ข่าวเด่นวันที่ 22 – 23 เมษายน 2560

1. บริษัท Crown Beverage Cans Danang เตรียมเพิ่มกำลังการผลิตขึ้น 2 เท่า

บริษัท Crown Beverage Cans Danang บริษัทลูกของบริษัท Crown Holding Inc สัญชาติอเมริกากำลังติดตั้งสายการผลิตใหม่ในโรงงานผลิตกระป๋องในนครดานังเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตขึ้น 2 เท่า เพื่อให้สามารถรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคได้ และเมื่อการติดตั้งสายการผลิตใหม่เสร็จแล้ว โรงงานดังกล่าวจะสามารถเพิ่มการผลิตได้เป็น 1.6 พันล้านกระป๋องต่อปี ทั้งนี้ บริษัทยังเพิ่มเงินลงทุนจาก 45 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเป็น 70 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

สายการผลิตใหม่นี้จะติดตั้งเสร็จในเดือนสิงหาคมและจะเริ่มเปิดใช้งานจริงในเดือนกันยายน 2560 เทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่ใช้จะนำเข้ามาจากประเทศเยอรมนี ประเทศเนเธอร์แลนด์ ประเทศอังกฤษ และประเทศสหรัฐอเมริกา

บริษัท Crown Beverage Cans Danang เป็นผู้จัดส่งวัตถุดิบกระป๋องอลูมิเนียมรายใหญ่ให้กับโรงงานของบริษัท Heineken Vietnam ในนครดานังและจังหวัดกว๋างนาม โรงงานของบริษัท Saigon – Quang Ngai Beers JSC โรงงานของบริษัท Alcohol and Beverage Corp โรงงานผลิตเบียร์ Dung Quat โรงงานผลิตเบียร์ในจังหวัดฝูเอี้ยนและจังหวัดเหิ่วซาง โรงงานของบริษัท Suntory PepsiCo Vietnam Beverage

นาย Phan Van Dung ผู้อำนวยการบริษัท Crown Beverage Cans Danang กล่าวว่า ในปัจจุบัน บริษัทเร่งการผลิตอย่างเต็มความสามารถ แต่การผลิตที่ทำได้ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคในเวียดนาม ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่บริษัทตัดสินใจเพิ่มการลงทุนในเวียดนามให้มากขึ้น บริษัทได้เริ่มกิจการในปี 2556 โดยหลังจากดำเนินกิจการได้ 3 ปี ก็ได้มีการยกระดับการผลิตใหม่ถึง 2 เท่า และในปีนี้ ก็จะยกระดับการผลิตอีกครั้ง โรงงานมีพนักงานน้อยกว่า 100 คน แต่จะเพิ่มเป็น 150 คน ภายหลังที่เพิ่มสายการผลิตขึ้นมาใหม่อันเนื่องมาจากการใช้เทคโนโลยีการผลิตชั้นสูงที่ใช้แรงงานน้อยลง โดยในปีที่แล้ว บริษัทมีรายได้ 1.3 ล้านล้านด่ง และจ่ายภาษีมากกว่า 109 พันล้านด่ง

บริษัท Crown Danang เป็นบริษัทที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสิ่งแวดล้อมโดยลดการใช้พลังงานแก๊ส พลังงานไฟฟ้า และพลังงานน้ำลงถึงร้อยละ 10 ในแต่ละปี ทั้งยังมีระบบการจัดการน้ำที่ได้มาตรฐานระดับ B (สามารถปล่อยน้ำลงสู่ทะเลได้)

ที่มา หนังสือพิมพ์ The Saigon Times Daily วันที่ 21 เมษายน 2560 หน้า 2

2. ราคาที่ดินในอำเภอ Can Gio เพิ่มสูงขึ้น

เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาที่ดินในอำเภอ Can Gio นครโฮจิมินห์เพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ จากการสำรวจของสำนักข่าว VnExpress ที่ดินในตำบล Binh Khanh เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีราคาที่ดินสูง ที่ดินในถนน Duong Rung Sac และถนน Pha Binh Khanh ฝั่งที่จะไปสู่ศาลาว่าการตำบล Binh Khanh มีราคาเพิ่มขึ้นสูง ที่ดินหนึ่งตารางเมตรมีราคาถึง 14 – 18 ล้านด่ง เพิ่มขึ้นอย่างต่ำร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาปลายปี 2559 อย่างไรก็ตามที่ดินบนถนน Rung Sac จนถึงสะพาน An Nghia มีราคาต่ำลงเล็กน้อยเนื่องมาจากมีจำนวนประชากรที่อาศัยบริเวณรอบๆ น้อย มีราคาอยู่ที่ 6 – 10 ล้านดงต่อหนึ่งตารางเมตร ลดลงร้อยละ 5 – 10 เมื่อเทียบกับช่วงต้นปี

ที่ดินบริเวณตำบล Tam Thon Hiep มีราคา 4 – 7 ล้านด่งตอหนึ่งตารางเมตร เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 – 10 เมื่อเทียบกับต้นปี 2560 ส่วนที่ดินบริเวณตำบล Can Thanh ก็เป็นอีกบริเวณหนึ่งที่มีนักลงทุนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยมีราคาตั้งแต่ 5.5 – 20 ล้านด่งต่อหนึ่งตารางเมตร โดยมีคนในพื้นที่กล่าวว่ามีราคาที่ดินเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2556 ที่ 3 ล้านด่งต่อหนึง่ตารางเมตรเลย และเมื่อเทียบกับช่วงปลายปี 2559 ที่ดินในปัจจุบันเมื่อผ่านมา 4 เดือนแรกของปีมีราคาเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 10 – 15

