วันที่นำเข้าข้อมูล 14 พ.ค. 2562
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565
เวียดนามเล็งก่อสร้างทางด่วนจากนครโฮจิมินห์ถึงเขตพรมแดนเวียดนาม – กัมพูชา มูลค่า 460 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
กรมการขนส่งทางบกเวียดนามได้ส่งผลการศึกษาความเป็นไปได้เบื้องต้นเสนอกระทรวงคมนาคมในการก่อสร้างทางด่วนระยะทาง 53.3 กิโลเมตร จากถนนวงแหวนหมายเลข 3 เขต Hoc Mon นครโฮจิมินห์ไปจนถึงด่านพรมแดนระหว่างประเทศ Moc Bai ชายแดนเวียดนาม – กัมพูชาในจังหวัดเตยนินห์มีมูลค่าการก่อสร้างทั้งหมด10.7 ล้านล้านด่ง (459.36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยเป็นการลงทุนลักษณะความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน
การก่อสร้างทางด่วนดังกล่าวจะแบ่งเป็น 2 ระยะ โดยในระยะแรกแบ่งเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกมีความยาว 33 กิโลเมตรจากนครโฮจิมินห์ไปจนถึง เขต Trang Bang จังหวัดเตยนินห์โดยจะมีช่องทางจราจรทั้งหมด 4 ช่องจำกัดความเร็วสูงสุดที่ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและช่วงที่สองมีความยาว 20.5กิโลเมตรจากเขต Trang Bang จังหวัดเตยนินห์ไปจนถึงด่านพรมแดน Moc Bai มีช่องทางจราจรทั้งหมด 4 ช่อง จำกัดความเร็วสูงสุดที่ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเมื่อการก่อสร้างทั้งสองช่วงเสร็จสิ้นจะเริ่มการก่อสร้างในระยะที่สองโดยการขยายช่องทางจราจรเป็น 6-8 ช่อง
เบื้องต้นคณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์และจังหวัดเตยนินห์ได้ขอให้กระทรวงคมนาคมยื่นเสนอผลการศึกษาความเป็นไปได้ดังกล่าวให้กับรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติโครงการต่อไปโดยทั้งสองจังหวัดจะรับผิดชอบค่าเวนคืนพื้นที่เพื่อก่อสร้างโดยใช้งบประมาณของจังหวัดมูลค่า 2 ล้านล้านด่ง(85.87 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และ1 ล้านล้านด่ง (42.94 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ตามลำดับส่วนค่าก่อสร้างที่เหลืออีก 8 ล้านล้านด่ง (343.48 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จะให้เอกชนดำเนินการโดยวิธีเปิดประมูลหรือคัดเลือกโดยรัฐบาล
ปัจจุบันมีถนนเพียงเส้นเดียวที่เชื่อมต่อจากนครโฮจิมินห์ไปจนถึงจังหวัดเตยนินห์คือทางหลวงหมายเลข 22 ซึ่งไม่สามารถรองรับการใช้งานด้านคมนาคมได้เพียงพอและโครงการทางด่วนนครโฮจิมินห์ – Moc Bai จะตอบสนองความต้องการด้านการขนส่งของภูมิภาคและสอดคล้องกับแผนทางหลวงแห่งชาติโดยจะช่วยลดระยะเวลาในการเดินทางจากนครโฮจิมินห์ไปยังพรมแดนเวียดนาม – กัมพูชาและช่วยส่งเสริมการเชื่อมต่อระหว่างเขตเศรษฐกิจสำคัญทางตอนใต้ของเวียดนามกับแนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก - ตะวันตก (เมียนมา ไทยลาวกัมพูชาและเวียดนาม) รวมถึงการเชื่อมต่อกับเครือข่ายทางหลวงเอเชียผ่านทางด่วนพนมเปญ – Bavet ของกัมพูชาอีกด้วย
แหล่งที่มา: Vn Express วันที่ 24 เมษายน 2562
URL: https://e.vnexpress.net/news/business/economy/new-460-mln-expressway-to-run-from-hcmc-to-cambodia-border-3914327.html
