วันที่นำเข้าข้อมูล 18 เม.ย. 2560
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 5 พ.ย. 2562
ข่าวเด่นวันที่ 18 เมษายน 2560
ภาพที่ 1 แบบแผนโรงงานเหล็ก Ca Na
นายกรัฐมนตรี Nguyen Xuan Phuc ประกาศยุติโครงการก่อสร้างโรงงานเหล็ก Ca Na มูลค่า 10.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในจังหวัดนิ่งถ่วนชั่วคราวสืบเนื่องมาจากความกังวลเรื่องสิ่งแวดล้อม โดยให้นักลงทุนศึกษาและทำรายงานสรุปเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อม ความจำเป็นของโครงการ เทคโนโลยีที่ใช้ในโครงการ และเครื่องมือมาใหม่อีกครั้ง แม้ว่าโครงการนี้ได้รับการอนุมัติจากกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าแล้วก็ตาม
สำนักนายกรัฐมนตรีได้เปิดเผยว่า นาย Phuc มองว่าการสร้างโรงงานผลิตเหล็ก Ca Na ในจังหวัด Ninh Thuan ยังไม่จำเป็นและยังเร็วเกินไป โดยกล่าวว่าทุกฝ่ายควรจะพิจารณาถึงความต้องการภายในประเทศและต่างประเทศ เช่นเดียวกับการจัดหาวัตถุดิบที่เหมาะสมและสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีอยู่ในปัจจุบัน นอกจากนั้น รัฐบาลยังต้องการให้นักลงทุนพิจารณาถึงเทคโนโลยีที่จะใช้ในโครงการและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อที่จะป้องกันภัยพิบัติทางสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นโดยบริษัท Formosa เมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวถือว่าเป็นภัยพิบัติทางสิ่งแวดล้อมที่ร้ายแรงที่สุดของเวียดนามที่เคยเกิดขึ้นที่ได้ทำลายชีวิตความเป็นอยู่ของชาวประมงในพื้นที่และการท่องเที่ยวในจังหวัดห่าติ่ง จังหวัดกว๋างบิงห์ จังหวัดกว๋างจิ และจังหวัดเถื่อเทียน-เว้ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมกล่าวว่าจะต้องใช้เวลากว่า 10 ปี ในการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมให้กลับมาดีขึ้นดังเดิมได้
นาย Phuc กล่าวเพิ่มเติมว่าโครงการโรงงานเหล็ก Ca Na สามารถเริ่มดำเนินการต่อได้ภายหลังที่ส่งรายงานการศึกษาข้างต้นมาให้รัฐบาลพิจารณาเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเห็นด้วยที่จะเร่งเพิ่มการลงทุนในจังหวัด นิ่งถ่วนให้มากขึ้น เพราะจะเป็นการพัฒนาสภาพเศรษฐกิจและสังคมของจังหวัดให้ดีขึ้นต่อไป
คาดว่ากลุ่มบริษัท Hoa Sen บริษัทผลิตเหล็กที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจะเป็นผู้ลงทุนในโครงการดังกล่าว บนพื้นที่ 1,700 เฮกตาร์ (4,200 เอเคอร์) และจะสามารถผลิตเหล็กได้มากกว่า 16 ล้านตันต่อปี แม้ว่าโครงการนี้จะยังไม่ได้รับใบอนุญาตอย่างเป็นทางการ แต่กระทรวงอุตสาหกรรมและการลงทุนก็ได้บรรจุโครงการดังกล่าวไว้ในแผนการพัฒนาเหล็กแห่งชาติเรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม มีข้อโต้แย้งว่าในปัจจุบันเวียดนามยังคงต้องนำเข้าเหล็กจำนวนมหาศาลอยู่เพื่อที่จะสามารถตอบสนองต่อความต้องการภายในประเทศได้ เวียดนามนำเข้าเหล็ก 18.4 ตัน มูลค่ากว่า 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2559 เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.4 เมื่อเทียบกับปี 2558
