ข่าวเด่นวันที่ 25 - 27 เมษายน 2560

ข่าวเด่นวันที่ 25 - 27 เมษายน 2560

วันที่นำเข้าข้อมูล 27 เม.ย. 2560

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 5 พ.ย. 2562

| 938 view

ข่าวเด่นวันที่ 25-27 เมษายน 2560

  1. จังหวัดจ่าวิงต้องเร่งพัฒนาเกษตรกรรมให้มากขึ้น

นาย Nguyen Xuan Phuc นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้ร่วมหารือกับผู้บริหารจังหวัดจ่าวิงในวันที่ 23 เมษายน 2560 โดยนาย Tran Tri Dung เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ จังหวัดจ่าวิงได้ร้องขอให้นายกรัฐมนตรี ผู้บริหารกระทรวงต่างๆ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยดึงดูดนักลงทุนเข้ามาในจังหวัดให้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตเศรษฐกิจ Dinh An และช่วยผลักดันโครงการก่อสร้างสะพาน Dai Ngai และถนนหลวงหมายเลข 60    (จ่าวิง-ซอกจาง) ให้สามารถเริ่มก่อสร้างได้โดยเร็ว

นาย Phuc ได้กล่าวในการหารือว่า ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา แม้ว่าจังหวัดจ่าวิงจะประสบปัญหาต่างๆ มากมาย แต่ส่วนตัวแล้วขอชื่นชมในความสำเร็จและการพัฒนาจังหวัดอย่างก้าวกระโดดในหลายๆ สาขา และขอเน้นย้ำให้ผู้บริหารจังหวัดจ่าวิงให้ความสนใจในการพัฒนาการเกษตรของจังหวัดซึ่งเป็นรากฐานการพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปลูกผักผลไม้ การปศุสัตว์ และการประมง และในเวลาเดียวกัน จังหวัดจะต้องพัฒนาภาคการบริหารให้ดีขึ้น

ทั้งนี้ ในช่วงค่ำของวันที่ 23 เมษายน 2560 จังหวัดจ่าวิงได้จัดงานเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปี การสถาปณาจังหวัด (เดือนพฤษภาคม 2535 – เดือนพฤษภาคม 2560) โดยนาย Phuc ได้เป็นประธานในพิธีเปิดงานดังกล่าว และได้มอบรางวัลประกาศเกียรติคุณลำดับสูงสุด (ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 ที่ทางจังหวัดได้รับ) ให้แก่พรรคคอมมิวนิสต์ ผู้บริหาร และประชากรจังหวัดจ่าวิง

ในงานดังกล่าวยังมีนาย Truong Tan Sang อดีตประธานาธิบดีเวียดนาม นาย Nguyen Tan Dung อดีตนายกรัฐมนตรีประเทศเวียดนาม นายพล Le Hong Anh อดีตสมาชิกกรมการเมือง และมีผู้บริหารประเทศอีกมากเข้าร่วมงานดังกล่าวอีกด้วย

ที่มา Thanh Nien วันที่ 24 เมษายน 2560 หน้า 2

 

2.จังหวัดเกิ่นเทอส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล

ภาพที่ 1 เกษตรกรในจังหวัดลองอานยังต้องการเทคโนโลยีที่ทันสมัยอีกมาก

นาย Duong Hong Quan ผู้อำนวยการสำนักงานการพัฒนาการวางแผนและอุตสาหกรรม สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้ากล่าวว่า จังหวัดเกิ่นเทอได้จัดทำแผนแม่บทในการพัฒนาเครื่องจักรกลในภาคอุตสาหกรรมระหว่างช่วงปี 2563 - 2573 โดยใช้เงินสนับสนุนแผนการดังกล่าวมูลค่า 3.8 ล้านล้านด่ง (ประมาณ 167.2 ล้านเหรียญสหรัฐ)

โดยแผนแม่บทนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลของจังหวัดให้เทียบเท่ากับจังหวัดชั้นนำต่างๆ ภายในประเทศ และเพื่อตอบสนองความต้องการของภาคเศรษฐกิจที่สำคัญในบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง

นอกจากนั้น จังหวัดเกิ่นเทอตั้งเป้าจะดึงดูดบริษัทอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลอย่างน้อยอีก 100 บริษัท และให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการลงทุนในโครงการต่างๆ เช่น โครงการพัฒนาเทคโนโลยีความร้อนและเทคโนโลยีการรักษาพื้นผิวถนน โครงการผลิตเหล็กกล้าและเครื่องจักรสำหรับการเกษตรและการแปรรูปผลผลิต

นาย Quan กล่าวถึงแผนการงบประมาณการกระจายเงินลงทุนในแผนแม่บทว่า ในช่วงปี 2559 – 2562 โครงการดังกล่าวต้องใช้เงินลงทุนจำนวน 599 พันล้านด่ง  ในช่วงปี 2564-2568 เงินลงทุนมูลค่า 1.1 ล้านล้านด่ง  และในช่วงปี 2569-2573 เงินลงทุนมูลค่า 2.08 ล้านล้านด่ง ร้อยละ 70 ของเงินลงทุนทั้งหมดมาจากสินเชื่อเพื่อการพาณิชย์ ร้อยละ 10 มาจากเงินลงทุนต่างชาติ และร้อยละ 20 มาจากธุรกิจและแหล่งความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอื่นๆ

