วันที่นำเข้าข้อมูล 22 มี.ค. 2560
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 5 พ.ย. 2562
ข่าวเด่นวันที่ 21 มีนาคม 2560
แผนการก่อสร้างโรงงานผลิตไฟฟ้าพลังงานความร้อนในจังหวัดลองอานได้รับเสียงคัดค้านจากทางการนคร โฮจิมินห์ เนื่องจากอยู่ใกล้นครโฮจิมินห์มากเกินไปและอาจมีผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม
กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าวางแผนลงทุนมูลค่า 5 พันล้านเหรียญสหรัฐในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังความร้อนในอำเภอ Can Giuoc จังหวัดลองอาน อยู่กับใกล้อำเภอ Can Gio ทางตอนใต้ของนครโฮจิมินห์
อย่างไรก็ตาม โครงการนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการวิจัยและเลือกพื้นที่ที่เหมาะสม โดยคาดว่าโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนนี้จะสามารถเริ่มใช้งานได้ในปี พ.ศ. 2567 และจะใช้ถ่านหิน 10 ล้านตันต่อปีเพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้าสู่จังหวัดต่างๆ ในภาคใต้ของเวียดนาม และตั้งอยู่ที่บริเวณชุมชน Phuoc Vinh Dong ใกล้ริมแม่น้ำ Soai Rap เพื่อที่ใช้เป็นเส้นทางขนส่งถ่านหิน โดยเชื้อเพลิงที่ใช้ในโรงงานจะนำเข้ามาจากประเทศออสเตรเลียและอินโดนีเซีย
โรงไฟฟ้าดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากกรมพลังงานและกระทรวงคมนาคม อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการประชาชนของโฮจิมินห์มีความกังวลว่าการใช้ถ่านหินจะเสี่ยงต่อการเกิดมลพิษในพื้นที่เช่น หมอกควัน ฝุ่นขี้เถ้า และน้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในนครโฮจิมินห์ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่พื้นที่ใต้ลม และจังหวัดอื่นๆ ในเวียดนามตอนใต้ส่วนใหญ่จะได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ โดยบริเวณพื้นที่ก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าอยู่ห่างจากนครโฮจิมินห์เพียงแค่เล็กน้อย มีแม่น้ำ Soai Rap ขั้นกลาง ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่ออุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในอำเภอ Can Gio
แหล่งที่มา: เว็ปไซต์สำนักข่าว Saigoneer วันศุกร์ที 17 มีนาคม พ.ศ. 2560
http://saigoneer.com/saigon-news/9552-saigon-opposes-long-an-based-thermal-power-plant
ภาพที่ 1 Grab เตรียมตัวเปิดศูนย์วิจัย R&D
เพื่อเป็นการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในภูมิภาค แอพพลิเคชันรถยนต์ร่วมโดยสาร Grab จะจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาในนครโฮจิมินห์
Grab จะจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาขึ้น 2 แห่งในนครโฮจิมินห์และเมืองบังกาลอร์ ประเทศอินเดีย โดยจะเป็นศูนย์แห่งที่ 5 และ 6 ในโลก เมื่อเดือนที่แล้ว Grab ได้เปิดศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งที่ 4 ที่กรุงจากาตาร์ ประเทศอินโดนีเซีย โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาในนครโฮจิมินห์จะมุ่งเน้นการปรับปรุงการบริการของบริษัท
จะมีการจ้างงานพนักงาน 25 คน โดยบริษัทมีแผนที่จะเพิ่มงานวิจัยและพัฒนาแห่งใหม่ในกรุงปักกิ่ง เมืองสิงคโปร์ และเมืองซีแอตเติล
นาย Jerry Lim ผู้อำนวยการ Grab ประเทศเวียดนามกล่าวว่า การเปิดศูนย์วิจัยและพัฒนาที่นครโฮจิมินห์แสดงให้เห็นว่าเวียดนามเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีศักยภาพที่จะพัฒนาความสามารถด้านเทคโนโลยีในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว และต้องการจะสร้างนวัตกรรมเพื่อนำเสนอบริการใหม่ๆ ในการตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค
แหล่งที่มา: เว็ปไซต์สำนักข่าว Saigoneer วันเสาร์ที 18 มีนาคม พ.ศ. 2560
http://saigoneer.com/saigon-technology/9569-grab-to-open-r-d-center-in-saigon
