กงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ นำคณะจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย สถานกงสุลใหญ่ฯ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานโฮจิมินห์ พร้อมด้วยภาคเอกชนไทย เข้าพบหารือเลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามประจำจังหวัดเบ๊นแจ เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2564 นายอภิรัตน์ สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง กงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ พร้อมด้วยนางสาวมรกต เจนมธุกร อัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย นางรติวัณณ บุญประคอง ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานโฮจิมินห์ และผู้แทนภาคเอกชนไทยที่ลงทุนในจังหวัดเบ๊นแจ ประกอบด้วย บริษัท CP Vietnam บริษัท Gulf Energy (Vietnam) บริษัท Vietworld และบริษัท Alliance One เข้าเยี่ยมคารวะนาย Phan Van Mai เลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามประจำจังหวัดเบ๊นแจ โดยมี นาย Tran Ngoc Tam ประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดเบ๊นแจ ผู้แทนแนวร่วมปิตุภูมิแห่งชาติ สหพันธ์องค์กรมิตรภาพ กรมวางแผนและการลงทุน และสมาคมเกษตรกร ให้การต้อนรับ ทั้งสองฝ่ายได้หารืออย่างกว้างขวางทั้งในประเด็นด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว โดยทางจังหวัดเบ๊นแจแสดงความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มีภาคเอกชนไทยเข้ามาลงทุนในจังหวัดและประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยเห็นว่าการพัฒนาของบริษัทไทยที่ผ่านมาก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาจังหวัดด้วย และหวังว่าจะมีการลงทุนของภาคเอกชนไทยในจังหวัดเพิ่มขึ้นต่อไป ทั้งนี้ จังหวัดเบ๊นแจมีแผนจะเน้นการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมแปรรูป การท่องเที่ยว และการเกษตรอย่างยั่งยืน ในโอกาสนี้ กงสุลใหญ่ฯ แสดงความเห็นว่าจังหวัดเบ๊นแจเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก และมีบริษัทและผู้ประกอบการไทย รวมถึงมีชุมชนชาวไทยอาศัยอยู่จำนวนมาก จึงยินดีสนับสนุนความร่วมมือระหว่างจังหวัดกับประเทศไทยอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และความสัมพันธ์ระดับประชาชน โดยเฉพาะในปี 2564 นี้ซึ่งเป็นปีครบรอบ 45 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-เวียดนาม กับได้เชิญชวนให้จังหวัดพิจารณาใช้เครื่องจักรกลการเกษตรที่ประเทศไทยผลิตด้วย นอกจากนี้ โดยที่รัฐบาลกลางของเวียดนามได้ให้ความเห็นชอบในหลักการ ต่อการส่งเสริมความร่วมมือเพื่อการพัฒนา โดยเฉพาะการประยุกต์ใช้แนวพระราชดำริหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (SEP) เพื่อพัฒนาจังหวัดเบ๊นแจแล้ว ฝ่ายไทยก็ยินดีหารือในรายละเอียดกับจังหวัดเพื่อกำหนดสาขาความร่วมมือที่ทั้งสองฝ่ายจะทำงานร่วมกันต่อไป ทั้งนี้ เป็นเรื่องที่สอดคล้องกับความสนใจของประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดเบ๊นแจ ที่ได้แจ้งต่อกงสุลใหญ่ฯ ไว้ก่อนหน้านี้ว่า ตนเองสนใจพระราชกรณียกิจด้านการเกษตรของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศ มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9

กงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ นำคณะจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย สถานกงสุลใหญ่ฯ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานโฮจิมินห์ พร้อมด้วยภาคเอกชนไทย เข้าพบหารือเลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามประจำจังหวัดเบ๊นแจ เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2564 นายอภิรัตน์ สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง กงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ พร้อมด้วยนางสาวมรกต เจนมธุกร อัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย นางรติวัณณ บุญประคอง ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานโฮจิมินห์ และผู้แทนภาคเอกชนไทยที่ลงทุนในจังหวัดเบ๊นแจ ประกอบด้วย บริษัท CP Vietnam บริษัท Gulf Energy (Vietnam) บริษัท Vietworld และบริษัท Alliance One เข้าเยี่ยมคารวะนาย Phan Van Mai เลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามประจำจังหวัดเบ๊นแจ โดยมี นาย Tran Ngoc Tam ประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดเบ๊นแจ ผู้แทนแนวร่วมปิตุภูมิแห่งชาติ สหพันธ์องค์กรมิตรภาพ กรมวางแผนและการลงทุน และสมาคมเกษตรกร ให้การต้อนรับ ทั้งสองฝ่ายได้หารืออย่างกว้างขวางทั้งในประเด็นด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว โดยทางจังหวัดเบ๊นแจแสดงความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มีภาคเอกชนไทยเข้ามาลงทุนในจังหวัดและประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยเห็นว่าการพัฒนาของบริษัทไทยที่ผ่านมาก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาจังหวัดด้วย และหวังว่าจะมีการลงทุนของภาคเอกชนไทยในจังหวัดเพิ่มขึ้นต่อไป ทั้งนี้ จังหวัดเบ๊นแจมีแผนจะเน้นการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมแปรรูป การท่องเที่ยว และการเกษตรอย่างยั่งยืน ในโอกาสนี้ กงสุลใหญ่ฯ แสดงความเห็นว่าจังหวัดเบ๊นแจเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก และมีบริษัทและผู้ประกอบการไทย รวมถึงมีชุมชนชาวไทยอาศัยอยู่จำนวนมาก จึงยินดีสนับสนุนความร่วมมือระหว่างจังหวัดกับประเทศไทยอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และความสัมพันธ์ระดับประชาชน โดยเฉพาะในปี 2564 นี้ซึ่งเป็นปีครบรอบ 45 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-เวียดนาม กับได้เชิญชวนให้จังหวัดพิจารณาใช้เครื่องจักรกลการเกษตรที่ประเทศไทยผลิตด้วย นอกจากนี้ โดยที่รัฐบาลกลางของเวียดนามได้ให้ความเห็นชอบในหลักการ ต่อการส่งเสริมความร่วมมือเพื่อการพัฒนา โดยเฉพาะการประยุกต์ใช้แนวพระราชดำริหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (SEP) เพื่อพัฒนาจังหวัดเบ๊นแจแล้ว ฝ่ายไทยก็ยินดีหารือในรายละเอียดกับจังหวัดเพื่อกำหนดสาขาความร่วมมือที่ทั้งสองฝ่ายจะทำงานร่วมกันต่อไป ทั้งนี้ เป็นเรื่องที่สอดคล้องกับความสนใจของประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดเบ๊นแจ ที่ได้แจ้งต่อกงสุลใหญ่ฯ ไว้ก่อนหน้านี้ว่า ตนเองสนใจพระราชกรณียกิจด้านการเกษตรของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศ มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9

