ข่าวเด่นวันที่ 11-20 กันยายน 2562

ข่าวเด่นวันที่ 11-20 กันยายน 2562

วันที่นำเข้าข้อมูล 19 ก.ย. 2562

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 27 พ.ย. 2565

| 833 view

นครโฮจิมินห์เร่งแก้ปัญหาผลกระทบจากสงครามการค้าโลก

ในช่วงที่ผ่านมา นครโฮจิมินห์ไม่เพียงแต่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างจีน-สหรัฐฯ แต่ยังได้รับผลกระทบจากข้อพิพาททางการค้าระหว่างญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ด้วย สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนานครโฮจิมินห์ (HCMC Development Research Institute) จึงเสนอแนวทางแก้ไขผลกระทบต่อเศรษฐกิจของนคร

ในการประชุมเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2562 นายTran Hoan Ngan ประธานสถาบันเพื่อการพัฒนานครโฮจิมินห์ เผยว่า นครควรหาแนวทางที่เหมาะสมอย่างเร่งด่วนเพื่อรับมือกับปัญหาข้อพิพาทการค้าระหว่างญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ที่กำลังเกิดขึ้นเนื่องจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดของนคร

นอกจากนี้ แม้ว่าความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ  จะสร้างโอกาสทางการค้า รวมถึงปริมาณการส่งออกสินค้าของนครโฮจิมินห์ไปยังสหรัฐฯที่เพิ่มมากขึ้น แต่สงครามการค้าก็ส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจของนครด้วยเช่นกัน การอ่อนตัวของค่าเงินหยวนซึ่งเป็นผลจากสงครามการค้าส่งผลให้สินค้าเวียดนามต้องแข่งขันกับสินค้าจีนที่มีราคาถูกลง

นาย Nguyen Thanh Phong ประธานคณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์ สั่งการให้กรมอุตสาหกรรมและการค้านครโฮจิมินห์เตรียมรับมือสถานการณ์ข้างต้น เพื่อรักษาระดับการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมและบริการของนคร และสั่งการให้กรมศุลกากรและกรมสรรพากรจัดเก็บรายได้ให้ครบถ้วนตามเป้าหมาย

ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2562 นครมีรายได้จากการส่งออกมูลค่า 2.72 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.9 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ในขณะที่มีการนำเข้าสินค้ามูลค่ารวม 3.33 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.3 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยสินค้านำเข้าส่วนใหญ่เป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ นครมียอดค้าปลีกสินค้าและบริการมูลค่ากว่า 3.21 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าอย่างไรก็ตาม การเติบโตของการผลิตภาคอุตสาหกรรมของนครในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2562 ต่ำกว่าช่วงปีก่อนหน้า เนื่องจากผลกระทบจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ อีกทั้ง อุตสาหกรรมการแปรรูปอาหารได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร ทำให้ปริมาณอาหารลดลง ดังนั้น ผู้ผลิตและผู้ประกอบการแปรูปอาหารควรมีมาตรการปรับผลผลิตเพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว

แหล่งที่มา : The Saigon Times วันที่ 1 กันยายน 2562

URL: https://english.thesaigontimes.vn/71011/hcmc-seeks-to-respond-to-impacts-from-global-trade-conflicts.html

 

ภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงส่งเสริมการลงทุนในสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2562 จังหวัดบริเวณสามเหลี่ยมลุ่มแม่น้ำโขง 13 จังหวัดร่วมกับกรมส่งเสริมการค้าและการลงทุนนครโฮจิมินห์ กรมการท่องเที่ยวนครโฮจิมินห์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดงานสัมมนาส่งเสริมการลงทุนในภูมิภาคสามเหลี่ยมลุ่มแม่น้ำโขง เพื่อออกนโยบายกระตุ้นการลงทุนด้านการท่องเที่ยวในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง โดยมีผู้เข้าร่วมประมาณ 200 คน

จากการสัมมนาจังหวัดบริเวณสามเหลี่ยมลุ่มแม่น้ำโขงทั้ง 13 จังหวัดเห็นพ้องส่งเสริมการลงทุนในด้านวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยวใน 128 โครงการ โดยแต่ละจังหวัดมีนโยบายสนับสนุนการลงทุนที่แตกต่างกัน เช่น การลดภาษี การสนับสนุนจากภาครัฐด้านการฝึกอบรมและเงินทุนเพิ่มเติมสำหรับการก่อสร้างโรงแรม เป็นต้น

จังหวัดอันยาง มีโครงการสนับสนุนการลงทุน จำนวน 24 โครงการ โดยเฉพาะโครงการห้างสรรพสินค้าและแหล่งบันเทิงมูลค่า 38.84 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่จังหวัดบากเลียวจะสนับสนุนการลงทุนใน 20 โครงการ และจังหวัดเกียนยาง 15 โครงการ ส่วนจังหวัดจ่าวินห์ต้องการเงินลงทุนมูลค่ากว่า 56.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในโครงการอุทยานป่าโกงกางที่อำเภอ Ba Dong และนครเกิ่นเทอต้องการเงินลงทุนมูลค่ากว่า 39.48 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในโครงการการท่องเที่ยวเชิงนิเวศบริเวณแม่น้ำ Tan Loc