ที่มา VnExpress วันที่ 15 เมษายน 2560
URL: http://kinhdoanh.vnexpress.net/tin-tuc/doanh-nghiep/thu-tuong-yeu-cau-dung-du-an-thep-ca-na-3570948.html
ภาพที่ 2 ขยะของเสียบริเวณแม่น้ำ Saigon
บริษัทท่องเที่ยวในนครโฮจิมินห์ได้เข้าร่วมประชุมกับผู้บริหารของนครโฮจิมินห์ในวันที่ 13 เมษายน 2560 เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับปัญหามลพิษทางน้ำที่เกิดขึ้นและร้องขอให้หน่วยงานต่างๆ รีบออกมาตรการดูแลเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นเพื่อที่จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น โดยได้ยกตัวอย่างปัญหามลพิษในคลอง Tau Hu – Binh Dong ในเขต 8 และปัญหามลพิษแม่น้ำ Sai Gon บริเวณตัวเมืองนครโฮจิมินห์ที่ไหลไปยังอำเภอ Cu Chi ที่กำลังมีสภาพสิ่งแวดล้อมทรุดโทรมลงอย่างมาก
นครโฮจิมินห์มีแม่น้ำและคลองรวมกัน 3,268 สาย มีความยาวรวมกันกว่า 5,000 กิโลเมตร ปัญหามลพิษทางน้ำดังกล่าวเกิดขึ้นจากการทำปศุสัตว์ ระบบการจัดการน้ำเสียที่ไร้ประสิทธิภาพ และการทิ้งของเสียลงสู่แม่น้ำ
นครโฮจิมินห์มีเส้นทางคมนาคมทางน้ำเกือบ 1,000 กิโลเมตรซึ่งปัญหาขยะและน้ำเสียได้ส่งผลกระทบถึงการคมนาคมทางน้ำซึ่งส่งผลให้เรือมีสภาพทรุดโทรมลงและมีค่าซ่อมบำรุงจำนวนมาก
ทั้งนี้ การท่องเที่ยวทางน้ำในนครโฮจิมินห์ยังประสบปัญหาความยากลำบากอย่างมากสืบเนื่องมาจากการขาดแคลนท่าเรือและปัญหาสิ่งแวดล้อมทรุดโทรม
คาดว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในนครโฮจิมินห์จะสามารถสร้างรายได้กว่า 120,000 พันล้านด่ง (ประมาณ 5.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปี 2560 โดยนครโฮจิมินห์ได้อนุญาตให้ลงทุนโครงการการท่องเที่ยวทางน้ำที่มีมูลค่าการลงทุนสูง เช่น โครงการ Saigon Corner โดยกลุ่มบริษัท Trung Thuy โครงการ Saigon Night Market โดยบริษัท Ngoi Sao Bien และการท่องเที่ยวทางการเกษตรในเขต 9 ในอำเภอ Cu Chi และในอำเภอ Can Gio นอกจากนั้น นครโฮจิมินห์ยังมีแผนการพัฒนาถนนแพทย์แผนโบราณ ถนนคนเดิน ถนนดนตรี และตลาดนัดสุดสัปดาห์เพิ่มเติมอีกด้วย
นาย Nguyen Thanh Phong ประธานคณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์ได้กล่าวในงานประชุมดังกล่าวว่า ทางการนครโฮจิมินห์จะเร่งพัฒนาธุรกิจการท่องเที่ยวเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยตั้งเป้าหมายไว้ที่ 7 ล้านคน ในปี พ.ศ. 2560 และตั้งเป้าหมายให้นักท่องเที่ยวใช้เวลาในนครโฮจิมินห์ให้มากขึ้น นอกจากนั้นยังมีแผนพัฒนาเขตการท่องเที่ยวใหม่ๆ เช่น ในอำเภอ Can Gio ในอำเภอ Cu Chi และบริเวณพื้นที่ Thu Thiem และได้กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมว่า ทางการนครโฮจิมินห์ได้ออกมาตรการเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมมาตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2560 แล้ว ซึ่งทางนครโฮจิมินห์จะสนับสนุนการลงทุนในการพัฒนาระบบการบำบัดน้ำเสีย โดยตั้งเป้าหมายว่าจะสามารถบำบัดน้ำเสียภายในเขตตัวเมืองนครโฮจิมินห์ได้มากถึงร้อยละ 80 ภายในปี 2563
