วันที่นำเข้าข้อมูล 9 มิ.ย. 2563
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 2 เม.ย. 2564
เมื่อวันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน 2563 นายอภิรัตน์ สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง กงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ และภริยา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้เข้ากราบนมัสการพระอาจารย์ Dao Nhu อธิการบดีสถาบันพุทธศาสนานิกายเถรวาท นครเกิ่นเทอ และคณะพระเถรานุเถระสังฆาจารย์ของสถาบันฯ พร้อมทั้งได้หารือเกี่ยวกับกิจการด้านพุทธศาสนาในจังหวัดแถบลุ่มแม่น้ำโขงของเวียดนามรวมทั้งการแสวงหาลู่ทางพัฒนาศาสนสัมพันธ์กับชาวพุทธในประเทศไทย ซึ่งสามารถถือได้ว่าเป็นส่วนประกอบสำคัญส่วนหนึ่งของความสัมพันธ์ระดับประชาชนต่อประชาชน
โอกาสนี้ กงสุลใหญ่ฯ ได้ถวายเครื่องสักการะเป็นพุทธบูชา พร้อมทั้งถวายปัจจัยสนับสนุนกิจการของสถาบันฯ และถวายยาสามัญประจำบ้าน หน้ากากอนามัย เจลล้างมือ สำหรับพระเถรานุเถระ อาจารย์ และพระนิสิตของสถาบันฯ ใช้ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19
สถาบันพุทธศาสนานิกายเถรวาท นครเกิ่นเทอ ก่อตั้งขึ้นในปี 2549 โดยการสนับสนุนของคณะกรรมการประชาชนของนครเกิ่นเทอและภาคเอกชนของเวียดนาม ในช่วงแรกได้ทำการเรียนการสอนในพื้นที่วัดสังวรโพธิญาณ และเมื่อปี 2561 กงสุลใหญ่ไทย ณ นครโฮจิมินห์ในขณะนั้นก็เคยมาเยี่ยมเยือนและกราบนมัสการคณะพระเถระของสถาบันฯ จากนั้นเมื่อสร้างอาคารเรียนแล้วเสร็จในปี 2562 จึงได้ย้ายมายังสถานที่ปัจจุบัน โดยในขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างพระอุโบสถ หอฉัน อาคารสัมมนา เรือนรับรองอาคันตุกะ เพื่อเตรียมขยายกิจการการศึกษาเป็นระดับนานาชาติในอนาคต
สถาบันฯ ดังกล่าว เป็น 1 ใน 4 สถาบันพุทธศาสตร์ศึกษาระดับชาติในเวียดนาม (อีก 3 แห่งตั้งอยู่ที่ กรุงฮานอย จังหวัดเถื่อเทียน-เว้ และนครโฮจิมินห์) และเป็นแห่งเดียวที่มีหลักสูตรด้านพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาท โดยในขณะนี้มีหลักสูตรถึงระดับปริญญาตรี มีการเรียนการสอนวิชาต่างๆ อาทิ หลักสูตรภาษาบาลี และหลักสูตรด้านพระไตรปิฎก ปัจจุบันมีพระเถระที่เป็นอาจารย์ประมาณ 20 รูป ซึ่งมีหลายรูปที่สำเร็จการศึกษาจากมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ในประเทศไทย และมีพระนิสิตสงฆ์ที่กำลังศึกษาระดับปริญญาตรี 67 รูป ส่วนใหญ่เป็นชาวเวียดนาม ทั้งนี้ สถาบันฯ มีความสนใจที่จะแลกเปลี่ยนอาจารย์และพระนิสิตสงฆ์กับสถาบันทางพุทธศาสนาในประเทศไทย และในประเทศพุทธศาสนาต่างๆ ต่อไป
รูปภาพประกอบ
อีเมลสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์
ติดต่อทั่วไป
แผนกเศรษฐกิจ
แผนกกงสุล (หนังสือเดินทาง, นิติกรณ์และทะเบียนราษฎร์, บัตรประชาชน, การตรวจลงตราและรับรองเอกสาร)