ข่าวเด่นวันที่ 9 เมษายน 2561

1. บริษัทนวพลาสติกอุตสาหกรรมเตรียมซื้อหุ้นในบริษัท Binh Minh Plastic บริษัทผลิตพลาสติกรายใหญ่ของเวียดนามเพิ่ม

ผู้แทนตลาดหุ้นนครโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh Stock Exchange: HOSE) ระบุว่า บริษัทนวพลาสติกอุตสาหกรรม บริษัทในเครือกลุ่มบริษัท SCG ได้ลงทะเบียนซื้อหุ้นบริษัท Binh Minh Plastic บริษัทผลิตพลาสติกรายใหญ่ของเวียดนามเพิ่มจำนวน 818,609 หุ้น ซึ่งการซื้อหุ้นในครั้งนี้จะทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทฯ เพิ่มจากร้อยละ 49.89 เป็นร้อยละ 51 ขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท Binh Minh Plastic

เมื่อเดือนที่แล้ว บริษัทนวพลาสติกอุตสาหกรรม เพิ่งซื้อหุ้นบริษัท Binh Minh Plastic จำนวน 24.13 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 24.16 มูลค่ากว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากบริษัท State Capital Investment Corporation บริษัทที่ดูแลการถือหุ้นรัฐวิสาหกิจของภาครัฐ

จากการประเมินของบริษัท Ho Chi Minh City Securities Corporation บริษัทโบรกเกอร์และที่ปรึกษาทางการเงินรายใหญ่ของเวียดนาม ชี้ให้เห็นว่า ปัจจุบัน กลุ่มบริษัท SCG ได้แสดงเจตนารมย์ชัดเจนในการเจาะตลาดอุตสาหกรรมพลาสติกของเวียดนาม ซึ่งนอกจากการถือหุ้นในบริษัท Binh Minh Plastic แล้ว กลุ่มบริษัท SCG ยังถือหุ้นในบริษัท TPC Viet Nam อีกด้วย และกลุ่มบริษัท SCG กำลังวางแผนการซื้อหุ้นของบริษัทผู้ผลิตพลาสติกรายอื่นในประเทศเพิ่มเติม

บริษัท Binh Minh Plastic มีโรงงานผลิตพลาสติก 4 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในภาคใต้ของประเทศ มีกำลังการผลิตกว่า 140,000 ตัน/ปี มีช่องทางการกระจายสินค้าและตัวแทนจำนวนมาก และมีชื่อเสียงผลิตภัณฑ์เป็นที่ยอมรับมานาน อย่างไรก็ดี ในช่วง 2 ปีหลัง บริษัท Binh Minh Plastic ไม่สามารถปรับตัวกับตลาดที่มีภาวะการแข่งขันสูง จึงทำให้สูญเสียตลาดเป้าหมายไปส่วนหนึ่งและมีกำไรลดลงเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า

ในปี 2560 บริษัท Binh Minh Plastic มีรายได้กว่า 4,000 พันล้านด่ง (ประมาณ 176 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 แต่ได้กำไรเพียง 471 พันล้านด่ง (ประมาณ 20.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ลดลงกว่าร้อยละ 25 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

ที่มา สำนักข่าว Dien Dan Doanh Nghiep วันที่ 5 เมษายน 2561

URL: http://enternews.vn/tham-vong-cua-scg-khi-muon-nuot-tron-nhua-binh-minh-127187.html

2. จังหวัดบิ่นห์ถ่วนดึงดูดโครงการลงทุนพลังงานแสงอาทิตย์มูลค่า 38 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ในวันที่ 5 เมษายน 2561 นาย Do Minh Kinh ผู้อำนวยการสำนักงานอุตสาหกรรมและการค้าจังหวัดบิ่นห์ถ่วน ให้สัมภาษณ์ว่า สำนักงานฯ ได้อนุมัติการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในอำเภอ Bac Binh บนพื้นที่ 41.5 เฮกตาร์ ในลักษณะการลงทุนร่วมภาครัฐและเอกชนแบบ Build – Own – Operation โดยจะเริ่มก่อสร้างในเดือนมิถุนายน 2561 และคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนมีนาคม ปี 2562 ซึ่งหลังจากแล้วเสร็จจะสามารถเชื่อมต่อกับระบบการจ่ายไฟฟ้าของประเทศได้

