ข่าวเด่นวันที่ 22 มีนาคม 2560

 1.อสังหาริมทรัพย์ใต้ดินนครโฮจิมินห์

นครโฮจิมินห์เตรียมเปิดตัวรถไฟใต้ดินสายแรกซึ่งเส้นทางครอบคลุมย่านใจกลางเมือง ส่งผลให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีการแข่งขันกันสูงขึ้น

นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ห้างสรรพสินค้าและคอนโดมิเนียมในนครโฮจิมินห์หลายรายได้ร่วมกันส่งหนังสือลงชื่อถึงสำนักงานบริหารการจัดการเส้นทางรถไฟในเมือง Municipal Management Authority for Urban Railways (MAUR) เพื่อขออนุญาตเชื่อมต่ออาคารของตนเข้ากับกับสถานีรถไฟใต้ดินในอนาคต โดย MAUR เห็นด้วยกับคำขอดังกล่าว การเชื่อมต่ออาคารที่พักอาศัยต่างๆกับสถานีรถไฟฟ้าใต้ ถือเป็นหัวใจสำคัญในการส่งเสริมให้ประชาชนใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ

ตามที่สำนักงานการวางแผนและสถาปัตยกรรมของเมืองได้ร่างแผนไว้จะทำให้บริเวณถนน Nguyen Hue เขต 1 มีชั้นใต้ดินบริเวณใต้ดินรถไฟฟ้าถึง 6 ชั้นซึ่งจะเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินโรงละครโอเปร่านครโฮจิมินห์

รถไฟใต้ดินสายแรกในนครโฮจิมินห์มีระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตรระหว่างสถานีตลาด Ben Thanh ในเขต 1 และสวนสนุก Suoi Tien เขต 9

ปัจจุบัน MAUR ได้ร่างแผนการจัดการพื้นที่ใต้ดิน ซึ่งจะรวมถึงโครงการรถไฟฟ้าใต้ดิน โดยจะส่งผลให้นครโฮจิมินห์เป็นเมืองของเวียดนามแห่งแรกที่มีแผนครอบคลุมในการจัดการการใช้พื้นที่ใต้ดิน

นาย Nguyen Dinh Hung รองผู้อำนวยสำนักงานการวางแผนและสถาปัตยกรรมของนครโฮจิมินห์กล่าวว่า  แผนการจัดการพื้นที่ใต้ดินมีส่วนช่วยในการปรับปรุงภูมิทัศน์ของเมืองและช่วยขจัดความแออัดบนพื้นดิน ความจำเป็นในการเชื่อมต่อพื้นที่ใต้ดินกลายเป็นเรื่องเร่งด่วนมากขึ้น เพราะจะมีสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินซึ่งถือเป็นพื้นที่สาธารณะของเมืองในอนาคต ในตอนนี้รัฐบาลจะนำแผนการจัดการพื้นที่ใต้ดินมาใช้ 930 เฮกตาร์ในย่านใจกลางเมือง และจะขยายไปยังพื้นที่ใกล้เคียง ภายหลังที่เข้าใจความต้องการของผู้ประกอบการและผู้ใช้งาน

การเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ใต้ดินเอกชนและสาธารณะจะเป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย ฝ่ายบริหารท้องถิ่นและนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มีความกระตือรือร้นต่อการใช้งานของแผนการดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการก่อสร้างใดๆ ตามที่มีการอนุมัติให้ก่อสร้างโครงการใต้ดิน

แหล่งที่มา: Tuoi Tre วันที่ 20 มีนาคม  2560

URL: http://tuoitrenews.vn/business/40125/ho-chi-minh-city-estate-game-is-going-underground

2.เกาหลีใต้สนับสนุนภาคการคมนาคมของเวียดนามมากขึ้น

นาย Choi Jeong-ho รัฐมนตรีช่วยกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน และการคมนาคม ประเทศเกาหลีใต้ กล่าวในที่ประชุมกับกระทรวงคมนาคมเวียดนามว่า ประเทศเกาหลีใต้มีความสนใจที่จะกระชับความร่วมมือกับเวียดนามในด้านการคมนาคมขนส่ง

เกาหลีใต้ต้องการเข้าร่วมในโครงการระบบทางเดินรถไฟ การท่าเรือ การต่อเรือ และโลจิสติกส์ในเวียดนามโดยเฉพาะโครงการสนามบินนานาชาติ Long Thanh ในจังหวัดด่งนาย

