ข่าวเด่นวันที่ 11-15 มีนาคม 2562

ข่าวเด่นวันที่ 11-15 มีนาคม 2562

วันที่นำเข้าข้อมูล 22 มี.ค. 2562

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565

| 744 view

ชาวเวียดนามชะลอการติดตั้งแผงโซลาร์บนหลังคา เนื่องจากต้นทุนสูง

การไฟฟ้าเวียดนาม (Vietnam Electricity – EVN) เปิดเผยข้อมูลว่าในช่วงปี 2560 – 2561 ปรากฏครัวเรือนเพียง 1,800 แห่งเท่านั้นที่มีการติดตั้งแผงโซลาร์พลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์บนหลังคาเรือน กำลังผลิตไฟฟ้ารวม 30 เมกะวัตต์ ซึ่งถือว่ามีจำนวนน้อยส่วนใหญ่อยู่ในภาคใต้ของเวียดนามโดยเฉพาะนครโฮจิมินห์เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง ค่าซ่อมบำรุง รวมถึงอุปกรณ์มีราคาสูง

นาย Tran Dinh Nhan ผู้อำนวยการใหญ่การไฟฟ้าเวียดนามกล่าวว่าการไฟฟ้าเวียดนามยังไม่ได้ลงนามสัญญาอย่างเป็นทางการที่จะรับซื้อไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จากครัวเรือน เนื่องจากยังไม่มีแนวทางด้านการกำหนดอัตราการรับซื้อพลังงานแสงอาทิตย์ที่แน่นอนนอกจากนั้นแผงโซลาร์ อุปกรณ์และการติดตั้งยังคงมีราคาสูง ส่งผลให้ชาวเวียดนามลังเลที่จะติดตั้งแผงโซลาร์ทั้งยังขาดข้อมูลที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับคุณภาพของอุปกรณ์และหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการติดตั้ง การดำเนินการ และการซ่อมบำรุง

นาย Dao Minh Hien ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาของบริษัทที่ปรึกษา Power Engineering Consulting กล่าวว่า การติดตั้งแผงโซลาร์บนหลังคาจำเป็นต้องใช้ทุนจำนวนมากในการวางระบบจึงเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้มีผู้ติดตั้งเพิ่มขึ้นไม่มาก

นาย Dinh Quang Tri รองผู้อำนวยการใหญ่การไฟฟ้าเวียดนามเสนอว่า หากรัฐบาลต้องการเพิ่มจำนวนการติดตั้งแผงโซลาร์บนหลังคาในครัวเรือน รัฐบาลควรส่งเสริมทั้งในเรื่องของเงินทุนและนโยบายที่ดึงดูดให้นักลงทุนสนใจมากขึ้น นอกจากนี้ นาย Tri ยังเสนอให้กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเร่งแก้ไขร่างกฎกระทรวงด้านพลังงานหมายเลข 16 โดยเร็ว เพื่อให้ EVN และบริษัทลูกสามารถทำสัญญาซื้อ – ขายพลังงานแสงอาทิตย์จากครัวเรือนได้ ทั้งนี้ นาย Tri กล่าวว่า รัฐบาลควรส่งเสริมความร่วมมือกับธนาคาร นักลงทุน และองค์กรจากภายใน และต่างประเทศให้เข้ามาร่วมลงทุนในตลาดพลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์และสนับสนุนประชาชนให้ลงทุนติดตั้งและใช้พลังงานจากแผงโซลาร์บนหลังคาเรือนมากขึ้น

การไฟฟ้าเวียดนามเปิดเผยว่า ธนาคารพัฒนาเยอรมนี (German Development Bank – KfW) ได้ตกลงที่จะสนับสนุนการพัฒนาโครงการไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของการไฟฟ้าเวียดนามมูลค่า 14 ล้านยูโร (ประมาณ 16 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) อย่างไรก็ตาม การไฟฟ้าเวียดนามอยู่ระหว่างเจรจากับธนาคาร KfW และเสนอให้รัฐบาลเวียดนามจัดสรรงบประมาณดังกล่าวบางส่วนสนับสนุนให้แก่ครัวเรือนที่ต้องการติดตั้งแผงโซลาร์บนหลังคาในครัวเรือน ซึ่งหากข้อเสนอได้รับการอนุมัติแต่ละครัวเรือนที่ประสงค์จะติดตั้งแผงโซลาร์บนหลังคาอาจจะได้รับเงินอุดหนุนตั้งแต่ 2 - 6 ล้านด่ง ขึ้นอยู่กับศักยภาพในการผลิตไฟฟ้า

แหล่งที่มา : The Saigon Times วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2562

URL: https://english.thesaigontimes.vn/66495/high-costs-hinder-locals-from-installing-rooftop-solar-panels.html

 

เกษตรกรบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงเร่งปลูกขนุนพันธุ์ไทย

เกษตรกรจำนวนมากในบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงเปลี่ยนจากการปลูกข้าวมาปลูกขนุนพันธุ์ไทยเนื่องจากในช่วงสองปีที่ผ่านมาขนุนพันธุ์ไทยมีราคาสูงขึ้นขณะที่ราคาข้าวยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องโดยข้าวพันธุ์ IR 50404 มีราคาขายกิโลกรัมละ 4,300 – 4,500 ด่ง ซึ่งสร้างรายได้ให้เกษตรกรเฮกตาร์ละ 30 ล้านด่งต่อปี แต่ในขณะที่ขนุนพันธุ์ไทยมีราคาขายกิโลกรัมละ 60,000 – 65,000 ด่งและ สร้างรายได้ให้เกษตรกรเฮกตาร์ละ 600 ล้าน – 1.2 พันล้านด่งต่อปี

ดร. Luong Ngoc Trung Lap อดีตหัวหน้าฝ่ายวิจัยการตลาดของสถาบันวิจัยผลไม้ภาคใต้และหัวหน้าฝ่ายขายบริษัทผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์การเกษตร Cat Tuong Agricultural Processing and Production กล่าวว่าราคาขนุนที่สูงขึ้นทำให้เกษตรกรท้องถิ่นโดยเฉพาะในจังหวัดเหิ่วยาง ซอกจางและนครเกิ่นเทอ เปลี่ยนมาลงทุนปลูกขนุนพันธุ์ไทยจำนวนมาก ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับขนุนสายพันธุ์เวียดนามจะพบว่าขนุนพันธุ์ไทยมีคุณภาพสูงเติบโตง่าย และเก็บรักษาได้นานกว่า ทั้งนี้ ในปัจจุบันร้อยละ 80 ของขนุนพันธุ์ไทยที่ปลูกในเวียดนามถูกส่งออกไปยังจีน ซึ่งมีความต้องการนำเข้าผลไม้รวมถึงขนุนในปริมาณมาก อย่างไรก็ตาม เวียดนามยังไม่มีนโยบายส่งเสริมการปลูกขนุนที่ชัดเจนและยังไม่มีการวิจัยด้านการตลาดรองรับ

ที่มา: The Saigon Times วันที่28 กุมภาพันธ์ 2562

URL: https://english.thesaigontimes.vn/66502/mekong-delta-farmers-rush-to-grow-thai-jackfruit.html

 

เวียดนามเปิดเส้นทางเดินเรือพาณิชย์ตรงไปยังประเทศออสเตรเลียเป็นครั้งแรก

เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2562 เรือบรรทุกสินค้าของบริษัท CMA CGM ซึ่งขนส่งสินค้าระหว่างเวียดนามและออสเตรเลียได้เทียบท่าที่คลังสินค้านานาชาติของบริษัท SP-ITC ในเขต 9 ของนครโฮจิมินห์เป็นลำแรก โดยมีเส้นทางการขนส่งสินค้าเริ่มจากนครโฮจิมินห์ไปออสเตรเลียผ่านท่าเรือ Klang (Kelang) มาเลเซียไปสู่สิงคโปร์ กรุงจาการ์ตา เมืองบริสเบรน นครซิดนีย์ และเมืองทาวน์วิลล์ ก่อนจะกลับนครโฮจิมินห์ผ่านท่าเรือ Klang

การขนส่งสินค้าระหว่างทั้งสองประเทศใช้เวลาเดินทางประมาณ 16 วัน จากนครโฮจิมินห์ไปยังเมืองบริสเบน และ 18 วันจากนครโฮจิมินห์ไปยังนครซิดนีย์ซึ่งบริษัท CMA CGM มีกำหนดเดินเรือ 5 วันต่อสัปดาห์ในเส้นทางดังกล่าวโดยเรือสามารถบรรทุกสินค้าได้ลำละ 40,000 ตัน

การเปิดเส้นทางเดินเรือดังกล่าวคาดว่าจะช่วยให้ผู้นำเข้าและส่งออกระหว่างเวียดนามและออสเตรเลียสามารถลดต้นทุนการขนส่งได้อย่างมาก นอกจากนี้ คาดว่าเส้นทางเดินเรือดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นการส่งออกสินค้าเวียดนามไปยังออสเตรเลียโดยเฉพาะภายใต้บริบทการเปิดเสรีการค้าตามข้อตกลง CPTPP (The Comprehensive and Progressive Agreement for Trans-Pacific Partnership)

คลังสินค้านานาชาติของบริษัท SP-ITC เปิดให้บริการตั้งแต่เดือนกันยายน 2559 มีสะพานเทียบเรือยาวถึง1,000 เมตรตามแนวแม่น้ำด่งนายและสามารถรองรับตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 20 ฟุตได้ถึง 2 ล้าน TEU (Twenty Foot Equivalent Unit) นอกจากนี้ยังตั้งอยู่ใกล้ถนนสายหลัก อาทิ ทางหลวงฮานอยและทางด่วนพิเศษ Long Thanh – Dau Giay ซึ่งสะดวกต่อการขนส่งไปยังเขตอุตสหกรรมในจังหวัดทางตอนใต้ได้แก่จังหวัดบิ่นห์เยือง จังหวัดด่งนาย และจังหวัดบาเหรี่ยะ – หวุงเต่า

แหล่งที่มา : The Saigon Times วันที่ 16 มีนาคม 2562

URL: https://english.thesaigontimes.vn/66884/direct-shipping-route-between-vietnam-and-australia-opened.html