เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2562 สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ โดยนายอภิรัตน์ สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง กงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ และภริยา ร่วมกับหน่วยงานทีมประเทศไทยในนครโฮจิมินห์เป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงรับรองเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ (5 ธันวาคม 2562) ณ โรงแรม The Reverie Saigon

เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2562 สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ โดยนายอภิรัตน์ สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง กงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ และภริยา ร่วมกับหน่วยงานทีมประเทศไทยในนครโฮจิมินห์เป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงรับรองเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ (5 ธันวาคม 2562) ณ โรงแรม The Reverie Saigon

วันที่นำเข้าข้อมูล 13 ธ.ค. 2562

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 24 ต.ค. 2564

| 155 view

เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2562 สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ โดยนายอภิรัตน์ สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง กงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ และภริยา ร่วมกับหน่วยงานทีมประเทศไทยในนครโฮจิมินห์เป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงรับรองเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ (5 ธันวาคม 2562) ณ โรงแรม The Reverie Saigon โดยมีนาย Tran Vinh Tuyen รองประธานคณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์เป็นแขกเกียรติยศ พร้อมด้วยผู้แทนกรมสัมพันธ์ต่างประเทศนครโฮจิมินห์ ผู้บริหารและผู้แทนสำนักสัมพันธ์ต่างประเทศ หน่วยงานส่งเสริมการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว ผู้บริหารแนวร่วมปิตุภูมิแห่งชาติ ผู้แทนสหพันธ์องค์กรมิตรภาพ ผู้แทนสมาคมชาวเวียดนามโพ้นทะเลลาว-ไทย และสมาคมเวียดนาม-ไทยประจำนครโฮจิมินห์และจังหวัดต่าง ๆ ในเขตกงสุล ตลอดจนผู้แทนภาคเอกชน มหาวิทยาลัย และสื่อมวลชนท้องถิ่น คณะกงสุลต่างประเทศประจำนครโฮจิมินห์ และผู้บริหารระดับสูงของภาคเอกชนและผู้แทนชุมชนไทย เข้าร่วมกว่า 300 คน

กงสุลใหญ่ฯ ได้กล่าวสุนทรพจน์ถึงความสำคัญของการจัดงานเพื่อรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของรัชกาลที่ 9 การรักษา/สืบสาน/ต่อยอดพระราชปณิธานฯ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและพระราชกรณียกิจด้านการเกษตรและการพัฒนาของรัชกาลที่ 9 ซึ่ง UN และ FAO ได้รับรองให้วันที่ 5 ธ.ค. ของทุกปีเป็น “วันดินโลก” ความสำคัญของปี 2562 ซึ่งเป็นปีมหามงคลเนื่องในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ขอบคุณการถวายพระพรชัยมงคลจากผู้นำระดับสูงของเวียดนามและผู้บริหารนครโฮจิมินห์ในโอกาสดังกล่าว และเชื่อมั่นว่าความสัมพันธ์ไทย-เวียดนามจะเจริญรุ่งเรืองต่อไปในรัชกาลใหม่ การเป็นประธานอาเซียนของไทยในปี 2562 และการส่งมอบตำแหน่งประธานอาเซียนให้แก่เวียดนามในปี 2563 โดยย้ำความพร้อมของไทยในการสนับสนุนเวียดนามต่อไป นอกจากนี้ ยังได้กล่าวถึงความร่วมมือในด้านต่างๆ ในระดับประเทศ ความร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานครกับนครโฮจิมินห์ เครือข่ายเมืองอัจฉริยะอาเซียน และความสัมพันธ์ในระดับท้องถิ่นระหว่างจังหวัดและนครของเวียดนามกับจังหวัดต่างๆ ของไทย ซึ่งสถานกงสุลใหญ่พร้อมสนับสนุน ในตอนท้าย ได้กล่าวเชิญชวนดื่มถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดื่มอวยพรแด่ประธานาธิบดีและเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม และต่อความสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม

นาย Tran Vinh Tuyen รองประธานคณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์ กล่าวแสดงความยินดีต่อรัฐบาลไทยในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และย้ำถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและรอบด้านระหว่างไทยและเวียดนามทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่น และกล่าวเชิญชวนดื่มถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และดื่มอวยพรแด่ประเทศไทยแลประชาชนชาวไทย รวมทั้งเพื่อความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างประเทศไทย เวียดนาม และนครโฮจิมินห์

ภายในงานมีการจัดแสดงนิทรรศการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก การส่งเสริมผลิตภัณฑ์/อาหาร/การท่องเที่ยวไทย การสาธิตการแกะสลักผักและผลไม้ และบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เวียดนาม สนับสนุนรางวัลบัตรโดยสารเครื่องบินเส้นทางนครโฮจิมินห์-กรุงเทพฯ และที่หมายอื่นในประเทศไทย จำนวน 2 ที่นั่ง แก่ผู้โชคดี
การแสดงประกอบด้วย (1) รำฉุยฉายกิ่งไม้เงินทอง โดยผู้แทนชุมชนไทย (2) การขับร้องเพลง ASEAN Way ประกอบภาพวิดีทัศน์ ถือเป็นของขวัญในโอกาสที่ไทยได้ส่งมอบตำแหน่งประธานอาเซียนให้เวียดนาม (3) การอัญเชิญเพลงพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 9 (4) การแสดงไหว้ครูมวยไทยและศิลปะแม่ไม้มวยไทย โดยครูมวยไทยที่พำนักและทำงานในนครโฮจิมินห์ และ (5) การแสดงนาฏศิลป์และดนตรีพื้นบ้านอีสาน (วงโปงลาง) โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ซึ่งมีการแสดงชุด “เวียดนาม-ไทยสายสัมพันธ์” เป็นหนึ่งในการแสดงพิเศษในโอกาสนี้

ในช่วงท้ายของงาน กงสุลใหญ่ฯ ได้เชิญชวนผู้บริหารภาคเอกชนและผู้แทนชุมชนไทยร่วมกันร้องเพลง “รักกันไว้เถิด” และถ่ายภาพหมู่หน้าเวทีเพื่อเป็นโอกาสได้แสดงออกซึ่งความรักชาติและความสามัคคีของชุมชนไทย

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