหวัดเถื่อเทียน-เว้ โดยเล็งพัฒนาธุรกิจคาสิโนในปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ผู้ประกอบการธุรกิจคาสิโนของสหรัฐฯ และเครือข่ายโรงแรม Hard Rock ยืนยันว่า ทั้ง 2 บริษัทได้ให้ความสนใจในการพัฒนาธุรกิจคาสิโนที่ Laguna Lang Co Complex เช่นกัน

นาย Daniel Cheng รองประธานอาวุโสของบริษัท Hard Rock นักพัฒนาธุรกิจคาสิโนชื่อดังในทวีปเอเชียกล่าวว่า บริษัท Hard Rock ได้ศึกษาความเป็นไปได้และจัดหาแหล่งเงินทุนที่จำเป็นในการพัฒนาธุรกิจแล้ว   บริษัท Hard Rock กำลังรอรัฐบาลเวียดนามอนุมัติใบอนุญาตการดำเนินธุรกิจคาสิโน โดยบริษัท Hard Rock จะดำเนินการก่อสร้างทันทีหลังจากได้รับอนุมัติ

หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า หากธุรกิจคาสิโนดังกล่าวผ่านการเห็นชอบจากรัฐบาลจะมีส่วนช่วยสนับสนุนงบประมาณของจังหวัดในแต่ละปีถึง 245 ล้านดอลลาสหรัฐ นับจากปี พ.ศ. 2564

โครงการ Laguna Lang Co Complex ตั้งอยู่บริเวณคาบสมุทร Vinh ในจังหวัดเถื่อเทียน-เว้ มีพื้นที่ทั้งหมด 280 เฮกตาร์ ประกอบไปด้วยพื้นที่รีสอร์ทและบ้านพักให้เช่า – ซื้อ ของบริษัท Banyan Tree และ Angsana และ สนามกอล์ฟ 18 หลุม

ในเดือนมกราคม 2560 รัฐบาลได้ออกกฎหมายฉบับที่ 03/2017/ND-CP เกี่ยวกับธุรกิจคาสิโน ซึ่งมีผลในเดือนมีนาคมปีนี้ เกี่ยวกับธุรกิจการพนันในเวียดนาม ซึ่งนักลงทุนที่ประสงค์จะลงทุนในธุรกิจคาสิโนจะต้องลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำ 2 พันล้านดอลลาสหรัฐ และต้องยื่นแผนการบริหารจัดการ รวมถึงผลกระทบด้านลบของการดำเนินการธุรกิจคาสิโนเพื่อเสนอต่อรัฐบาล อีกทั้งผู้ประกอบการดังกล่าวสามารถให้บริการธุรกิจคาสิโนในที่ที่กำหนดไว้เท่านั้น และต้องแยกออกจากพื้นที่ธุรกิจอื่นๆ ที่เป็นธุรกิจบันเทิงให้ออกจากกันอย่างเด็ดขาด

กฎหมายดังกล่าวยังเปิดโอกาสให้ชาวเวียดนามสามารถเล่นการพนันได้อย่างถูกกฎหมาย โดยจะได้รับอนุญาตให้สามารถเล่นการพนันในช่วงระยะเวลาของการทดลอง 3 ปี นับจากวันที่ผู้ประกอบการรายแรกได้รับใบอนุญาต  โดยจะต้องมีอายุอย่างน้อย 21 ปี และมีรายได้ต่อเดือนสม่ำเสมออย่างน้อย 10 ล้านด่ง (454.5 ดอลลาสหรัฐ)

ที่มา หนังสือพิมพ์ Bao Dau Tu Viet Nam วันที่ 11 สิงหาคม 2560

URL: http://baodautu.vn/laguna-lang-co-de-xuat-xin-bo-sung-hoat-dong-casino-d67879.html

********************************************************

ศูนย์ข้อมูลธุรกิจไทยในนครโฮจิมินห์