วันที่นำเข้าข้อมูล 25 พ.ย. 2562
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565
สายการบินเวียดนามแอร์ไลน์เปิดเส้นทางบินตรงสู่ไทย
เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2562 นาย Nguyen Xuan Phuc นายกรัฐมนตรีเวียดนามเข้าร่วมพิธีเปิดเส้นทางการบินใหม่ 2 เส้นทางของสายการบินเวียดนามแอร์ไลน์ที่กรุงเทพฯ ได้แก่ กรุงเทพฯ - นครดานัง และภูเก็ต - นครโฮจิมินห์ซึ่งจะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 2562 เป็นต้นไป โดยเส้นทางภูเก็ต - นครโฮจิมินห์ ให้บริการสัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน ในวันอังคาร วันศุกร์ และวันอาทิตย์ โดยออกจากนครโฮจิมินห์เวลา15.50 น. และออกจากภูเก็ตเวลา 18.40 น. ส่วนเส้นทางกรุงเทพฯ - นครดานัง ให้บริการทุกวัน โดยออกเดินทางจากนครดานังเวลา 15.20 น. และออกจากกรุงเทพเวลา 18.00 น.
ปัจจุบันสายการบินเวียดนามแอร์ไลน์มีเส้นทางการบินระหว่างเวียดนามและไทยให้บริการสัปดาห์ละ 52 เที่ยวบิน โดยไทยเป็นหนึ่งในตลาดการขนส่งทางอากาศที่ใหญ่ที่สุดและมั่นคงที่สุดของสายการบินเวียดนามแอร์ไลน์ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยมากกว่าร้อยละ 15 ในช่วงปี 2558 - 2561 และในปี 2562 สายการบินเวียดนามแอร์ไลน์ได้ให้บริการผู้โดยสารในเส้นทางระหว่างเวียดนามและไทยแล้วกว่า700,000 คนเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2561
นาย Le Hong Ha, Deputy General Director ของสายการบินเวียดนามแอร์ไลน์ กล่าวว่า สายการบินคาดว่าจะเปิดเส้นทางการบินระหว่างทั้ง 2 ประเทศมากขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เนื่องจากมีการเติบโตสูงของตลาดในไทย
ในวันเดียวกันสายการบินไทยเวียดเจ็ทได้จัดงานแถลงข่าวว่าจะเปิดเส้นทางการบินใหม่ที่เชื่อมโยงเส้นทางกรุงเทพฯ - เชียงราย และกรงเทพฯ - อุดรธานี ซึ่งเป็นแหล่งที่ตั้งของชุมชนชาวเวียดนามโพ้นทะเลที่ใหญ่ที่สุดในไทย ทั้งนี้ สายการบินไทยเวียดเจ็ทมีแผนจะให้บริการเส้นทางกรุงเทพ - อุดรธานีในทุกวัน โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 เป็นต้นไป อีกทั้งมีเที่ยวบินพิเศษในวันอังคาร วันพฤหัสบดี และวันอาทิตย์ โดยออกจากกรุงเทพฯ เวลา 16.25 น. ถึงอุดรธานีเวลา 17.35 น.ส่วนเส้นทางเชียงราย - อุดรธานี จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน 2562 เป็นต้นไป โดยจะให้บริการสัปดาห์ละ3 เที่ยวบิน ในวันอังคาร วันพฤหัสบดี และวันอาทิตย์ ซึ่งผู้โดยสารจะสามารถเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังเชียงรายและอุดรธานีได้อย่างสะดวกสบายในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง
ปัจจุบันสายการบินเวียดเจ็ทให้บริการการบินวันละ 400 เที่ยวบินครอบคลุมจุดหมายปลายทางในประเทศและต่างประเทศกว่า 150 เส้นทาง โดยมีผู้โดยสารของสายการบินเวียดเจ็ทในเส้นทางบินระหว่างไทยและเวียดนาม และภายในไทยเอง 9 ล้านคน
แหล่งที่มา : The Saigon Times วันที่ 5 พฤศจิกายน 2562
URL: https://english.thesaigontimes.vn/72511/vna-launches-two-new-routes-to-thailand.html
รัฐบาลเวียดนามมุ่งการเติบโตอย่างยั่งยืนในภาคการผลิตอาหารทะเล
เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2562 นาย Trinh Dinh Dung รองนายกรัฐมนตรีเวียดนามได้รายงานต่อที่ประชุมสมัชชาแห่งชาติว่ารัฐบาลจะให้ความสำคัญกับการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอาหารทะเลตามความต้องการของตลาดในท้องถิ่นและตลาดโลกเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอาหารทะเล
