ข่าวเด่นวันที่ 10-20 มิถุนายน 2563

ข่าวเด่นวันที่ 10-20 มิถุนายน 2563

วันที่นำเข้าข้อมูล 19 มิ.ย. 2563

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565

| 948 view

ธุรกิจไอทีในเวียดนามต้องการบุคลากรเพิ่มขึ้น 4 เท่าในระยะเวลา 10 ปี

ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา บุคลากรในธุรกิจไอทีในเวียดนามเป็นที่ต้องการมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสาขาที่เป็นที่ต้องการมากที่สุด ได้แก่ การพัฒนาซอฟท์แวร์ (Software Development) การให้ความช่วยเหลือทางเทคนิค (Technical Assistance) การจัดการโครงการ/สินค้า (Project/Product Management) การออกแบบประสบการณ์ผู้ใช้งานและส่วนต่อประสานผู้ใช้ (User Experience and User Interface) การรับประกันและควบคุมคุณภาพสินค้า (QA/QC) และวิทยาศาตร์ข้อมูล (Data Science) โดยกลุ่มพัฒนาซอฟท์แวร์คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 50 ของตลาดแรงงานทั้งหมด ซึ่งเพิ่มขึ้น 2 เท่าในระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา

งานด้านไอทีในเวียดนามส่วนใหญ่ต้องการบุคลากรที่มีความรู้เกี่ยวกับระบบ Software, Mobile, Web, ERP (Enterprise Resource Planning software) รวมถึงการเขียนโปรแกรม อาทิ Java, PHP และ .NET ซึ่งในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาบริษัทในเวียดนามมักใช้บริการแบบจ้างเหมาบุคลากรภายนอก (outsource) โดยเฉพาะในงานด้านการพัฒนา Web Application และ Mobile Application โดยงานด้านการเขียนโปรแกรมแบบ JavaScript มีความต้องการจ้างงานเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 63.3 รองลงมา ได้แก่ การเขียนโปรแกรมสำหรับระบบ iOS เพิ่มขึ้นร้อยละ 29.8 และการเขียนโปรแกรมสำหรับระบบ Android เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.8

ปัจจุบันบริษัทด้านไอทีต่างต้องการบุคลากรมากขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของบริษัทและลดภาระของบุคลากรชุดเดิม โดยที่บุคลากรในตลาดแรงงานยังมีไม่เพียงพอและประสบปัญหาการเปลี่ยนงานบ่อย หลายหน่วยงานจึงต้องร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในการพัฒนาและเตรียมพร้อมบุคลากรที่มีอยู่แล้ว ทั้งนี้ บริษัทด้านไอทีในเวียดนามมักจะจ้างบุคลากรจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากกว่าจากยุโรปหรือสหรัฐฯ ด้วย

อนึ่ง อัตราค่าจ้างเฉลี่ยในงานด้านไอทีในเวียดนามเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงปี 2554-2555 กลุ่มที่มีอัตราค่าจ้างสูงที่สุด ได้แก่ Embedded Developer (เดือนละ 3,750 ดอลลาร์สหรัฐ) และ Hardware Engineer (เดือนละ 3,500 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อมาในช่วงปี 2556-2557 เป็นช่วงที่ Big Data เริ่มมีความสำคัญ ทำให้กลุ่มที่มีอัตราค่าจ้างสูงสุด คือ Data Scientist (เดือนละ 3,531 ดอลลาร์สหรัฐ) และ Python Developer (เดือนละ 2,900 ดอลลาร์สหรัฐ) และยังมีการพัฒนา Big Data อย่างต่อเนื่องมาถึงช่วงปี 2558-2562 ทำให้ตำแหน่ง Business Intelligence (BI) มีอัตราจ้างเดือนละ 1,532 ดอลลาร์สหรัฐในปี 2558 นอกจากนี้ ยังมีตำแหน่งอื่นๆ อาทิ Internet of Things (IoT) developer มีอัตราจ้างเดือนละ 1,800 ดอลลาร์สหรัฐ Artificial Intelligence Developer เดือนละ 1,958 ดอลลาร์สหรัฐ Blockchain Developer เดือนละ 2,033 ดอลลาร์สหรัฐ Cloud Developer เดือนละ 2,006 ดอลลาร์สหรัฐ และ Computer Vision Developer เดือนละ 2,382 ดอลลาร์สหรัฐ โดยมีข้อสังเกตว่าบุคลากรในภาคไอทีมักได้รับสวัสดิการที่ดีด้วย อาทิ การลางานโดยได้รับค่าจ้าง การตรวจสุขภาพรายปี และการสนับสนุนอุปกรณ์ในการทำงาน เป็นต้น

