วันที่นำเข้าข้อมูล 1 เม.ย. 2563
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 28 พ.ย. 2565
บริษัท INSEE Vietnam บริจาคเงินมูลค่า 500 ล้านด่งและซีเมนต์ 500 ตันแก่ภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง
ปัจจุบันมีจังหวัดในภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงกำลังประสบภัยแล้งและการแทรกซึมของน้ำเค็ม 10 จังหวัดจาก 13 จังหวัด บริษัท INSEE Vietnam จึงได้ร่วมกับสำนักพิมพ์ Tuoi Tre ในการบรรเทาภัยแล้งและการแทรกซึมของน้ำเค็มแก่ 5 จังหวัดที่ได้ประกาศภาวะฉุกเฉิน ได้แก่ จังหวัดก่าเมา เกียนซาง เบ๊นแจ เตี่ยนซางและล็องอาน โดยได้บริจาคเงินจำนวน 500 ล้านด่ง (21,000 ดอลลาร์สหรัฐ) สำหรับซื้อแทงค์น้ำและเครื่องกรองน้ำเพื่อให้ชาวบ้านสามารถเข้าถึงน้ำสะอาดโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และบริจาคปูนซีเมนต์ INSEE Extra Durable ปริมาณ 500 ตันสำหรับครัวเรือนและโครงการก่อสร้างในพื้นที่ที่ประสบปัญหาการแทรกซึมของน้ำเค็ม เนื่องจากเป็นปูนซีเมนต์ที่ถูกวิจัยและพัฒนาสำหรับใช้ในพื้นที่ที่ประสบปัญหาการแทรกซึมของน้ำเค็มโดยเฉพาะ มีคุณสมบัติในการป้องกันการผุกร่อนจากน้ำบาดาล กรดและด่าง และถูกใช้ในโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่แล้ว อาทิ ท่าเรือนานาชาติ Cai Mep – Thi Vai โครงการ Long Son Petrochemicals และโครงการพลังงานลมนอกชายฝั่งจังหวัดบักเลียว เป็นต้น
อนึ่ง กระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนามคาดการณ์ว่า ภัยพิบัติดังกล่าวจะรุนแรงต่อไปจนหมดฤดูแล้ง
ที่มา: Saigon Times วันที่ 19 มีนาคม 2563
นครเกิ่นเทอตั้งเป้าดึงดูดการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศในอีก 10 ปี ข้างหน้า
นครเกิ่นเทอคาดว่าจะสามารถดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศได้มูลค่า 450 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงปี 2564 – 2574 ตามแผนที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการประชาชนของนครเกิ่นเทอเมื่อวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็นเป้าหมายระยะ 5 ปี สองช่วง ได้แก่ ช่วงปี 2564 – 2569 มูลค่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐและช่วงปี 2570 – 2574 มูลค่า 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว นครเกิ่นเทอจะให้ความสำคัญกับการสร้างบรรยากาศที่เป็นมิตรต่อการดำเนินธุรกิจการปกป้องสิ่งแวดล้อม เน้นการพัฒนาด้านประสิทธิภาพการผลิตตลอดจนแก้ปัญหาด้านการดึงดูดการลงทุนและปัญหาสังคม โดยนครจะให้ความสำคัญกับภาคเกษตรกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง โลจิสติกส์ วัฒนธรรม การท่องเที่ยว การขนส่ง โครงสร้างพื้นฐานในเมือง ที่อยู่อาศัย และการแปรรูปทางการเกษตรเป็นลำดับแรก
ทั้งนี้ ในปี 2562 นครเกิ่นเทอดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศมากกว่า 65 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้จนถึงกุมภาพันธ์ 2562 นครเกิ่นเทอมีการลงทุนจากต่างประเทศกว่า 86 โครงการ มูลค่าสะสมรวมกว่า 748 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ที่มา: The Saigon Times วันที่ 23 มีนาคม 2563
URL: https://english.thesaigontimes.vn/75633/can-tho-targets-us$450-million-in-fdi-in-next-10-years.html.
การติดแผงพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาเติบโตอย่างรวดเร็วในเวียดนาม
จากข้อมูลของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนามคาดว่าแผงพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar rooftop) จะกลายเป็นพระเอกของพลังงานสะอาดของเวียดนามในอนาคตเนื่องจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี นโยบายสินเชื่อพิเศษและมาตรการจูงใจด้านราคาโดยช่วงระหว่างปี 2561-2562 โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ได้เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นผลให้กระทรวงอุตสาหกรรมได้ระงับการออกใบอนุญาตสำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ใหม่หลายโครงการอย่างไรก็ตาม การระงับดังกล่าวไม่รวมถึงการติดแผงพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาซึ่งมีราคารับซื้อไฟฟ้าอยู่ที่ 8.39 เซนต์สหรัฐต่อกิโลวัตต์ (ปรับลดจาก 9.35 เซนต์สหรัฐต่อกิโลวัตต์) ซึ่งนักลงทุนยังประเมินว่ายังคงสามารถสร้างกำไรได้โดยมีระยะเวลาคืนทุนไม่เกิน 5-7 ปีเนื่องจากมาตรการจูงใจต่างๆ
ปัจจัยอื่นๆ ต่อการเติบโตของการใช้แผงพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา อาทิ ความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีการผลิตแบตเตอรี่ที่มีความจุมากขึ้นแต่ราคาต่ำในขณะเดียวกันการติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาของโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ยิ่งทำให้ประหยัดต้นทุนจึงได้รับความสนใจจากนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และครัวเรือนอย่างมากโดยตามสถิติของ Hepza Business Association (HBA) โรงงานมากกว่า 1,000 แห่งในนครโฮจิมินห์ได้ติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์ผ่านการใช้บริการของบริษัท BCG Energy ซึ่งเป็นบริษัทในเครือกลุ่ม Bamboo Capital โดยสมาคมฯ คาดว่าในช่วงปี 2563-2568 การติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์จะเติบโตถึง 300 เมกะวัตต์จนถึง 1,000 เมกะวัตต์ โดยจะช่วยการลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 23 ล้านตัน
กลางเดือนมีนาคม 2563 บริษัท SkyX Solar ภายใต้กลุ่ม VinaCapital และบริษัท Saigontel ได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อพัฒนาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคากำลังการผลิต 50 เมกะวัตต์ ในเขตอุตสาหกรรม 10แห่งในภาคกลางและภาคใต้ของเวียดนาม นอกจากนี้บริษัท TTC Energy ได้ร่วมกับบริษัทด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ Novaland ติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคากว่า 700,000 กิโลวัตต์ที่คอนโดมิเนียม Jamona City ซึ่งจะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 232 ตันต่อปี รวมถึงการติดแผงพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาซูเปอร์มาเก็ตและห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่เช่น Saigon Co.op, Giga Mall, โรงภาพยนตร์ Galaxy Cinema และสวนสาธารณะ Dam Sen
ที่มา: VietNamNews. วันที่ 24 มีนาคม 2563
URL: https://vietnamnews.vn/economy/654000/solar-rooftop-industry-poised-for-rapid-growth.html
อีเมลสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์
ติดต่อทั่วไป
แผนกเศรษฐกิจ
แผนกกงสุล (หนังสือเดินทาง, นิติกรณ์และทะเบียนราษฎร์, บัตรประชาชน, การตรวจลงตราและรับรองเอกสาร)