วันที่นำเข้าข้อมูล 24 มิ.ย. 2562
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565
นครโฮจิมินห์มีแผนพัฒนานิคมอุตสาหกรรมไฮเทค (Hi-Tech Park) แห่งที่ 2
คณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์ยื่นข้อเสนอไปยังรัฐบาลกลางเพื่อขออนุมัติโครงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมไฮเทคแห่งที่ 2 พื้นที่ 195 เฮกตาร์ (ประมาณ 1,200 ไร่) ในแขวง Lang Phuoc เขต9 โดยเปลี่ยนพื้นที่ซึ่งแต่เดิมได้เตรียมไว้เป็นพื้นที่สำหรับการท่องเที่ยวและพิพิธภัณฑ์ มาเป็นนิคมอุตสาหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และอยู่ใกล้กับนิคมอุตสาหกรรม Saigon Hi-Tech Park (SHTP) ในเขตเดียวกัน
นิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่นี้จะถูกใช้เป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของมหาวิทยาลัย ศูนย์วิจัย รวมถึงบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำต่าง ๆ ภายในพื้นที่จะมีการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีเพื่อให้เป็นต้นแบบนิคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นนำในระดับภูมิภาคตลอดจนเป็นพื้นที่สำหรับการทำวิจัย การทดลองและแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีรวมทั้งเป็นที่ตั้งของบริษัทด้านเทคโนโลยีชั้นนำมีการนำเทคนิคทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาปรับใช้ในกระบวนการผลิต โดยนิคมฯ แห่งใหม่นี้และSHTP จะเป็น 1 ใน 3 เสาหลักสำคัญสำหรับการพัฒนาเขตเมืองนวัตกรรม (Innovative Urban Area) ในด้านตะวันออกของนครโฮจิมินห์ซึ่งครอบคลุมพื้นที่เขต 2, 9 และเขต Thu Duc
ทั้งนี้ นิคมอุตสาหกรรม Saigon Hi-Tech Park ซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2545 ปัจจุบัน เป็นพื้นที่ที่ดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมที่ทันสมัยหลากหลายสาขาได้แก่ ไมโครอิเล็กทรอนิกส์เทคโนโลยีสารสนเทศการสื่อสารโทรคมนาคมวิศวกรรมความแม่นยำ เทคโนโลยีชีวภาพ เครื่องจักรกล พลังงานใหม่ วัสดุใหม่และนาโนเทคโนโลยี เป็นต้น ทั้งนี้ จนถึงเดือนเมษายน 2562 นิคมฯได้ออกใบอนุญาตลงทุนไปแล้วกว่า 156 โครงการ มูลค่ารวม 7.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.2 แสนล้านบาท) ซึ่งในจำนวนดังกล่าวมี 73 โครงการ มีมูลค่าการส่งออกสะสมรวมมากกว่า 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.4 ล้านล้านบาท) โดยบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลกหลายบริษัทอาทิ บริษัท Intel สัญชาติอเมริกัน บริษัท Nidec และ Nipro สัญชาติญี่ปุ่น และบริษัท Samsung สัญชาติเกาหลีใต้ได้เข้ามาลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้ด้วย
ที่มา: The Saigon Times Daily วันที่ 7 มิถุนายน 2562
URL: https://english.thesaigontimes.vn/68903/hcmc-to-develop-second-hi-tech-park.html
