ข่าวเด่นวันที่ 16 - 18 มิถุนายน 2561

1. บริษัท Hafele เวียดนามเปิดศูนย์กระจายสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศที่จังหวัดบิ่นห์เยือง

ในงานครบรอบ 20 ปีของบริษัท เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2561 บริษัท Hafele เวียดนาม ได้เปิดตัวศูนย์กระจายสินค้าภาคใต้ของบริษัท Hafele ในจังหวัดบิ่นห์เยืองมีพื้นที่ครอบคลุมกว่า 12,000 ตารางเมตรและสามารถกระจายสินค้าได้มากถึง 300 คำสั่งซื้อต่อวัน ซึ่งเป็นการยกระดับความสามารถในการขนส่งของบริษัท

นอกจากนั้น บริษัท Hafele เวียดนามได้กลายเป็นหุ้นส่วนระดับภูมิภาคอย่างเป็นทางการของสโมสร FC Bayern สโมสรฟุตบอลชั้นนำของประเทศเยอรมนีภายใต้ข้อตกลง 3 ปี ซึ่งบริษัท Hafele จะจัดกิจกรรมเพื่อให้แฟนฟุตบอลชาวเวียดนามได้มีโอกาสใกล้ชิดกับกีฬาฟุตบอล รวมถึงเข้าใจวัฒนธรรมของเยอรมนีมากขึ้น

นาย Dominik Fruth ผู้อำนวยการบริษัท Hafele ประจำประเทศเวียดนาม สิงคโปร์ และมาเลเซีย ได้กล่าวภายในงานว่า เศรษฐกิจของประเทศเวียดนามมีความเข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ ทำให้บริษัทมีพัฒนาการที่ดีในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา และบริษัทต้องการให้ลูกค้า หุ้นส่วน และพนักงานได้รับสิ่งที่ดีที่สุด ด้วยประสบการณ์และความชำนาญของบริษัทที่มีมากกว่าหลายทศวรรษ

บริษัท Hafele ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2466 โดยเป็นหนึ่งในผู้จัดหาบ้านอัจฉริยะหรือ Smart Home ที่มีชื่อเสียงระดับโลก และเริ่มทำธุรกิจในเวียดนามเมื่อปี 2541 โดยได้พัฒนาและเพิ่มการผลิตสินค้าและบริการ โดยเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้าน เช่น ที่ล็อคประตู ห้องครัว ตู้เสื้อผ้า และห้องน้ำ

ที่มา สำนักข่าว Chung Khoan วันที่ 10 มิถุนายน 2561

URL: http://tinnhanhchungkhoan.vn/cuoc-song/hafele-khai-truong-trung-tam-phan-phoi-lon-nhat-tai-viet-nam-232079.html

2. เงินโอนกลับประเทศสู่นครโฮจิมินห์มีมากกว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

นาย Nguyen Hoang Minh รองผู้อำนวยการธนาคารแห่งชาติเวียดนามสาขานครโฮจิมินห์ กล่าวว่า ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2561 จำนวนเงินที่โอนจากต่างประเทศมาสู่นครโฮจิมินห์มีจำนวนมากถึง 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าอย่างมาก (1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยเงินที่ส่งกลับมายังประเทศเป็นเงินที่ใช้งานการจัดตั้งบริษัทและทำธุรกิจ มากกว่าที่จะลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ ตลาดหุ้น หรือเพื่อออมเงินดังเช่นในอดีต

นอกจากนี้ สภาพเศรษฐกิจเวียดนามในช่วงเวลาที่ผ่านมาค่อนข้างมั่นคงและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้คนหันมาถือเงินด่งแทนสกุลเงินต่างชาติมากขึ้น เป็นสาเหตุที่ทำให้อัตราแลกเปลี่ยนดอลลาร์สหรัฐ-ด่งตั้งแต่ต้นปีค่อนข้างคงที่ ในวันที่ 12 มิถุนายน 1 ดอลลาร์สหรัฐมีมูลค่าประมาณ 22,775-22,845 ด่ง ซึ่งไม่ต่างจากช่วงก่อนหน้ามากนัก โดยจำนวนเงินที่โอนกลับมายังประเทศมีจำนวนเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 – 10 /ปี

ที่มา สำนักข่าว VnExpress วันที่ 13 มิถุนายน 2561

URL: https://kinhdoanh.vnexpress.net/tin-tuc/ebank/ngan-hang/kieu-hoi-ve-tp-hcm-dat-2-ty-usd-3762732.html

3. นักท่องเที่ยวชาวจีนและเกาหลีใต้จำนวนมากใช้บริการทัวร์ราคาประหยัดในนครดานัง

บริษัททัวร์ราคาประหยัดในนครดานังกลายเป็นเป้าหมายสำหรับตลาดจีนและเกาหลีใต้ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวชาวจีนและเกาหลีใต้จำนวนมากกว่าครึ่งของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทั่วโลกที่เดินทางมาเยือนศูนย์กลางเมืองชายฝั่งทะเลของประเทศเวียดนามแห่งนี้ ทั้งนี้ รัฐบาลได้มอบหมายให้สำนักงานการท่องเที่ยวท้องถิ่นทำการตรวจสอบเพื่อจัดประเภทการดำเนินงานบริษัททัวร์ราคาประหยัดและประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจของนครดานัง

ตัวแทนจากบริษัทท่องเที่ยวได้ให้ข้อมูลว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนและเกาหลีใต้เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักสำหรับบริษัทนำเที่ยวราคาประหยัด โดยได้รับกำไรจากค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม รวมถึงค่า Commission ในการพานักท่องเที่ยวไปใช้จ่ายซื้อสินค้าระหว่างการท่องเที่ยว บริษัททัวร์ราคาประหยัดหลายแห่งสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น ซึ่งบริษัททัวร์ท้องถิ่นยอมรับว่าเป็นการยากที่จะแข่งขันกับบริษัทต่างชาติ และมีบางบริษัทท้องถิ่นที่หันมาให้ความช่วยเหลือบริษัทต่างชาติในการดำเนินธุรกิจอย่างผิดกฎหมาย

แม้ว่าบริษัททัวร์ราคาประหยัดจะช่วยแก้ปัญหาคนว่างงานและสร้างกำไรให้กับบริษัทฯ รวมถึงคนท้องถิ่น แต่อาจมีความเสี่ยงต่อการทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยวในแง่ของราคาและคุณภาพของทัวร์ รวมถึงปัญหาทางสังคมอื่นๆ ด้วยเช่นกัน

นาย Nguyen Ngoc Anh กรรมการบริษัท Omega Tours ให้ข้อมูลว่า นักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้ส่วนใหญ่ให้ความสนใจกับทัวร์ราคาประหยัด เนื่องจากไม่ต้องใช้จ่ายเงินจำนวนมากไปกับการท่องเที่ยว โรงแรม และร้านอาหาร โดยในระหว่างการท่องเที่ยวนั้น หุ้นส่วนเกาหลีใต้จะพาลูกทัวร์ไปซื้อสินค้าจากร้านเกาหลีใต้ ทำให้           ภาคการบริการท้องถิ่นไม่ได้รับประโยชน์ใดๆ

ที่มา หนังสือพิมพ์ The Saigon Times Daily วันที่ 12 มิถุนายน 2561 หน้า 2

4. บริษัท The Airport Corporation of Vietnam มองหาแหล่งเงินทุนสำหรับพัฒนาสนามบินในประเทศ จากธนาคารแห่งชาติแคนาดา

เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2561 บริษัท The Airport Corporation of Vietnam (ACV) ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกัน (MOU) กับธนาคารแห่งชาติแคนาดา เพื่อพัฒนาการจัดการด้านการลงทุนและการใช้ประโยชน์ของสนามบินในเวียดนาม โดยนายกรัฐมนตรีเวียดนามเข้าร่วมพิธีลงนาม ณ ประเทศแคนาดา

กระทรวงคมนาคมได้ให้ข้อมูลว่า นอกจากการลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกันแล้ว ผู้นำบริษัท ACV ยังได้แนะนำหุ้นส่วนสัญชาติแคนาดาเกี่ยวกับโครงการปรับปรุงสนามบินแห่งเดิม รวมถึงการสร้างสนามบินระหว่างประเทศแห่งใหม่ รวมถึงสนามบินนานาชาติ Long Thanh จังหวัดด่งนายซึ่ง บริษัท ACV วางแผนระดมทุนจากต่างชาติเพื่อสร้างสนามบินแห่งนี้ โดยสนามบิน Long Thanh จะได้รับการสนับสนุนเงินทุนทางการเงินจาก 2 แหล่งด้วยกัน ได้แก่ เงินทุนจากรัฐบาลซึ่งจะถูกใช้สำหรับการเคลียร์พื้นที่เดิมและสร้างสำนักบริหารงานที่สนามบิน ในขณะที่เงินทุนจากภาคเอกชน จะนำไปใช้เพื่อพัฒนาพื้นที่สำหรับการบริการทางพาณิชย์ เช่น การบำรุงรักษาเครื่องบิน  พื้นที่สำหรับผลิตอาหาร และสถานีเติมเชื้อเพลิง

ในส่วนของเงินทุนจากภาคเอกชนนั้น บริษัท ACV จะแบ่งเงินทุนร้อยละ 50 ของเงินทุนทั้งหมด เพื่อใช้ดำเนินการในเฟสแรก ได้แก่ การสร้างรันเวย์ ลานจอดเครื่องบิน อาคารผู้โดยสาร อาคารคลังสินค้า และลานจอดรถ โดยบริษัท ACV จะนำเงินในส่วนที่เหลือไปใช้ในการออกหุ้นและปล่อยเงินกู้

ทั้งนี้ ล่าสุด บริษัท ACV ได้ประกาศแผนการลงทุนสำหรับโครงการสร้างสนามบินหลัก ในช่วงปี 2561-2564  ซึ่งการวางแผนไปจนถึงปี 2568 โดยใช้เงินทุนทั้งหมดจำนวนมากกว่า 11 ล้านล้านด่ง (ประมาณ 470 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของสนามบินนานาชาติ Noi Bai กรุงฮานอย สนามบินนานาชาติ Tan Son Nhat นครโฮจิมินห์ และสนามบินนานาชาติ Long Thanh จังหวัดด่งนาย

ที่มา หนังสือพิมพ์ The Saigon Times Daily วันที่ 12 มิถุนายน 2561 หน้า 1