หน่วยงานต่างๆ ในนครโฮจิมินห์ได้เข้าร่วมงานประชุมกับกับหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวของภาคเอกชน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสนอแนวทางใหม่ๆ ในการเปลี่ยนให้นครโฮจิมินห์กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำของประเทศ อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมนั้นกลับมีข้อติเตียนเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในนครโฮจิมินห์จำนวนมาก
ในเดือนมกราคม พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้กำหนดเป้าหมายการท่องเที่ยวในเวียดนามในปี พ.ศ. 2563การท่องเที่ยวจะกลายเป็นหนึ่งในตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และภายในปี พ.ศ. 2573 การท่องเที่ยวจะกลายเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่แท้จริงของประเทศ เป้าหมายดังกล่าว เป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมของประเทศ ทั้งนี้ ในปี พ.ศ. 2559 มีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศมาเยือนเวียดนามจำนวน 10 ล้านคนและนักท่องเที่ยวในประเทศ 62 ล้านคน โดยรายได้จากการท่องเที่ยวคิดเป็นร้อยละ 6.8 ของ GDP ในประเทศ หากทำได้สำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ในปี พ.ศ. 2563 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติและนักท่องเที่ยวภายในประเทศที่จะเพิ่มขึ้นถึง 20 ล้านคนและ 82 ล้านคนภายในปีพ. ศ. 2560 ซึ่งจะคิดเป็นร้อยละ 10 ของ GDP ในประเทศ
นาย Phan Xuan Anh ประธานบริษัทการท่องเที่ยว Du Ngoan Viet กล่าวว่า การท่องเที่ยวในนครโฮจิมินห์ไม่น่าสนใจมากพอสำหรับนักท่องเที่ยว และนักท่องเที่ยวมีความเห็นสอดคล้องกันว่ามีกฎระเบียบที่เข้มงวดโดยไม่จำเป็นหลายอย่าง อีกทั้งยังไม่สามารถพัฒนาอำเภอ Can Gio ให้เป็นจุดหมายการท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ซึ่งอำเภอดังกล่าวจัดเป็นเกาะชายแดนที่ต้องได้รับอนุญาตจากทางการก่อนจะนำนักท่องเที่ยวมา ถึงแม้ว่าจะใช้เวลาเพียง 10 นาทีในการเดินทางโดยเรือจากจังหวัดบาเหรี่ยะ-หวุงเต่ามายังอำเภอ Can Gio ก็ตามที
นาง Duong Thanh Thuy ผู้จัดการแบรนด์เสื้อผ้า Duong Miss Ao Dai ร้องเรียนว่า นครโฮจิมินห์มีแหล่ง ช็อปปิ้งมากเกินไปจนทำให้ไม่มีเอกลักษณ์ และมีปัญหาการจราจรติดขัด โดยนาง Thuy เรียกร้องให้เปิดแหล่งช็อปปิ้งขนาดใหญ่ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถหาผลิตภัณฑ์จากเวียดนามและเพลิดเพลินกับอาหารพื้นเมืองด้วยได้ ซึ่งน่าจะสามารถดึงดูดเงินจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มถึง 500-1,000 ดอลลาร์สหรัฐ
นาย Vo Anh Tai รองผู้จัดการทั่วไปของบริษัท Saigontourist กล่าวว่า นครโฮจิมินห์ยังขาดสถานที่ท่องเที่ยวในยามค่ำคืน และแนะนำให้หาวิธีเปลี่ยนนครโฮจิมินห์ให้เป็นเมืองที่ไม่เคยหลับใหลเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยวมากขึ้น
ในขณะเดียวกัน นาย Scott Hodgetts ผู้จัดการทั่วไปของโรงแรม Sheraton Saigon ในฐานะตัวแทนของนักธุรกิจชาวต่างชาติในนครโฮจิมินห์ ตั้งข้อสังเกตว่า ในเทศบาลต่างๆ เอกสาร กระบวนการด้านการดำเนินธุรกิจมีความล่าช้า ตลอดจนไม่มีความโปร่งใสของการบังคับใช้กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยในปีพ. ศ. 2559 โรงแรม Sheraton Saigon ถูกตรวจสอบถึง 13 ครั้ง โดยทางโรงแรมเสนอว่า นครโฮจิมินห์ควรมีกลไกที่มีประสิทธิภาพและความรวดเร็ว เพื่อให้นักธุรกิจสามารถเข้าใจกฎหมายและระเบียบข้อบังคับของท้องถิ่นได้อย่างเต็มที่
แหล่งที่มา : เว็บไซต์สำนักข่าว tuoitrenews วันพฤหัสที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2560
URL : http://tuoitrenews.vn/business/39920/insiders-speak-of-saigons-charmless-tourism-as-city-preps-to-make-it-top-economic-driver
************************************
ศูนย์ข้อมูลธุรกิจไทยในนครโฮจิมินห์
อีเมลสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์
ติดต่อทั่วไป
แผนกเศรษฐกิจ
แผนกกงสุล (หนังสือเดินทาง, นิติกรณ์และทะเบียนราษฎร์, บัตรประชาชน, การตรวจลงตราและรับรองเอกสาร)