วันที่นำเข้าข้อมูล 22 ก.ค. 2563
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 27 พ.ย. 2565
รัฐบาลเวียดนามพิจารณาให้ชาวต่างชาติสามารถเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ด้านการบริการได้
กระทรวงการก่อสร้างเวียดนามได้เสนอต่อรัฐบาลเวียดนามให้ชาวต่างสามารถเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ด้านการบริการได้ อาทิ คอนโดเทล (condotel) และวิลล่า เนื่องจากตลาดอสังหาริมทรัพย์กำลังประสบปัญหาอุปสงค์ของผู้ซื้อและการลงทุนจากต่างชาติลดลงในขณะที่อสังหาริมทรัพย์กลับเพิ่มมากขึ้น
ปัจจุบัน ชาวต่างชาติสามารถซื้อที่อยู่อาศัยประเภทอพาทเม้นท์และคอนโดในโครงการอสังหาริมทรัพย์ในเวียดนามได้ไม่เกินสัดส่วนร้อยละ 30 ของพื้นที่ อย่างไรก็ตามยังไม่มีกฎหมายสำหรับอสังหาริมทรัพย์ด้านการบริการ ซึ่งเป็นการเสียโอกาสในการดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติในคอนโดเทล โดยในปี 2562 มีจำนวนหน่วยถึง 39,100 หน่วยในตลาด และในไตรมาสแรกของปี 2563 มีคอนโดเทลและวิลล่าที่ได้รับการอนุมัติการก่อสร้างเพิ่มอีกกว่า 5,000 หน่วย ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในมหานคร เช่น นครโฮจิมินห์ นครดานังและกรุงฮานอย
บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ DKRA เห็นว่า การจำกัดโควต้าการถือครองที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติด้านการบริการจะทำเวียดนามล้าหลังกว่าไทย อินโดนีเซียและมาเลเซีย ทั้งๆ ที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์เวียดนามมีศักยภาพสูงในการดึงดูดการลงทุนของชาวต่างชาติหรือชาวเวียดนามโพ้นทะเลได้ ซึ่งจะกระตุ้นให้ผู้พัฒนาโครงการปรับปรุงคุณภาพให้ได้มาตรฐานสากลด้วย
อย่างไรก็ตาม มีผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการอนุมัติกฎหมายดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่าชาวต่างชาติจะยึดครองตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเวียดนามโดยเฉพาะในพื้นที่ที่สำคัญต่อความมั่นคงของชาติ โดยข้อมูลจากกระทรวงกลาโหมพบว่ามีบุคคล
และบริษัทสัญชาติจีนครอบครองที่ดินในเวียดนามผ่านบริษัทตัวแทนสัญชาติเวียดนามรวมกว่า 162,000 เฮกตาร์ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่บริเวณชายฝั่งทะเลและดำเนินธุรกิจด้านการท่องเที่ยวและการบริการในที่ดินดังกล่าว โดยเฉพาะในนครดานัง จังหวัดกว๋างนิญและนครไฮฟอง
อย่างไรก็ดี นักเศรษฐศาสตร์ชาวเวียดนามกลับเห็นว่า ชาวต่างชาติสามารถหาช่องว่างทางกฎหมายในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ผ่านบริษัทตัวแทนได้ โดยการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์สำหรับการบริการไม่มีความเสี่ยงด้านความมั่นคงเหมือน
การซื้ออสังหาริมทรัพย์ทั่วไป เนื่องจากเป็นการลงทุนโดยหวังผลกำไรจากการบริหารของบริษัทสัญชาติเวียดนาม ซึ่งต้องผ่าน
การอนุมัติการก่อสร้างจากรัฐบาลก่อนอยู่แล้ว นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญเห็นว่าการถือครองอสังหาริมทรัพย์ของชาวต่างชาติจะช่วยกระตุ้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการท่องเที่ยวของเวียดนามอีกด้วย และการผ่านกฎหมายดังกล่าวจะช่วยลดจำนวนอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่มีผู้ซื้อลง ซึ่งในปี 2562 มีมูลค่ากว่า 9.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 38 เมื่อเทียบกับปี 2561 ตามข้อมูลของสมาคมอสังหาริมทรัพย์นครโฮจิมินห์ (HoREA)
ที่มา: VNExpress วันที่ 26 มิถุนายน 2563
จังหวัดเถื่อเทียน-เว้คาดเศรษฐกิจเติบโตช่วงครึ่งปีหลัง
จังหวัดเถื่อเทียน-เว้ได้คาดการณ์แนวทางสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 ไว้ 2 ลักษณะได้แก่ (1) จังหวัดจะมีอัตราการเติบโต GRDP เฉลี่ยที่ร้อยละ 2.8 หรือ (2) จังหวัดจะมีอัตราการเติบโต GRDP เฉลี่ยที่ร้อยละ 3.77 หากจังหวัดสามารถคงอัตราการเติบโตที่ร้อยละ 6-7 จนถึงสิ้นปี
ในครึ่งแรกของปี 2563 จังหวัดเถื่อเทียน-เว้มีอัตราการเติบโต GRDP เพียงร้อยละ 0.28 ซึ่งต่ำที่สุดในรอบหลายทศวรรษ เนื่องจากภาคการบริการซึ่งมีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสถานการณ์ COVID-19 ดังนั้น การบรรลุเป้าหมายของการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ร้อยละ 7.5-8 อาจเป็นไปได้ยาก
