วันที่นำเข้าข้อมูล 22 เม.ย. 2562
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565
นครโฮจิมินห์มีแผนก่อสร้างโครงการป้องกันน้ำท่วมมูลค่า 345 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นครโฮจิมินห์มีแผนการก่อสร้างโครงการป้องกันน้ำท่วมจำนวน 218 โครงการมูลค่าการก่อสร้างรวม 8 ล้านล้านด่ง (345 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยจะดำเนินการก่อสร้างในเขตพื้นที่ตัวเมืองและชานเมืองของนครโฮจิมินห์ในเขต 1, 7, Tan Phu, Tan Binh, Thu Duc และ Go Vap ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 55เฮกตาร์ โครงการประกอบไปด้วยการก่อสร้างทางระบายน้ำและยกระดับถนนที่เสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมโดยจะใช้แหล่งงบประมาณการก่อสร้างจากรัฐบาลร่วมกับภาคเอกชน
นอกจากนี้ นครโฮจิมินห์ยังมีแผนจะดำเนินโครงการป้องกันน้ำท่วมในเขต 1, 4, 7, 8, Binh Chanh และ Nha Be ครอบคลุมพื้นที่ 100 เฮกตาร์ มีมูลค่าการก่อสร้าง 10 ล้านล้านด่ง (430 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ให้แล้วเสร็จสมบูรณ์เดิมโครงการนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายน 2562 แต่ได้ถูกระงับการก่อสร้างตั้งแต่เดือนเมษายน 2561 ภายหลังมีการตรวจพบการดำเนินการผิดสัญญาระหว่างนครโฮจิมินห์กับผู้ลงทุน โดยใช้เหล็กจากประเทศจีนแทนที่จะเป็นเหล็กจากกลุ่มประเทศ G7 ตามที่ระบุในสัญญาผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าโครงการป้องกันน้ำท่วมในปีนี้มีจำนวนมาก แต่เนื่องจากความล่าช้าในการดำเนินการจึงคาดการณ์ว่าประชาชนในนครโฮจิมินห์จะประสบภัยน้ำท่วมในฤดูฝนในปี 2562 อีก
นาย Ngo Viet Nam Son สถาปนิกที่มีประสบการณ์ด้านการวางผังเมืองกล่าวว่าแม้นครโฮจิมินห์สามารถก่อสร้างโครงการป้องกันน้ำท่วมทั้งหมดได้แล้วเสร็จตามที่วางแผนไว้ก็จะไม่สามารถทำให้เมืองรอดพ้นจากปัญหาน้ำท่วมได้ เนื่องจากปัญหาจากอาคารคอนกรีตจำนวนมากในเมือง ที่ขัดขวางระบายน้ำ ดังนั้นจึงควรคำนึงถึงการปรับการวางผังเมืองด้วย
ปัจจุบัน นครโฮจิมินห์มีประชากร 13 ล้านคนรวมถึงชาวต่างชาติที่ทำงานในโฮจิมินห์ซึ่งประสบภัยน้ำท่วมมานานกว่าสองทศวรรษนาย Laurent Umans เลขานุการเอกด้านการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศจากสถานทูตเนเธอร์แลนด์ในกรุงฮานอยกล่าวในการประชุมเมื่อเดือนสิงหาคม 2561 คาดการณ์ว่าส่วนใหญ่ของนครโฮจิมินห์อาจจมอยู่ใต้ระดับน้ำทะเลภายใน 50 ปีข้างหน้า
ที่มา: VN Express International วันที่ 8 เมษายน 2562
URL: https://e.vnexpress.net/news/news/hcmc-to-spend-345-million-on-anti-flooding-projects-this-year-3906479.html
นครเกิ่นเทอเปิดเส้นทางบินตรงระหว่างประเทศครั้งแรก
สนามบินนานาชาตินครเกิ่นเทอเปิดเส้นทางบินตรงระหว่างประเทศครั้งแรกเชื่อมโยงภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง (นครเกิ่นเทอ) กับกรุงกัวลาลัมเปอร์โดยคาดว่าการเปิดเส้นทางดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจรวมถึงการท่องเที่ยวระหว่างเมืองทั้งสองในอนาคต
เที่ยวบิน AK 575 จากนครเกิ่นเทอ – กรุงกัวลาลัมเปอร์จะให้บริการการบินในวันจันทร์ วันพุธ วันศุกร์และวันอาทิตย์ ใช้เวลาเดินทางสองชั่วโมง โดยออกจากกรุงกัวลาลัมเปอร์เวลา 7.55 น. (เวลาท้องถิ่น) และถึงนครเกิ่นเทอเวลา 8.50 น. (เวลาท้องถิ่น) ส่วนขากลับจะออกจากนครเกิ่นเทอเวลา 9.20 น. (เวลาท้องถิ่น) และถึงกรุงกัวลาลัมเปอร์เวลา 12.15 น. (เวลาท้องถิ่น) นอกจากเที่ยวบินดังกล่าวแล้วสายการบิน AirAsia ยังเตรียมเปิดเส้นทางบิน นครเกิ่นเทอ – กรุงเทพฯ ภายในเดือนพฤษภาคมปีนี้