ในระยะแรก โครงการดังกล่าวจะสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้กว่า 75 kWh โดยแผงเซลล์ในโครงการดังกล่าวทำจากวัสดุโลหะซิลิกอนหลากหลายสี  ซึ่งเป็นซิลิกอนบริสุทธิ์ ที่นิยมใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลก โดยรัฐบาลเวียดนามได้พิจารณาว่า จังหวัดบิ่นห์ถ่วนมีสภาพภูมิอากาศแห้งแล้งที่ยาวนาน มีแสงแดดตลอดทั้งปี และเหมาะสมจะเป็นศูนย์กลางของประเทศในการผลิตพลังงานไฟฟ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและพลังงานทดแทน (พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม)

ปัจจุบัน จังหวัดบิ่นห์ถ่วนมีโครงการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์กว่า 10 โครงการ สามารถผลิตกระแสไฟฟ้ารวมกว่า 384 MWp มูลค่าการลงทุนรวมกว่า 11,730 พันล้านด่ง (514 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

นาย Kinh กล่าวสรุปว่า ปัจจุบัน จังหวัดให้สิทธิประโยชน์ในการลงทุนด้านพลังงานทดแทนแก่นักลงทุนที่มากกว่าที่อื่น อย่างไรก็ดี ข้อท้าทายของการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนคือนักลงทุนจำเป็นต้องมีเงินลงทุนจำนวนมาก

ที่มา หนังสือพิมพ์ Tuoi Tre วันที่ 5 เมษายน 2561

URL: https://tuoitrenews.vn/news/business/20180406/38mn-solar-power-plant-to-be-built-in-southcentral-vietnam/44968.html

3. นักท่องเที่ยวจีน-เกาหลีใต้ติดอันดับนักท่องเที่ยวเยือน “นครดานัง” มากที่สุด

นาย Tran Chi Cuong รองประธานสำนักงานการท่องเที่ยวนครดานัง กล่าวว่า ปัจจุบันนครดานังได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวจีนและเกาหลีใต้ โดยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2561 นักท่องเที่ยวทั้งสองชาติคิดเป็นร้อยละ 45 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด ซึ่งคณะกรรมการประชาชนนครดานังเล็งจัดตั้งสำนักงานการท่องเที่ยวนครดานังในประเทศจีน เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวอีกทางหนึ่ง

ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2561 มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในนครดานังทั้งหมด 1.7 ล้านคนเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 34.7 โดยเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 820,000 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 58.9 และมีรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 263 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 58.7 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า

มีนักท่องเที่ยวประมาณ 500,000 คนเดินทางสู่นครดานังโดยเครื่องบิน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกของปีที่แล้วร้อยละ 42.2 และมีนักท่องเที่ยวโดยสารโดยเรือทั้งหมด 49 ลำหรือประมาณ 60,000 คน

ในปี 2561 สำนักงานการท่องเที่ยวนครดานังตั้งเป้าหมายดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ได้ 7.47 ล้านคน เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 3 ล้านคน โดยสำนักงานการท่องเที่ยวนครดานังจะจัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศอาทิ งาน The 2018 Vietnam Festival ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในเดือนพฤษภาคม และงาน The International Travel Expo HCMC 2018 ในนครโฮจิมินห์ เดือนกันยายน 2561

นาย Cuong กล่าวปิดท้ายว่านครดานังจะมีมหกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในนครอีกหลายแห่ง อาทิ The Danang International Fireworks Festival 2018, Danang Sea Tourism Program และ Danang Summer Destination ที่สำนักงานหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนเป็นต้นไป สำนักงานประชาชนนครดานังได้ออกข้อบังคับห้ามรถโดยสารจำนวน 30 ที่นั่งขึ้นไปเข้าในเขตตัวเมือง โดยเฉพาะพื้นที่เศรษฐกิจใจกลางนครดานัง ตั้งแต่เวลา 17.00 น. ถึง 18.30 น. เพื่อลดปัญหาการจราจรติดขัด และหากรถโดยสารคันใดฝ่าฝืนจะต้องจ่ายค่าปรับ