นอกจากนี้ ยังมีบางจังหวัดที่จะให้การสนับสนุนเงินลงทุนสำหรับการพัฒนาโรงแรมขนาดเล็ก อาทิ (1) จังหวัดวินห์ลองจะให้เงินสนับสนุนมูลค่าห้องละประมาณ 1,300 ดอลลาร์สหรัฐแก่โครงการโรงแรม 3 ดาวและรีสอร์ทในเมือง Binh Minh และเขต Long Ho ทั้งหมด 4 โครงการ (2) จังหวัดด่งท้าปจะให้เงินสนับสนุนมูลค่าห้องละประมาณ1,725 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับโครงการโรงแรม 3 ดาวแห่งแรกในพื้นที่ยากไร้ และห้องละประมาณ2,155 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับโครงการโรงแรม 4 ดาวและ 5 ดาวแห่งแรกในเขต Cao Lanh (3) จังหวัดจ่าวินห์จะให้การสนับสนุนเงินทุนห้องละประมาณ 1,300 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับโครงการที่พักแบบ homestay

แหล่งที่มา : The Saigon Times วันที่ 4 กันยายน 2562

URL : https://english.thesaigontimes.vn/71085/mekong-delta-seeks-investment-in-tourism-facilities.html

 

VietShrimp 2020 ตั้งเป้าส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนสำหรับการเพาะเลี้ยงกุ้ง

นครเกิ่นเทอมีแผนจะจัดงาน Vietnam Shrimp Technology Exhibition (VietShrimp 2020) ครั้งที่ 3ระหว่างวันที่ 25-27 มีนาคม 2563 เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมกุ้ง

เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2562 นาย Pham Anh Tuan ประธานสมาคมการประมงเวียดนามและผู้จัดงาน ได้แถลงในงานแถลงข่าวว่า อุตสาหกรรมกุ้งสามารถเติบโตอย่างยั่งยืนได้ หากผู้ผลิตและผู้แปรรูปดำเนินธุรกิจไปควบคู่กับการรักษาสิ่งแวดล้อมและการดูแลสวัสดิการของพนักงาน อย่างไรก็ตาม การมุ่งสู่เป้าหมายดังกล่าวยังคงมีความท้าทายหลายประการ อาทิ ฟาร์มเลี้ยงกุ้งต้องต่อสู้กับโรคในกุ้งแต่ไม่สามารถทิ้งสารเคมีลงสู่สิ่งแวดล้อมได้ ทั้งนี้ นาย Tuan เน้นย้ำว่า เวียดนามเป็นผู้ส่งออกกุ้งรายใหญ่ จึงต้องรักษาคุณภาพและระดับราคาเพื่อแข่งขันกับผลิตภัณฑ์กุ้งจากประเทศอื่นๆ

อนึ่ง ข้อมูลจากสมาคมผู้ผลิตและการส่งออกอาหารทะเลเวียดนาม (Vietnam Association of Seafood Exporters and Producers) พบว่า ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2562 เวียดนามส่งออกกุ้งมูลค่า 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 8 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2561

แหล่งที่มา : The Saigon Times วันที่ 7 กันยายน 2562

URL : https://english.thesaigontimes.vn/71151/vietshrimp-2020-targets-sustainable-development-for-shrimp-fisheries.html

 

นครโฮจิมินห์เล็งลงทุนพัฒนาศูนย์การค้าใต้ดินมูลค่า 2.96 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ

นครโฮจิมินห์วางแผนเปิดศูนย์การค้าใต้ดินมูลค่า296 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2564 ใกล้ตลาด Ben Thanh ซึ่งเป็นตลาดใจกลางนครและเป็นสัญลักษณ์สำคัญของนครโฮจิมินห์โดยศูนย์การค้าจะตั้งอยู่ถัดจากสถานี Ben Thanh สายรถไฟใต้ดิน Ben Thanh – Suoi Tien ซึ่งมีความยาวกว่า 20 กิโลเมตร

นครโฮจิมินห์จะพัฒนาโครงการดังกล่าวอย่างบูรณาการร่วมกับโครงการรถไฟใต้ดินเพื่อลดปริมาณการขุดเจาะและขั้นตอนที่ซ้ำซ้อน โดยสถานี Benh Thanh จะเป็นสถานีกลางเชื่อมต่อระหว่างรถไฟใต้ดินสายต่างๆซึ่งการเชื่อมต่อจากสถานีมายังศูนย์การค้าจะทำให้ผู้โดยสารสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างครอบคลุม

ทั้งนี้ข้อเสนอโครงการดังกล่าวได้รับการเห็นชอบเมื่อปี 2559 ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่นครโฮจิมินห์กำลังพิจารณาการใช้งบประมาณเงินกู้เพื่อพัฒนาจากญี่ปุ่น (ODA) เพื่อการสนับสนุนโครงการดังกล่าวในขณะที่องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) เคยประเมินว่า โครงการสถานีรถไฟใต้ดินจะมีมูลค่า 365 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยได้รับสินเชื่อ ODA จากญี่ปุ่นร้อยละ 60 และอีกร้อยละ 40 เป็นการลงทุนจากเอกชนญี่ปุ่นภายใต้ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP)

อย่างไรก็ตามโครงการพัฒนาใต้ดินดังกล่าวยังอยู่ระหว่างรอการอนุมัติขั้นสุดท้ายจากนายกรัฐมนตรี ซึ่งคาดว่าเมื่อเสร็จสิ้นสมบูรณ์จะมีพื้นที่ 45,000 ตารางเมตรจากสถานี Ben Thanh ถึงโรงละคร Opera House โดยเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์18,000 ตารางเมตร และส่วนที่เหลือเป็นทางเดินและพื้นที่สาธารณะ

แหล่งที่มา : VnExpress วันที่ 10 กันยายน 2562

URL : https://e.vnexpress.net/news/news/saigon-plans-296-million-underground-shopping-complex-3978864.html