กงสุลใหญ่ฯ เดินหน้าผลักดันความเชื่อมโยงจังหวัดกว๋างนาม-อุบลราชธานี ยกระดับการค้า ส่งเสริมการท่องเที่ยว สานความสัมพันธ์ระหว่างประชาชน

เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2562 นายอภิรัตน์ สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง กงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ และภริยา ได้เยี่ยมคารวะและพบหารือนาย Tran Dinh Tung รองประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดกว๋างนาม (รักษาการประธานฯ) โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือประเด็นสำคัญ ดังนี้

1. เห็นพ้องที่จะผลักดันความเชื่อมโยงด้านการค้า การท่องเที่ยวระหว่างไทยและเวียดนาม ผ่านเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก 2 (EWEC2) ซึ่งเชื่อมโยงจังหวัดอุบลราชธานีและกว๋างนามในฐานะคู่จังหวัดที่มีความสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้อง โดยกงสุลใหญ่ฯ ได้สอบถามความคืบหน้าในการพัฒนาเส้นทาง EWEC2 ตามที่ฝ่ายเวียดนามได้เสนอไว้ และรักษาการประธานฯ แจ้งว่า ฝ่ายเวียดนามกำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการยกระดับด่านผ่านแดนท้องถิ่นอำเภอนามยางในจังหวัดกว๋างนาม ที่เชื่อมกับด่านดากตะอ๊อกในแขวงเซกองของลาว ให้เป็นด่านผ่านแดนระหว่างประเทศ ซึ่งจะทำให้เป็นเส้นทางเชื่อมโยงภาคตะวันออกเฉียงเหนือระหว่างไทยและเวียดนามตอนกลางที่สั้นที่สุด

2. สองฝ่ายต่างยินดีร่วมผลักดันส่งเสริมความสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้องระหว่างจังหวัดอุบลราชธานีและกว๋างนาม ที่มีมาตั้งแต่ พ.ศ. 2557 ทั้งด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรม โดยมีการกล่าวถึงกิจกรรมที่จังหวัดอุบลราชธานีได้จัดทำอยู่บ้างแล้ว อาทิ เทศกาลส่งเสริมการค้า 3 แผ่นดิน ไทย ลาว กัมพูชา ซึ่งต่อไปอาจสามารถขยายให้รวมถึงสินค้าจากเวียดนาม โดยเฉพาะจากจังหวัดกว๋างนาม ซึ่งกงสุลใหญ่ฯ ย้ำยืนยันท่าทีของรัฐบาลและภาคเอกชนไทย ที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้าไทย-เวียดนาม ให้เป็นไปโดยที่ทั้งสองฝ่ายได้รับประโยชน์ร่วมกัน และกล่าวถึงงานแสดงสินค้าเวียดนามที่มีอยู่แล้วในกรุงเทพฯ และจัดโดยทั้งกระทรวงพาณิชย์และภาคเอกชนไทย ซึ่งกงสุลใหญ่ฯ รับจะไปหารือกับจังหวัดอุบลราชธานีเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการเปิดโอกาสให้สินค้าเวียดนามไปร่วมงานในอุบลราชธานีต่อไปด้วน โดยได้ทราบว่า สินค้าปูทะเลของกว๋างนาม ได้รับความนิยมในอุบลราชธานี และผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีมีดำริจะจัดกิจกรรมประกอบอาหารที่มีการใช้วัตถุดิบของทั้งไทย ลาว กัมพูชา และเวียดนาม (ซึ่งอาจรวมส่วนผสมจากกว่างนาม) รวมถึงความร่วมมือด้านวิชาการและวัฒนธรรมระหว่างมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีและมหาวิทยาลัยในจังหวัดกว๋างนาม

3. รักษาการประธานฯ กล่าวถึงศักยภาพของจังหวัดกว๋างนามและเชิญชวนนักลงทุนไทยที่สนใจให้มาดำเนินธุรกิจด้านการท่องเที่ยว และการเกษตร ซึ่งไทยมีจุดแข็ง จังหวัดกว๋างนามเองมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอาทิ เมืองฮอยอัน และปราสาทหมีเซิน ซึ่งต่างก็ได้รับยกย่องเป็นมรดกโลก ส่วนกงสุลใหญ่ฯ ได้เชิญชวนให้เยาวชนและเจ้าหน้าที่ของเวียดนามเรียนภาษาไทยมากขึ้น โดยจังหวัดกว่างนามอาจพิจารณาใช้ประโยชน์จากภาควิชาภาษาไทย มหาวิทยาลัยต่างประเทศ นครดานัง ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับจังหวัดกว่างนาม และได้รับการสนับสนุนการเรียนการสอนภาษาไทยจากสถานกงสุลใหญ่ฯ อยู่แล้ว เพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อนึ่ง กงสุลใหญ่ฯ ได้ขอให้ทางการจังหวัดกว่างนาม ให้ความช่วยเหลือในกรณีที่มีคนไทยประสบเหตุ และต้องการความช่วยเหลือด้วย โดยสถานกงสุลใหญ่ฯ ยินดีประสานงานกับจังหวัดตลอดเวลา
----------------------------------------