นาย Le Van Trung ผู้อำนวยการสำนักงานการคมนาคมนครดานังกล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมา การจราจรของนครดานังติดขัดอย่างมาก เนื่องจากถนนเส้นต่างๆ เป็นเส้นทางไปสู่สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ อาทิ ตลาด Han และสะพาน Dragon และสำนักงานฯ ได้ยื่นเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการประชาชนนครดานังสร้างอาคารจอดรถในบางพื้นที่สำหรับรถนักท่องเที่ยวโดยสารโดยเฉพาะเพื่อบรรเทาการจราจรติดขัด และสำนักงานฯ จะเก็บค่าธรรมเนียมจอดรถบนถนน Tran Phu และถนน Bach Dang โดยผู้ขับขี่สามารถจ่ายค่าธรรมเนียมได้ ผ่านแอพลิเคชั่น Smart Parking ที่สำนักงานฯ เป็นผู้พัฒนา

ที่มา หนังสือพิมพ์ The Saigon Times Daily วันที่ 4 เมษายน 2561 หน้า 2

4. เหตุการณ์ไฟไหม้ส่งผลให้การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ลดลงในนครโฮจิมินห์

เหตุเพลิงไหม้ที่อาคาร Carina Plaza เขต 8 นครโฮจิมินห์ เมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคม 2561 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 13 คน ได้รับบาดเจ็บประมาณ 100 คน และมีทรัพย์สินเสียหายเป็นจำนวนมาก อาทิ รถจักรยานยนต์ประมาณ 150 คันและรถยนต์ประมาณ 10 คัน ซึ่งเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรบริเวณลานจอดรถ

นาย Nguyen Minh Khang ผู้อำนวยการกลุ่มบริษัท LDG สาขานครโฮจิมินห์ กลุ่มบริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในเวียดนาม กล่าวว่า เหตุเพลิงไหม้ที่อาคาร Carina Plaza ในเขต 8 ส่งผลให้ลูกค้าจำนวนมากลังเลที่จะซื้อคอนโดมิเนียมและคาดว่าการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียมในนครโฮจิมินห์จะลดลง ร้อยละ 20 อย่างไรก็ตาม จะมีผลในระยะสั้นเท่านั้นและจะไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่น

นาย Truong Quoc Dung รองผู้อำนวยการบริษัท Hung Thinh Corporation บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังของเวียดนาม กล่าวว่า ผู้ซื้อคอนโดมิเนียมทั้งลูกค้ารายเก่าและรายใหม่เริ่มมองหาอาคารที่อยู่อาศัยที่มีมาตการการป้องกันการเกิดเหตุอัคคีภัยที่เชื่อถือได้ โดยหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว บริษัทฯ ได้ติดตั้งเครื่องดับเพลิงชนิดพิเศษในพื้นที่ส่วนกลางของอสังหาริมทรัพย์ประเภทต่างๆ ของบริษัท มูลค่ากว่า 137,700 ดอลลาร์สหรัฐ

นาย Le Hoang Chau ประธานสมาคมอสังหาริมทรัพย์นครโฮจิมินห์ ให้สัมภาษณ์ว่า เหตุการณ์เพลิงไหม้จะส่งผลต่อภาพรวมของตลาดคอนโดมิเนียมในนครโฮจิมินห์ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น เนื่องจากประชาชนในนครยังมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยอีกมากและกระแสการเติบโตของความเป็นเมือง อย่างไรก็ดี ที่ดินบางแห่งในนครโฮจิมินห์กลับมีราคาปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากหลายฝ่ายยังคงต้องการซื้อไปเก็งกำไรและผู้ซื้อหลายคนกังวลเรื่องความปลอดภัยหลังจากเหตุการณ์ไฟไหม้

นาย Nguyen Thanh Hai หัวหน้าแผนกบริหารจัดการที่อยู่อาศัยและสำนักงาน สังกัดสำนักงานการก่อสร้างนครโฮจิมินห์ กล่าวว่า ยังมีคอนโดมิเนียมอีก 7 แห่งในนครโฮจิมินห์ที่ยังไม่ได้รับการประเมินด้านการป้องการเกิดอัคคีภัย แต่ผู้ลงทุนในคอนโดมิเนียมนั้น ๆ กลับมีใบอนุญาตให้ลูกค้าเข้าอาศัยได้ ซึ่งคณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์ได้ประสานงานไปยังผู้พัฒนาทุกโครงการแล้ว

ที่มา : หนังสือพิมพ์ The Saigon Times Daily วันที่ 4 และ 5 เมษายน 2561 หน้า 1 และ 1

และสำนักข่าว Zing. Vn วันที่ 5 เมษายน 2561

URL: https://news.zing.vn/can-ho-kho-ban-dat-nen-nhay-gia-sau-vu-chay-chung-cu-carina-post831946.html