ในปี 2561 เวียดนามมีผลผลิตอาหารทะเลรวม 7.7 ล้านตัน และส่งออกอาหารทะเลมูลค่า 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐไปยังตลาดต่างประเทศ (ร้อยละ 60 ของการส่งออกอาหารทะเลทั้งหมดมาจากภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง) โดยระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนตุลาคม 2562 มีรายได้จากการส่งออกอาหารทะเล 7.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพสำหรับการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมอาหารทะเลของเวียดนามและทำให้เวียดนามกลายเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกอาหารทะเลรายใหญ่ของโลก
อย่างไรก็ตาม ภาคอุตสาหกรรมอาหารทะเลยังคงเผชิญกับความท้าทายมากมายอาทิ การขาดประสิทธิภาพในการผลิตและการแปรรูป และสินค้ามีคุณภาพต่ำ ทำให้รัฐบาลเวียดนามได้สั่งการให้ดำเนินการปรับโครงสร้างภาคอุตสาหกรรมอาหารทะเลให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดโลก ส่งเสริมห่วงโซ่คุณค่าการผลิตและใช้เทคโนโลยี เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มคุณภาพผลิตภัณฑ์อาหารทะเล รวมถึงการผลิตและใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อการแปรรูป
ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรี Dung ได้สั่งการกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนพัฒนาสำหรับกระตุ้นการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมอาหารทะเลในแต่ละปี ระหว่างปี 2564 – 2568 กำหนดแหล่งเงินทุน และจัดเรียงลำดับความสำคัญของการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานให้ชัดเจน ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง อาทิ ท่าเรือประมง ท่าเทียบเรือ การพัฒนาเส้นทางการเดินเรือภายในแม่น้ำ และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการเลี้ยงสัตว์ทะเล
แหล่งที่มา : The Saigon Times วันที่ 7 พฤศจิกายน 2562
URL: https://english.thesaigontimes.vn/72609/gov%E2%80%99t-seeks-sustainable-growth-in-seafood-sector.html
เวียดนามตอนใต้จะขาดแคลนไฟฟ้าหลายพันล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) ภายในปี 2564
นาย Tran Tuan Anh รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า เผยข้อมูลผ่านเว็บไซต์ของกระทรวงว่า เวียดนามตอนใต้จะขาดแคลนไฟฟ้าอย่างหนักภายในปี 2564 โดยมีสาเหตุมาจากความแปรปรวนของสภาพอากาศ การขาดแคลนน้ำสำหรับโรงงานผลิตไฟฟ้าจากพลังงานน้ำและการขาดแคลนก๊าซธรรมชาติสำหรับโรงงานผลิตไฟฟ้าในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ และคาดว่าเวียดนามจะต้องนำเข้าถ่านหินถึง 20 ล้านตันในปี 2563 และเพิ่มเป็น 35 ล้านตันในปี 2578
จากแผนแม่บทการพัฒนาด้านพลังงานไฟฟ้าของรัฐบาลเวียดนาม พบว่า ในช่วงปี 2562 – 2563 เวียดนามจะยังคงมีไฟฟ้าเพียงพอสำหรับการกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ปี 2564 – 2568 เวียดนามจะเกิดภาวะขาดแคลนไฟฟ้าอย่างรุนแรงโดยเฉพาะในภาคใต้ ถึงแม้ว่าจะใช้พลังงานไฟฟ้าที่ผลิตจากน้ำมันแล้วก็ตาม โดยคาดว่าจะขาดแคลนไฟฟ้า 3.7 พันล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง ในปี 2564 1 หมื่นล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงในปี 2565 1.2 หมื่นล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงในปี 2566 และลดลงเหลือ 7 พันล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงในปี 2567 และ 3.5 พันล้านกิโลวัตต์ในปี 2568