ที่มา: Saigon Times วันที่ 2 มิถุนายน 2563

URL: https://www.thesaigontimes.vn/304208/nhu-cau-tuyen-dung-cntt-tang-gap-4-lan-sau-10-nam.html

 

นครโฮจิมินห์ให้ความสำคัญกับการป้องกันไม่ให้ธุรกิจในนครล้มละลาย

ข้อมูลจากกรมการวางแผนและการลงทุนนครโฮจิมินห์พบว่า สถานการณ์ COVID-19 ส่งผลให้ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2563 นครโฮจิมินห์มีธุรกิจที่ต้องปิดตัวลง 2,015 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 และหยุดดำเนินการชั่วคราวกว่า 7,250 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 29.9 ในขณะเดียวกันมีธุรกิจจัดตั้งใหม่ 14,250 ราย ลดลงร้อยละ 85.5 และมีมูลค่าการลงทุนรวม 185 ล้านล้านด่ง (8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ลดลงร้อยละ 70.3

ในการนี้ นาย Nguyen Thanh Phong ประธานคณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์ได้ขอความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน อาทิ ธนาคาร ธุรกิจประกันภัย หน่วยงานด้านภาษีและกรมศุลกากรในการออกมาตรการช่วยเหลือธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่เสี่ยงต่อการล้มละลายเพื่อลดอัตราการว่างงาน ซึ่งธนาคารพาณิชย์ได้ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และปรับโครงสร้างหนี้แก่ลูกค้ากว่า 17,500 รายแล้ว นอกจากนี้ คณะกรรมการประชาชนนครฯ จะส่งเสริมการใช้นวัตกรรม นโยบายด้านสวัสดิการสังคม ลดอัตราการว่างงานและเร่งเบิกจ่ายการลงทุนภาครัฐเพื่อกระตุ้นการเติบโตของ GDP ต่อไป

อนึ่ง ภาคการท่องเที่ยวเป็นภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากสถานการณ์ COVID-19 และคณะกรรมการประชาชนนครฯ ได้มอบหมายให้กรมการท่องเที่ยวนครฯ ส่งเสริมผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวใหม่ๆ โดยร่วมมือกับจังหวัดอื่นๆ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้น

ที่มา: Saigon Times วันที่ 5 มิถุนายน 2563

URL: https://english.thesaigontimes.vn/77071/hcmc-prioritizes-preventing-businesses-from-going-bankrupt-.html

 

นครโฮจิมินห์มีเงินโอนกลับจากชาวเวียดนามโพ้นทะเล 2.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2563

ธนาคารแห่งประเทศเวียดนาม สาขานครโฮจิมินห์รายงานว่า ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2563 นครโฮจิมินห์มีเงินโอนกลับจากชาวเวียดนามโพ้นทะเลมูลค่า 2.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 1.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 โดยพบว่าเงินโอนกลับจากประเทศที่มีแรงงานเวียดนามจำนวนมาก ได้แก่ ญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลีใต้ สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร แคนาดาและออสเตรเลีย ลดลงอย่างมาก

ในปี 2562 นครโฮจิมินห์มีเงินโอนกลับจากชาวเวียดนามโพ้นทะเล 5.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และธนาคารโลกคาดการณ์ว่าในปี 2563 มูลค่าเงินโอนกลับจากชาวเวียดนามโพ้นทะเลทั่วโลกจะลดลงร้อยละ 20 โดยเฉพาะภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกจะลดลงร้อยละ 13 เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19

ที่มา: Sai Gon Giai Phong วันที่ 10 มิถุนายน 2563

URL: https://sggpnews.org.vn/business/fivemonth-overseas-remittances-to-hcmc-touch-us23-billion-87109.html