สายการบิน AirAsia และ Bamboo เปิดเส้นทางบินใหม่ในเวียดนาม
สายการบินแอร์เอเชียได้เปิดเส้นทางบินใหม่กรุงเทพฯ - ญาจาง จังหวัดคั้นห์หว่า สัปดาห์ละ 4 เที่ยวบิน ซึ่งจะให้บริการการบินในวันจันทร์ วันพุธ วันศุกร์และวันอาทิตย์ โดยออกเดินทางจากกรุงเทพฯ เวลา 8.15 น. และออกเดินทางกลับจากจังหวัดคั้นห์หว่าเวลา 10.30 น.หลังจากที่สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ได้เปิดการบินเส้นทางดังกล่าวเมื่อเดือนมกราคม 2562
สายการบินแอร์เอเชียเปิดเผยว่าเส้นทางบินดังกล่าวเป็นเส้นทางที่สองของสายการบินที่เชื่อมโยงเมืองญาจาง หลังจากการเปิดเส้นทางการบินระหว่างกรุงกัวลาลัมเปอร์ - ญาจาง เมื่อปี 2560 และคาดว่าเส้นทางกรุงเทพฯ - ญาจาง จะส่งเสริมประโยชน์ทางเศรษฐกิจอย่างสูงสำหรับทั้งเวียดนามและไทยในอนาคต
ในขณะนี้ สายการบิน Bamboo จะเปิดให้บริการเส้นทางใหม่ภายในประเทศ 3 เส้นทาง ได้แก่ (1) นครไฮฟอง – เมืองวีเยิน จังหวัดบิ่นห์ดิ่นห์ (2) นครไฮฟอง - นครโฮจิมินห์ (3) นครไฮฟอง - นครเกิ่นเทอ โดยทำการบินทุกวันโดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง 35 นาที, 2 ชั่วโมง และ 2 ชั่วโมง 5 นาที ตามลำดับ
การเปิดเส้นทางบินใหม่ของสายการบิน Bamboo เป็นส่วนหนึ่งของแผนการเชื่อมโยงสนามบินนานาชาติก๊าตบีในนครไฮฟอง กับสนามบินท้องถิ่นอื่นๆ รวมถึงสนามบินในกรุงเทพฯ สิงคโปร์ และกรุงโซล โดยเมื่อเดือนเมษายน 2562 สายการบิน Bamboo เปิดให้บริการเส้นทางบินตรงระหว่างประเทศ 3 เส้นทางแรกสู่เกาหลีใต้ ไต้หวัน และญี่ปุ่น
แหล่งที่มา : The Saigon Times วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2562 และวันที่ 4 พฤษภาคม 2562
URL: https://en.thesaigontimes.vn/tinbaichitiet/68041/
URL: https://english.thesaigontimes.vn/68089/bamboo-airways-plans-to-have-40-air-routes-this-year.html
เรือสำราญจำนวนมากมุ่งหน้าเทียบท่าประเทศเวียดนาม
จากสถิติการท่องเที่ยวเวียดนามพบว่าในเดือนเมษายน 2562 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าเวียดนามกว่า 1.4 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.2 จากเดือนมีนาคม 2562 จากตัวเลขดังกล่าวพบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางโดยเครื่องบินเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.9 ในขณะที่นักท่องเที่ยวที่เดินทางโดยรถยนต์ลดลงร้อยละ 10.3 และจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางโดยเรือสำราญเพิ่มขึ้นสูงถึงร้อยละ 120.5
นาย Xuan Anh ประธานบริษัท Viet ExcursionTourism Company เปิดเผยว่าบริษัทได้เตรียมความพร้อมที่จะรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่โดยสารมากับเรือสำราญ Crystal จากสหรัฐอเมริกาจำนวนกว่า 900 คน ซึ่งได้เทียบท่าที่ท่าเรือ Hiep Phuoc นครโฮจิมินห์ เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2562 โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวดังกล่าวเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับสูงที่มีศักยภาพในการใช้จ่ายกว่า 250,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อคน เพื่อการท่องเที่ยวโดยเรือสำราญระยะเวลา 3 เดือน บริษัทจึงต้องจัดเตรียมบริการที่ดีและมีคุณภาพสูง ทั้งในเรื่องของอาหาร เครื่องดื่ม กิจกรรมความบันเทิง ตลอดจนสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ไว้รองรับ