อย่างไรก็ตาม มีข้อสังเกตว่าการคาดการณ์ดังกล่าว รายงานปริมาณการขาดแคลนน้อยกว่ารายงานของกรมพลังงานในเดือนกรกฎาคม 2562 ซึ่งคาดว่าเวียดนามตอนใต้จะขาดแคลนไฟฟ้า 6.6 พันล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงในปี 2564 1.18 หมื่นล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงในปี 2565 1.5 หมื่นล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงในปี 2566 และสถานการณ์จะดีขึ้นในช่วงปี 2567 – 2568 เมื่อโรงงานผลิตไฟฟ้าจากพลังงานความร้อน Ca Voi Xanh (Blue Whale) ในจังหวัดกว๋างนามแล้วเสร็จ
ในการประชุมเกี่ยวกับภาวะขาดแคลนไฟฟ้า นาย Anh แจ้งว่า มีโครงการด้านพลังงานจำนวนมากที่ดำเนินการล่าช้ากว่ากำหนด จึงเร่งให้ผู้ประกอบการบริหารจัดการภายในให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังเน้นย้ำให้ภาครัฐลดขั้นตอน/ความซับซ้อนและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการในการดำเนินโครงการด้านพลังงาน รวมถึงสรรหาแหล่งพลังงานสำรองอื่นด้วย เพื่อลดความเสี่ยงในการขาดแคลนพลังงานในอนาคต
ที่มา: Tuoi Tre Online วันที่ 12 พฤศจิกายน 2562
URL: https://tuoitre.vn/mien-nam-se-thieu-hang-ti-kwh-dien-tu-nam-2021-201911121009206.htm
VinCommerce เล็งเพิ่มจำนวนซูเปอร์มาร์เก็ต 10,300 สาขาภายในปี 2568
เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2562 นาง Thai Thi Thanh Hai ผู้อำนวยการทั่วไปของ VinCommerce เปิดเผยยุทธศาสตร์ของบริษัทฯ ณ ที่ประชุมเนื่องในโอกาสครบรอบ 5 ปีของธุรกิจค้าปลีก VinMart และ VinMart+ ว่าบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายเปิดซูเปอร์มาร์เก็ต VinMart จำนวน 300 สาขาและร้านสะดวกซื้อ VinMart+ จำนวน 10,000 สาขาใน 63 จังหวัดทั่วประเทศเวียดนามภายในปี 2568
นอกจาก VinMart และ VinMart+ จะจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางร้านค้า (in-store) แล้วยังได้พัฒนาช่องทางจัดจำหน่ายออนไลน์ผ่าน mobile applications, เว็บไซต์ และ e-commerce platformsเพื่อเพิ่มความสะดวกในจับจ่ายใช้สอยผ่านช่องทางจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายในธุรกิจค้าปลีก โดยเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2562 VinCommerceได้เปิดตัวฟังก์ชั่น VinMart Scan&Go บนแอพพลิเคชั่น VinID โดยผู้ใช้งานสามารถเปิดแอพพลิเคชั่น VinID เพื่อเลือกฟังก์ชั่น Scan&Go และสแกน QR codesของผลิตภัณฑ์ที่ต้องการซื้อในซูเปอร์มาร์เก็ตรวมทั้งชำระเงินผ่านแอพพลิเคชั่นและผลิตภัณฑ์จะถูกจัดส่งถึงลูกค้าภายในไม่กี่ชั่วโมง
ปัจจุบันธุรกิจค้าปลีก VinMart และ VinMart+ เป็นหนึ่งในร้านค้าที่มีจำนวนมากที่สุดในเวียดนามมีสาขาซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้ออยู่ 2,600 สาขา ซึ่งกระจายอยู่ 50 จังหวัดและนครต่าง ๆ ทั่วประเทศเวียดนาม นอกจากนี้ ยังได้ซื้อกิจการ Queenland Market และร้านสะดวกซื้อ Shop&Go กว่า 87 สาขาอีกด้วย
แหล่งที่มา : The Saigon Times วันที่ 13 พฤศจิกายน 2562
อีเมลสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์
ติดต่อทั่วไป
แผนกเศรษฐกิจ
แผนกกงสุล (หนังสือเดินทาง, นิติกรณ์และทะเบียนราษฎร์, บัตรประชาชน, การตรวจลงตราและรับรองเอกสาร)