วันที่นำเข้าข้อมูล 13 พ.ค. 2564

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565

| 549 view
กงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ นำคณะจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย สถานกงสุลใหญ่ฯ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานโฮจิมินห์ พร้อมด้วยภาคเอกชนไทย เข้าพบหารือเลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามประจำจังหวัดเบ๊นแจ
 
เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2564 นายอภิรัตน์ สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง กงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ พร้อมด้วยนางสาวมรกต เจนมธุกร อัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย นางรติวัณณ บุญประคอง ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานโฮจิมินห์ และผู้แทนภาคเอกชนไทยที่ลงทุนในจังหวัดเบ๊นแจ ประกอบด้วย บริษัท CP Vietnam บริษัท Gulf Energy (Vietnam) บริษัท Vietworld และบริษัท Alliance One เข้าเยี่ยมคารวะนาย Phan Van Mai เลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามประจำจังหวัดเบ๊นแจ โดยมี นาย Tran Ngoc Tam ประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดเบ๊นแจ ผู้แทนแนวร่วมปิตุภูมิแห่งชาติ สหพันธ์องค์กรมิตรภาพ กรมวางแผนและการลงทุน และสมาคมเกษตรกร ให้การต้อนรับ
 
ทั้งสองฝ่ายได้หารืออย่างกว้างขวางทั้งในประเด็นด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว โดยทางจังหวัดเบ๊นแจแสดงความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มีภาคเอกชนไทยเข้ามาลงทุนในจังหวัดและประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยเห็นว่าการพัฒนาของบริษัทไทยที่ผ่านมาก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาจังหวัดด้วย และหวังว่าจะมีการลงทุนของภาคเอกชนไทยในจังหวัดเพิ่มขึ้นต่อไป ทั้งนี้ จังหวัดเบ๊นแจมีแผนจะเน้นการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมแปรรูป การท่องเที่ยว และการเกษตรอย่างยั่งยืน
ในโอกาสนี้ กงสุลใหญ่ฯ แสดงความเห็นว่าจังหวัดเบ๊นแจเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก และมีบริษัทและผู้ประกอบการไทย รวมถึงมีชุมชนชาวไทยอาศัยอยู่จำนวนมาก จึงยินดีสนับสนุนความร่วมมือระหว่างจังหวัดกับประเทศไทยอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และความสัมพันธ์ระดับประชาชน โดยเฉพาะในปี 2564 นี้ซึ่งเป็นปีครบรอบ 45 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-เวียดนาม กับได้เชิญชวนให้จังหวัดพิจารณาใช้เครื่องจักรกลการเกษตรที่ประเทศไทยผลิตด้วย นอกจากนี้ โดยที่รัฐบาลกลางของเวียดนามได้ให้ความเห็นชอบในหลักการ ต่อการส่งเสริมความร่วมมือเพื่อการพัฒนา โดยเฉพาะการประยุกต์ใช้แนวพระราชดำริหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (SEP) เพื่อพัฒนาจังหวัดเบ๊นแจแล้ว ฝ่ายไทยก็ยินดีหารือในรายละเอียดกับจังหวัดเพื่อกำหนดสาขาความร่วมมือที่ทั้งสองฝ่ายจะทำงานร่วมกันต่อไป ทั้งนี้ เป็นเรื่องที่สอดคล้องกับความสนใจของประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดเบ๊นแจ ที่ได้แจ้งต่อกงสุลใหญ่ฯ ไว้ก่อนหน้านี้ว่า ตนเองสนใจพระราชกรณียกิจด้านการเกษตรของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศ มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9