ทั้งนี้ การพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดยังคงมีศักยภาพในการเติบโต โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 จังหวัดมีดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial Production Index) เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 3 โดยอุตสาหกรรม
เหมืองแร่เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.96 และอุตสาหกรรมการผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.45 และมีอุตสาหกรรมที่โดดเด่นอีกหลายประเภท อาทิ อุตสาหกรรมการแปรรูปกุ้งเพื่อการส่งออก อุตสาหกรรมการผลิตบรรจุภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ เป็นต้น นอกจากนี้ จังหวัดมีการลงทุนภาครัฐมูลค่า 10.9 ล้านล้านด่ง (471.64 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 และมีโครงการลงทุน FDI เพิ่ม 4 โครงการ มูลค่ารวม 15.41 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ที่มา: Viet Nam News วันที่ 3 กรกฎาคม 2563
https://vietnamnews.vn/economy/749133/thua-thien-%E2%80%93-hue-to-expect-two-growth-scenarios.html
บริษัท Gulf Energy ลงทุน 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐซื้อโครงการพลังงานลม 2 แห่งในเวียดนาม
บริษัท Gulf Energy Development ได้ประกาศซื้อโครงการพลังงานลมบนบก 2 โครงการจากบริษัท Dien Xanh Gia Lai Investment Energy มูลค่ารวม 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โครงการดังกล่าวตั้งอยู่ในอำเภอ Ia Grai จังหวัดยาลาย มีกำลังการผลิตไฟฟ้าโครงการละ 50 เมกะวัตต์ โดยบริษัทฯ มีใบอนุญาตและพร้อมพัฒนาและดำเนินการผลิตไฟฟ้าโดยจะจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) เป็นระยะเวลา 20 ปี ซึ่งโครงการดังกล่าว จะเริ่มก่อสร้างในปี 2564 และจะสามารถดำเนินผลิตการเชิงพาณิชย์ (COD) ภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2564
นายสารัชถ์ รัตนาวะดี กรรมการผู้จัดการบริษัท Gulf Energy เห็นว่าภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำทำให้การควบรวมกิจการเป็นทางเลือกที่น่าดึงดูดและคาดว่าจะสร้างผลตอบแทนแก่บริษัทอย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบัน บริษัทกำลังมองหาโอกาสในการลงทุนในหลายโครงการ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียและยุโรปอีกด้วย
ที่มา: Nhip Cau Dau Tu วันที่ 5 กรกฎาคม 2563
จังหวัดบิ่ญเซืองมีดุลการค้าเกินดุลมูลค่า 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในครึ่งแรกของปี 2563
กรมสถิติเวียดนามรายงานว่าในครึ่งแรกของปี 2563 จังหวัดบิ่ญเซืองมีดุลการค้าเกินดุลมูลค่า 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีมูลค่าการส่งออก 1.19 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐและมูลค่าการนำเข้า 9.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มมากขึ้นร้อยละ 4.2 เมื่อเทียบกับช่วงเกียวกันของปี 2562
สินค้าส่งออกหลักของจังหวัด ได้แก่ ผลิตภัณฑ์จากไม้ มูลค่ารวม 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 ทั้งนี้ อุตสาหกรรมแปรรูปจากไม้ของจังหวัดได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสถานการณ์ COVID-19 เนื่องจากขาดวัตถุดิบรวมถึงอุปสงค์ความต้องการเฟอร์นิเจอร์ลดลง อย่างไรก็ดี อุตสาหกรรมแปรรูปจากไม้สามารถฟื้นตัวได้เนื่องจากการหันมาสรรหาวัตถุดิบภายในประเทศและเพิ่มคุณภาพและความหลากหลายของสินค้าเพื่อคงยอดการส่งออกไว้ได้
นอกจากนี้ อุตสาหกรรมสิ่งทอของจังหวัดมีมูลค่าการส่งออก 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 ในส่วนของการผลิตรองเท้าคาดว่าการส่งออกรองเท้าไปยังสหรัฐฯ และญี่ปุ่นจะฟื้นตัวหลังสถานการณ์ COVID-19 ดีขึ้น ส่วนอุตสาหกรรมอื่นๆ ยังคงประสบปัญหาขาดแคลนเงินทุนและฐานลูกค้าที่ลดลงเนื่องจากตลาดส่งออกที่ฟื้นตัวช้า
อนึ่ง ในครึ่งปีแรกของปี 2563 มูลค่า GDP ของจังหวัดบิ่ญเซืองเติบโตในระดับสูงร้อยละ 6.73 ในขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมเติบโตร้อยละ 6.4
ที่มา: Vietnam News วันที่ 11 กรกฎาคม 2563
https://vietnamnews.vn/economy/749453/binh-duong-first-half-trade-surplus-hits-26b.html
อีเมลสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์
ติดต่อทั่วไป
แผนกเศรษฐกิจ
แผนกกงสุล (หนังสือเดินทาง, นิติกรณ์และทะเบียนราษฎร์, บัตรประชาชน, การตรวจลงตราและรับรองเอกสาร)