ปัจจุบัน สายการบิน AirAsia มีเส้นทางบินตรง 16 เส้นทางที่เชื่อมต่อเมืองใหญ่ในเวียดนามกับจุดหมายปลายทาง 6 แห่งในมาเลเซียไทยและฟิลิปปินส์นอกจากนี้สายการบิน Vietjet ได้เปิดเส้นทางการบิน 5 เส้นทางจากสนามบินนานาชาตินครเกิ่นเทอไปยังนครไฮฟอง เมืองวินห์ (จังหวัดเหงะอาน) เมืองทันหว่า เมืองญาจาง(จังหวัดคั้นห์หว่า) และเมืองดาลัต (จังหวัดลัมด่ง) ทั้งนี้ บริษัทWorld Transportation Servicesหรือ WorldTrans บริษัทนำเที่ยวได้เปิดให้บริการเส้นทางการบินจากนครเกิ่นเทอไปยังกรุงเทพฯ ในหลายปีที่ผ่านมาในลักษณะเที่ยวบินเช่าเหมาลำด้วย
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2562 ในการประชุมระหว่างนายกรัฐมนตรี Nguyen Xuan Phuc กับคณะกรรมการประชาชนนครเกิ่นเทอและนาย Nguyen Van รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมคาดว่าสนามบินนานาชาตินครเกิ่นเทอจะมีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น เนื่องจากการระงับใช้งานของรันเวย์ 1 เส้นที่สนามบินนานาชาติ Tan Son Nhat เพื่อทำการซ่อมแซม ทำให้หลายเที่ยวบินต้องออกเดินทางจากสนามบินนานาชาตินครเกิ่นเทอและสนามบินญาจางแทน โดยปัจจุบัน สนามบินนานาชาตินครเกิ่นเทอสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึงสามล้านคนต่อปี
แหล่งที่มา: .The SaigonTimesวันที่ 8 เมษายน 2562
URL: https://english.thesaigontimes.vn/67471/first-international-air-route-launched-in-can-tho.html
จังหวัดบากเลียวเริ่มก่อสร้างโครงการโรงงานไฟฟ้าพลังงานลมมูลค่า 108 ล้านดอลลาห์สหรัฐ
การก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม Dong Hai1 ของบริษัท Bac Phuong (BP) Energy สัญชาติเวียดนามจะมีต้นทุนการก่อสร้างในระยะแรก 2.5 ล้านล้านด่ง (108 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จะมีกำลังการผลิต 50 เมกะวัตต์และสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้า 161 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี โรงงานไฟฟ้าแห่งนี้มีพื้นที่ 3.6 ตารางไมล์ มีกังหันลม 12 เครื่อง โดยผลิตไฟฟ้าเพื่อจ่ายไฟไปโครงข่ายไฟฟ้าหลักของจังหวัดบากเลียวและภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง
ทั้งนี้ โครงการโรงงานไฟฟ้าพลังงานลมแห่งแรกของจังหวัดบากเลียวเริ่มดำเนินการในปี 2559 เป็นโรงไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนามโดยมีกังหันลม 62 เครื่องและมีมูลค่าการลงทุน 5.2 ล้านล้านด่ง (224 ล้านดอลลาห์สหรัฐ) โรงงานไฟฟ้าพลังงานลมแห่งนี้มีกำลังการผลิต 99 เมกะวัตต์ ซึ่งสามารถผลิตไฟฟ้าได้ 320 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี
เวียดนามมีศักยภาพในการผลิตพลังงานหมุนเวียนที่ดีเนื่องจากมีพื้นภูมิประเทศที่เป็นแนวชายฝั่งยาวและมีแสงแดดเฉลี่ย 2,700 ชั่วโมงต่อปี โดยมีนโยบายดึงดูดการลงทุนพลังงานหมุนเวียนเพื่อลดการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานความร้อนและคาดการณ์ว่าภายในปี 2562 จะเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มขึ้น 2,000 เมกะวัตต์
นอกจากนี้ การเติบโตอย่างรวดเร็วของการพัมนาทางเศรษฐกิจเวียดนามทำให้ความต้องการด้านพลังงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 ต่อปีต่อเนื่องในอีก 10 ปีข้างหน้า ซึ่งนาย Ousmane Dione ผู้จัดการธนาคารโลกประจำประเทศเวียดนามกล่าวว่าเวียดนามจะต้องเพิ่มงบประมาณ 3.4 ล้านล้านด่ง (1.5 แสนล้านดอลลาห์สหรัฐ) ภายในปี 2573เพื่อพัฒนาอุตสหกรรมพลังงานทางเลือกของประเทศ
แหล่งที่มา : Vietnam Expressวันที่ 16 มษายน 2562
URL : https://e.vnexpress.net/news/business/industries/108-mln-wind-power-plant-construction-starts-in-southern-vietnam-3909911.html
อีเมลสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์
ติดต่อทั่วไป
แผนกเศรษฐกิจ
แผนกกงสุล (หนังสือเดินทาง, นิติกรณ์และทะเบียนราษฎร์, บัตรประชาชน, การตรวจลงตราและรับรองเอกสาร)