นาย Anh กล่าวเพิ่มเติมว่าการท่องเที่ยวโดยเรือสำราญของเวียดนามมีศักยภาพการเติบโตสูงมาก เนื่องด้วยมีภูมิประเทศแนวชายฝั่งทะเลยาว อีกทั้งยังมีท่าเรือตามชายฝั่งหลายแห่ง โดยตั้งแต่ต้นปี 2562 บริษัทได้รับนักท่องเที่ยวที่เดินทางโดยเรือสำราญทุก 2-3 วัน โดยเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2562 บริษัท Viet ExcursionTourism Company ได้ร่วมกับบริษัท Saigon Tourist Travel Service รับเรือสำราญ Ms Europa และ Genting Dream ซึ่งจอดเทียบที่ท่าเทียบเรือตู้สินค้า Saigon Premier Container Terminal ของนครโฮจิมินห์และท่าเรือญาจางตามลำดับโดยมีผู้โดยสารรวมทั้งสิ้น 4,100 คน
อย่างไรก็ตาม การท่องเที่ยวโดยเรือสำราญของเวียดนามยังเติบโตไม่มากนักโดยพบว่ามีนักท่องเที่ยวโดยเรือสำราญเฉลี่ยราว 300,000 คนต่อปี หรือคิดเป็นร้อยละ 2.5 - 3 ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด และเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในเอเชียเวียดนามรับนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวเป็นอันดับที่ 4 รองจากประเทศญี่ปุ่น จีนและไทย
นาย Ha Bich Lien ที่ปรึกษาบริษัท Royal Caribbean Cruises จำกัด ได้กล่าวในงานสัมมนา “การจัดการการท่องเที่ยวในนครโฮจิมินห์: 25 ปีแห่งความสำเร็จและความท้าทาย” ซึ่งจัดโดยกระทรวงการท่องเที่ยวนครโฮจิมินห์เมื่อปี 2561 ว่าสาเหตุหลักที่ทำให้การท่องเที่ยวทางเรือสำราญของประเทศไม่เติบโตเท่าที่ควรมาจากโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวทางทะเลที่ไม่เอื้ออำนวยโดยยกตัวอย่างเรือสำราญ Ovation of The Seas พร้อมผู้โดยสารจำนวน 4,000 คนและลูกเรืออีก 1,600 คนที่เดินทางมายังท่าเรือ Phu My จังหวัดบ่าเหรี่ยะ – หวุงเต่าเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2561 แต่ไม่สามารถจอดเทียบท่าได้ แม้ว่าจะได้ทำการลงทะเบียนไว้ 18 เดือนล่วงหน้าแล้วก็ตาม เนื่องจากท่าเรือดังกล่าวเนืองแน่นไปด้วยเรือขนส่งสินค้าจำนวนมาก เช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่เรือลำดังกล่าวพร้อมผู้โดยสาร 4,800 คน และเรือ Voyager of the Seas พร้อมผู้โดยสาร 2,800 คน ไม่สามารถเทียบท่าที่นครโฮจิมินห์ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2561 และ 1 กันยายน 2561 ได้ ซึ่งหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องควรเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว
แหล่งที่มา : The Saigon Times วันที่ 06 พฤษภาคม 2562
URL : https://english.thesaigontimes.vn/68045/luxury-cruise-ships-visit-vietnam-in-droves.html
อีเมลสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์
ติดต่อทั่วไป
แผนกเศรษฐกิจ
แผนกกงสุล (หนังสือเดินทาง, นิติกรณ์และทะเบียนราษฎร์, บัตรประชาชน, การตรวจลงตราและรับรองเอกสาร)