ที่มา Vietnam Investment Review วันที่ 17 เมษายน 2560
URL: http://www.vir.com.vn/tourism-enterprises-complain-about-waterway-pollution.html?utm_source=dlvr.it&utm_medium=facebook
นักลงทุนจำนวนมากได้เลือกลงทุนในการก่อสร้าง Condotel บริเวณพื้นที่ริมชายหาดนครดานังซึ่งหลายฝ่ายกังวลว่าจะเกิดปัญหาในอนาคตเนื่องจากยังไม่มีกฏหมายและมาตรการที่เหมาะสม
ในปัจจุบัน นักลงทุนจำนวนมากเลือกที่จะลงทุนในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ Condotel ในนครดานัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณเขต Son Tra และเขต Ngu Hanh Son โดยมีโครงการก่อสร้างตึกสูงระฟ้าเป็นจำนวนมากอย่างเช่น โครงการ Vinpearl Condotel Ngo Quyen โครงการ Alphanam Luxury Apartment โครงการ Central Coast โครงการ Hoa Binh Green Da Nang และโครงการ Cocobay และทางการนครดานังก็ได้อนุญาตให้สร้าง Condotel สูง 22 ชั้นในบริเวณใจกลางนครดานังบริเวณสามแยกถนน Nguyen Thi Minh Khai และถนน Ly Tu Trong ซึ่งถึงแม้ว่าบริเวณดังกล่าวจะมีปัญหารถติดมาก แต่ทางการนครดานังก็ยังอนุญาตให้สร้างโครงการ Condotel ขึ้น
จากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ Condotel ที่เพิ่มขึ้นในนครดานังทำให้หลายๆ ฝ่ายมีความวิตกกังวลต่อกระแสการลงทุนใหม่นี้ ผู้บริหารสำนักงานการก่อสร้างนครดานังได้กล่าวว่า ในช่วงปี 2558 – 2559 นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์จำนวนมากได้เปลี่ยนการลงทุนจากการสร้างพื้นที่การให้บริการและศูนย์การค้ามาเป็นการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ Condotel บริเวณรอบๆ ริมชายทะเลและใจกลางเมืองแทน โดยสำนักงานมีความกังวลว่าหากนครดานังไม่มีมาตรการการบริหารจัดการที่เหมาะสมโดยเฉพาะเมื่อโครงการ Condotel ต่างๆ ได้เปลี่ยนมาเป็นคอนโดที่อยู่อาศัยทั้งหมดจะส่งผลเสียต่อการบริหารจัดการในอนาคต เช่น ผลกระทบต่อทัศนียภาพโดยรวมต่อบริเวณพื้นที่ Condotel ผลกระทบต่อโครงการพื้นฐาน ผลกระทบทางสังคม ผลกระทบต่อค่าเสียโอกาสในการสร้างโครงการอื่นๆ ที่จำเป็นในนคร และที่สำคัญที่สุดคือผลกระทบต่อสิทธิของผู้ซื้อที่ไม่เข้าใจสัญญาโครงการ Condotel ที่แตกต่างจากโครงการอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ
ความกังวลดังกล่าวส่งผลให้สำนักงานการก่อสร้างนครดานังส่งหนังสือถือคณะกรรมการนครดานังและกระทรวงการก่อสร้างเพื่อที่จะให้ออกมาตรการที่เหมาะสมในการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ Condotel ต่อไป
ที่มา หนังสือพิมพ์ Tuoi Tre วันที่ 18 เมษายน 2560 หน้า 8
**************************
ศูนย์ข้อมูลธุรกิจไทยในนครโฮจิมินห์
อีเมลสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์
ติดต่อทั่วไป
แผนกเศรษฐกิจ
แผนกกงสุล (หนังสือเดินทาง, นิติกรณ์และทะเบียนราษฎร์, บัตรประชาชน, การตรวจลงตราและรับรองเอกสาร)