นาย Choi Jeong-ho กล่าวว่า เกาหลีใต้ยินดีที่จะแบ่งปันประสบการณ์และให้การสนับสนุนเวียดนามในการพัฒนาด้านการคมนาคมขนส่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการฝึกอบรมด้านทรัพยากรมนุษย์และการเชื่อมโยงธุรกิจด้านการขนส่งระหว่างสองประเทศนี้

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นาย Nguyen Hong Truong กล่าวว่า ในปลายปี พ.ศ. 2559 เวียดนามและเกาหลีใต้ได้ร่วมมือกันดำเนินโครงการขนส่งไปแล้วทั้งสิ้น 4 โครงการ ได้แก่ สะพาน Vinh Thinh ระบบขนส่งอัจฉริยะสำหรับทางด่วนนครโฮจิมินห์ – Trung Luong และทางยกระดับ Chi Linh - Bieu Nghi ของทางหลวงหมายเลข 18 ขณะนี้ทั้งสองประเทศดำเนินโครงการ 5 โครงการมูลค่ารวม 595.84 ล้านเหรียญสหรัฐ และเสนอโครงการใหม่เพิ่ม 5 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการเกี่ยวกับการขนส่งทางรถไฟ 3 โครงการ

นาย Truong กล่าวว่า ในภาคการบินทั้งสองประเทศมีความร่วมมือที่แน่นแฟ้น ไม่เพียงในด้านการขนส่งผู้โดยสารและสินค้า แต่ยังรวมถึงการให้บริการภาคพื้นดินและการฝึกอบรมด้านทรัพยากรมนุษย์ นอกจากนี้เกาหลีใต้และเวียดนามมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นในการทำงานร่วมกันในการเดินเรือ โดยมุ่งเน้นที่การต่อเรือ การก่อสร้างท่าเรือ และการลงทุนในด้านอุปกรณ์ขนส่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคใต้ของเวียดนาม

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ Saigon Times วันศุกร์ที 17 มีนาคม พ.ศ. 2560 หน้า 6

3. จังหวัดเถื่อเทียน-เว้ต้องการให้เปิดเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพเพิ่มขึ้น

ภาพที่ 1 สายการบิน Jetstar เตรียมตัวเปิดเที่ยวบินเพิ่มเติมกรุงเทพ-เถื่อเทียน-เว้

จากการประชุมเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2560 ระหว่างหน่วยงานราชการและหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องในจังหวัดเถื่อเทียน-เว้ กับสายการบิน Jetstar มีข้อเสนอว่าให้สายการบินเปิดเที่ยวบินตรงระหว่างจังหวัดเถื่อเทียน-เว้กับกรุงเทพมหานคร

ตัวแทนหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวหลายแห่งเรียกร้องให้เปิดเที่ยวบินเพิ่มจาก 2 เที่ยวบินต่อเดือนในปัจจุบัน ให้เป็น 2 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ซึ่งจะทำให้การท่องเที่ยวในจังหวัดเถื่อเทียน-เว้เติบโตขึ้นอย่างมากจากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เพิ่มขึ้น โดยร้องขอให้ทางจังหวัดตัดสินใจเรื่องเวลาตารางบินและราคาค่าโดยสาร ในขณะที่ขอให้สนามบิน Phu Bai สร้างแรงจูงใจในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเที่ยวบินนี้ในระยะยาว

สายการบิน Jetstar รายงานว่าเที่ยวบินระหว่างจังหวัดเถื่อเทียน-เว้ และกรุงเทพมีอัตราผู้โดยสารเฉลี่ยร้อยละ 70 อย่างไรก็ตาม เที่ยวบินนี้ไม่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวระยะสั้นได้ เนื่องจากมีรอบบินน้อย ซึ่งสายการบินก็เห็นด้วยว่าการเพิ่มรอบบินเป็นสิ่งจำเป็น

ตัวแทนจากหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยได้กล่าวเช่นกันว่า การเพิ่มรอบบินระหว่างจังหวัดเถื่อเทียน-เว้ กับกรุงเทพเป็นสิ่งที่จำเป็นและควรจะดำเนินการโดยเร็ว

ในขณะนี้ คณะกรรมการประชาชนจังหวัดได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสร้างเงื่อนไขที่เอื้อประโยชน์ให้เกิดเที่ยวบินนี้ และกล่าวว่าจะสนับสนุนการเปิดเที่ยวบินนี้อย่างเต็มที่

ที่มา Vietnam Investment Review วันที่ 18 มีนาคม 2560