สายการบิน Vietnam Airlines วางแผนลงทุนโครงการโลจิสติกส์ในนครเกิ่นเทอ มูลค่ากว่า 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2562 นาย Pham Viet Hung รองหัวหน้าฝ่ายการลงทุนและจัดซื้อจัดจ้างสายการบินแห่งชาติ Vietnam Airlines (VNA) กล่าวในที่ประชุมเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างศูนย์โลจิสติกส์การบินว่า VNA ต้องใช้เงินลงทุนเกือบ 83 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในโครงการก่อสร้างศูนย์โลจิสติกส์การบินใกล้ท่าอากาศยานนานาชาติเกิ่นเทอ โดยดำเนินโครงการเป็น 3 ระยะ ภายในปี 2562 – 2567 เมื่อแล้วเสร็จจะเป็นที่ตั้งของอาคารคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า และคลังสินค้าให้เช่า ครอบคลุมพื้นที่ 130,000 ตารางเมตร
นครเกิ่นเทอตั้งอยู่ใจกลางภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง จึงเหมาะสำหรับการตั้งศูนย์โลจิสติกส์การบิน นอกจากนี้ บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงยังเป็นพื้นที่เกษตรกรรมที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ตลอดจนมีความต้องการขนส่งสินค้าทางอากาศเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินค้าส่งออกที่มีมูลค่าสูง ซึ่งในปี 2560 ปริมาณการส่งสินค้าจากภูมิภาคผ่านท่าอากาศยานนานาชาติ Tan Son Nhat ในนครโฮจิมินห์ มีปริมาณมากกว่า 70,000 ตัน และในช่วงปี 2558 – 2560 มูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำและผักในภูมิภาคเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 ต่อปี
การสร้างศูนย์โลจิสติกส์การบินในนครเกิ่นเทอจะช่วยส่งเสริมพัฒนาด้านโลจิสติกส์ในภูมิภาคให้เติบโตยิ่งขึ้น และบรรเทาปัญหาความแออัดในการขนส่งสินค้าที่ท่าอากาศยานนานาชาติ Tan Son Nhat และ Long Thanh ได้ ทั้งนี้ ศูนย์โลจิสติกส์ควรตั้งอยู่ภายในหรือติดกับท่าอากาศยาน เพื่อสามารถเชื่อมต่อกับอาคารคลังสินค้าและระบบคมนาคมทางถนน ทางราง และทางน้ำ ทั้งนี้ นาย Truong Quang Hoai Nam รองประธานคณะกรรมการประชาชนนครเกิ่นเทอ ได้เผยในที่ประชุมว่า นักลงทุนจำนวนมากและสายการบินท้องถิ่น 2 ราย ได้แก่ Vietjet และ Bamboo Airways สนใจที่จะร่วมลงทุนในโครงการดังกล่าว และขอให้หน่วยงานท้องถิ่นและหน่วยงานต่าง ๆ เสริมสร้างเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยเพื่อให้โครงการของ VNA ดำเนินการสำเร็จลุล่วง
ที่มา : The Saigon Times วันที่ 13 มิถุนายน 2562
URL : https://english.thesaigontimes.vn/69046/vna-plans-us$80-million-logistics-project-in-can-tho.html
ธุรกิจค้าปลีกรุกคืบขยายสาขาร้านสะดวกซื้อ โดยเฉพาะในภาคใต้ของเวียดนาม
ธุรกิจค้าปลีกท้องถิ่นในประเทศเวียดนามหลายรายกำลังเร่งขยายสาขาร้านค้าปลีกของตน ซึ่งส่งผลให้จำนวนร้านสะดวกซื้อในประเทศโดยเฉพาะในเขตนครโฮจิมินห์ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด แม้ว่าจะมีร้านค้าปลีกสัญชาติยุโรปบางราย(เช่น Auchan) ถอนการลงทุนออกจากตลาดไปบ้างก็ตาม ซึ่งสอดคล้องกับรายงานของบริษัทที่ปรึกษา Nielsen ที่ว่าจำนวนร้านสะดวกซื้อในเวียดนามเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 45.5 ในปี 2561 เมื่อเทียบกับปี 2560 เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น
เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2561 กลุ่ม Vingroup กลุ่มค้าปลีกรายใหญ่ของเวียดนามได้เปิดร้านสะดวกซื้อเพิ่ม 117 แห่ง พร้อมกันภายในวันเดียวทั่วประเทศ ทำให้ปัจจุบัน Vingroup มีจำนวนสาขาของ VinMart+ รวมทั้งสิ้น 1,900 สาขา และมีแผนขยายสาขา VinMart+ เป็น 4,000 สาขา ภายในสิ้นปี 2563 ทั้งนี้พบว่าในปี 2561 บริษัทมีรายรับจากบริการธุรกิจค้าปลีกของบริษัท ได้แก่ VinMart, VinMart+ และ VinPro รวมกว่า 19.3 ล้านล้านด่ง (หรือประมาณ 2.65 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 48 เมื่อเทียบกับปี 2560
ในขณะเดียวกันบริษัท Mobile World Investment Corporation หรือที่รู้จักกันในชื่อเวียดนามว่า The Gioi Di Dong ก็ได้เปิดสาขาร้านสะดวกซื้อ Bach Hoa Xanh เพิ่มอีก 46 แห่ง เมื่อเดือนมีนาคม 2562 ทำให้มีสาขารวมทั้งสิ้น512 แห่ง
ทั่วประเทศ โดยแต่ละสาขามีพื้นที่เฉลี่ยประมาณ 150-250 ตารางเมตร และบริษัทตั้งเป้าเพิ่มจำนวนสาขาเป็น 800 แห่ง ภายในปี 2562 ทั้งนี้ ร้าน Bach Hoa Xanh ที่เปิดดำเนินการก่อนวันที่1 เมษายน 2562 มีรายได้ต่อเดือนอยู่ที่กว่า 1.3 พันล้านด่ง (หรือประมาณ 1.8 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นสองเท่าจากเดือนมกราคม 2562 และมี 2 สาขาที่สามารถทำรายได้ได้สูงสุดกว่า 4 พันล้านด่ง (หรือประมาณ 5.5 ล้านบาท) เมื่อเดือนเมษายน เช่นเดียวกับบริษัท Saigon Co.op ที่เร่งขยายสาขาร้านค้าปลีกในประเทศ ปัจจุบัน Saigon Co.op มีสาขาร้านสะดวกซื้อ Cheers จำนวน 34 แห่ง นอกจากนี้ยังมีร้านสะดวกซื้อ Co.op Food 360 แห่งสำหรับสินค้าอาหาร และร้านสะดวกซื้อ Co.op Smile 70 แห่ง ซึ่งมีพื้นที่ร้านโดยเฉลี่ยตั้งแต่ 20 – 200 ตารางเมตร
ทางด้านเครือ Saigon Trading Group (Satra) ก็ให้ความสำคัญและเล็งยกระดับธุรกิจค้าปลีก โดยปัจจุบันมีจำนวนร้าน Satrafoods 214 แห่งในนครโฮจิมินห์ และอีก 10 แห่งในนครเกิ่นเทอและมีแผนจะเปิดสาขาร้าน Satrafoods อีกกว่า 60 แห่งเพื่อขยายจำนวนให้ได้ 277 สาขา ในปี 2562 และมีเป้าจะเพิ่มเป็น 330 สาขา ภายในปี 2563
นอกจากนี้บริษัทแปรรูปเนื้อสัตว์อย่าง Vissan ที่มีร้านค้าปลีก Vissan กว่า 55 แห่งในปัจจุบัน ก็เล็งเปิดสาขาเพิ่มอีก 5 แห่งภายในปี 2562 ด้วยเช่นกัน
ในภาวะที่ธุรกิจร้านสะดวกซื้อขยายตัวอย่างรวดเร็วนี้ หลายฝ่ายเห็นว่าร้านค้าปลีกรายย่อยของเวียดนามเองกำลังเผชิญกับภาวะสูญเสียจำนวนมากเพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาดไว้ แต่ก็มีแนวโน้มว่ากิจการร้านสะดวกซื้อจะได้ส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจบางรายให้ข้อคิดเห็นว่าการถอนตัวของผู้ค้าปลีกต่างประเทศออกจากตลาดเวียดนามจะทำให้ธุรกิจค้าปลีกของเวียดนามครองตลาดในประเทศได้ง่ายขึ้น และภาคการค้าปลีกในประเทศจะยังมีศักยภาพในการพัฒนาต่อไปได้อีก
แหล่งที่มา: The Saigon Times วันที่ 13 มิถุนายน 2562
URL: https://english.thesaigontimes.vn/69038/retailers-rush-to-expand-convenience-store-chains.html
อีเมลสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์
ติดต่อทั่วไป
แผนกเศรษฐกิจ
แผนกกงสุล (หนังสือเดินทาง, นิติกรณ์และทะเบียนราษฎร์, บัตรประชาชน, การตรวจลงตราและรับรองเอกสาร)