ส่วนพื้นที่ในเขตที่ติดทะเลบนถนน Duyen Hai มีราคาเพิ่มขึ้นเกือบ 1 ล้านด่งต่อหนึ่งตารางเมตร เมื่อเทียบกับปี 2559 โดยมีราคาตั้งแต่ 6 ล้านด่งขึ้นไป และเมื่อเทียบกับช่วงปี 2556 – 2558 ราคาที่ดินบริเวณชายทะเลมีราคาขึ้นเกือบเท่าตัว พื้นที่บริเวณดังกล่าวได้จำหน่ายเพื่อใช้ในการสร้างโรงแรมเสียส่วนใหญ่

นาย Huynh Phuoc Nghia ผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์กล่าวอธิบายสาเหตุของราคาที่ดินบริเวณดังกล่าวที่เพิ่มสูงขึ้นว่า มี 2 ประการคือ 1. การพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน เช่น การสร้างสะพาน Binh Khanh ที่ทำให้การคมนาคมของอำเภอ Can Gio กับเขตต่างๆ ในนครโฮจิมินห์เป็นไปได้โดยง่ายขึ้น โดยอำเภอ Can Gio อยู่ห่างจากใจกลางนครโฮจิมินห์เพียงแค่ 60 กิโลเมตรเท่านั้น 2. มีการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ของนักลงทุนรายใหญ่ในอำเภอ Can Gio มากขึ้นส่งผลให้ราคาที่ดินบริเวณที่ใกล้กับทะเลมีราคาสูงขึ้น นาย Nghia ยังกล่าวเสริมว่า นักลงทุนควรให้ความสนใจและจับตามองอัตราราคาที่ดินที่สูงขึ้นให้มากขึ้น จากการคาดการณ์แล้ว มีความเป็นไปได้ที่ราคาที่ดินในอำเภอจะมีราคาสูงขึ้นมาอีกร้อยละ 10 - 20

ที่มา สำนักข่าว VnExpress วันที่ 20 เมษายน 2560

URL: http://kinhdoanh.vnexpress.net/tin-tuc/bat-dong-san/dat-can-gio-tang-gia-khong-ngung-3573035.html

ภาพที่ 1 การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ที่สำคัญในอำเภอ Can Gio ซึ่งดึงดูดให้นักอสังหาริมทรัพย์เข้ามาลงทุนในอำเภอมากขึ้น

3. ท่าเรือ Thi Nai ท่าเรือที่สำคัญของจังหวัดบิ่งดิ่ง

หลังจากท่าเรือได้สร้างและเปิดการใช้งานมาได้กว่า 30 ปี บริษัทท่าเรือ Thi Nai ได้สร้างและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่จำเป็นในการพัฒนาจังหวัดบิ่งดิ่ง โดยท่าเรือดังกล่าวเป็นท่าเรือที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดและล่าสุด บริษัทเพิ่งได้รับประกาศเกียรติคุณคำชื่นชมจากทางคณะกรรมการจังหวัด

นาย Ho Lien Nam รองผู้อำนวยการบริษัทท่าเรือ Thi Nai กล่าวว่า ในปี 2559 แม้ว่าจังหวัดบิ่งดิ่งจะได้รับผลกระทบจากพายุ 5 ลูกที่พัดเข้ามาในจังหวัดและสร้างความเสียหายต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจ แต่ผลงานโดยรวมของท่าเรือยังอยู่ในระดับที่สูงกว่าที่เคยทำได้ในปี 2558 โดยมีการนำสินค้าเข้ามาผ่านท่าเรือมากกว่า 1 ล้านตันในปีที่ผ่านมา

ท่าเรือ Thi Nai เป็นหนึ่งในท่าเรือที่เชื่อมโยงด้านการคมนาคมและการขนส่งสินค้า มีความยาว 6 กิโลเมตร ความลึก 11 เมตร และสามารถรองรับเรือที่มีน้ำหนักได้ 30,000 ตัน ในปี 2557 ท่าเรือได้ลงทุนเพิ่มในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของท่าเรือกว่า 10 พันล้านด่ง โดยในปี 2559 ลงทุนเพิ่มอีก 7 พันล้านด่งในการซื้อรถยกและเครนมาใหม่ และในปี 2559 ท่าเรือได้ลงทุนซื้อรถยกและเครนใหม่เพิ่มเติมอีกมูลค่า 16.5 พันล้านด่ง

นาย Ho Quac Dung ประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดบิ่งดิ่งกล่าวว่า หลังจากบริษัทท่าเรือ Thi Nai ได้ขายหุ้นของรัฐบาลออกไปแล้ว ท่าเรือได้มีการพัฒนาไปอย่างมากและเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของจังหวัดบิ่งดิ่ง โดยได้รับคำชมจากผู้ใช้บริการอย่างมาก

ที่มา หนังสือพิมพ์ Thanh Nien วันที่ 19 เมษายน 2560 หน้าที่ 16

****************************************

ศูนย์ข้อมูลธุรกิจไทยในนครโฮจิมินห์