นาย Nguyen Anh Son ผู้อำนวยการสถาบันนโยบายและยุทธศาสตร์อุตสาหกรรม ซึ่งเป็นหน่วยงานให้คำปรึกษาสำหรับแผนแม่บทดังกล่าวระบุว่าอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลในจังหวัดเกิ่นเทอยังมีจำนวนน้อย โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ยังเป็นจุดด้อยของจังหวัดและไม่มีศักยภาพเท่าที่ควร

นาย Truong Quang Hoai Nam รองประธานคณะกรรมการประชาชนกล่าวว่า ภาคอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลเติบโตในระดับต่ำที่สุดในจังหวัดในทศวรรษที่ผ่านมา จังหวัดเกิ่นเทอได้พยายามแก้ไขปัญหาเพื่อให้จังหวัดสามารถเป็นหนึ่งในศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญในบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง

แผนแม่บทจะถูกปรับใช้เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมของจังหวัดพัฒนาอย่างยั่งยืน จังหวัดเกิ่นเทอจะจำกัดการนำเข้าเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่มีคุณภาพต่ำซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อประชาชน และจะให้ความสำคัญกับการศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาอุตสาหกรรมด้านสิ่งแวดล้อมและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสะอาด

 

ที่มา สำนักข่าว Vietnam Investment Review วันที่ 21 เมษายน 2560

URL: http://www.vir.com.vn/can-tho-city-to-boost-mechanic sector.html?utm_source=dlvr.it&utm_medium=facebook

 

  1. จังหวัดเถื่อเทียน-เว้เประกาศนโยบายส่งเสริมการลงทุนให้กับนักลงทุนต่างชาติฉบับใหม่

ในวันที่ 26 เมษายน 2560 คณะกรรมการประชาชนจังหวัดเถื่อเทียน-เว้ให้สัมภาษณ์ว่า ทางจังหวัดได้ออกมติหมายเลข 19/2017/QĐ-UBND มีเนื้อหาเกี่ยวกับการเพิ่มนโยบายส่งเสริมการลงทุนให้กับนักลงทุนต่างชาติในจังหวัดและเพิ่มนโยบายการช่วยเหลือนักลงทุนรายเดิม

จากมติดังกล่าว จังหวัดจะสนับสนุนการลงทุนในทุกโครงการภายในจังหวัด และให้ส่วนลดพิเศษทางด้านภาษีและสิทธิประโยชน์ทางการลงทุนที่เพิ่มขึ้นสำหรับโครงการที่จังหวัดต้องการส่งเสริม อาทิ โครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานและโครงการบำบัดน้ำเสียในเขตอุตสาหกรรมและเขตย่อยอุตสาหกรรมจะได้รับเงินช่วยเหลือในการดำเนินการสูงสุดร้อยละ 30 แต่ไม่เกิน 10 พันล้านด่ง

นอกจากนั้น ทางจังหวัดยังมีนโยบายลดหย่อนภาษี นโยบายช่วยเหลือโครงการเวนคืนพื้นที่ นโยบายเก็บกู้ซากระเบิดที่ยังค้างคา และนโนบายช่วยเหลือทางด้านแรงงานให้กับนักลงทุนที่เลือกลงทุนในโครงการในเขตอุตสาหกรรม เขตเศรษฐกิจ หรือเขตอุตสาหกรรมย่อยที่ใช้แรงงานมากกว่า 200 คนขึ้นไป (มีสัญญาการจ้างงาน 2 ปีขึ้นไปและมีประกันสังคมที่ถูกกฏหมาย) โดยจะช่วยสนับสนุนเงิน 1,000,000 ด่งต่อคน และแรงงานจะได้รับการช่วยเหลือให้เข้าโครงการฝึกอบรมทักษะ 1 ครั้ง นโยบายด้านแรงงานดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมโครงการที่กำลังก่อสร้างและการดำเนินกิจการในช่วง 3 ปีแรก

สำหรับโครงการการลงทุนในด้านคมนาคมและใช้แรงงานมากกว่า 50 คนขึ้นไป (มีสัญญาการจ้างงาน 2 ปีขึ้นไปและมีประกันสังคมที่ถูกกฏหมาย) ทางจังหวัดจะช่วยเหลือเงินค่าเช่าสถานที่ร้อยละ 50 ในช่วง 3 ปีแรกนับตั้งแต่เริ่มเช่าพื้นที่ทำงาน โดยเงินช่วยเหลือจะต้องไม่เกิน 200 ล้านด่งต่อปี แบ่งเป็น ในช่วงปีแรกไม่เกิน60,000 ด่งต่อ 1 ตารางเมตรต่อปี ช่วงปีที่สองไม่เกิน 40,000 ด่งต่อ 1 ตารางเมตรต่อปี และช่วงปีที่ 3 ไม่เกิน 20,000 ด่งต่อ 1 ตารางเมตรต่อปี

ทั้งนี้ จังหวัดจะเร่งส่งเสริมการลงทุน ปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการลงทุนมากขึ้น เร่งจ่ายเงินสนับสนุนให้นักลงทุนโดยเร็ว และดำเนินนโยบายช่วยเหลืออื่นๆ

คณะกรรมการประชาชนจังหวัดเถื่อเทียน-เว้ได้ประกาศว่ามติดังกล่าวจะมีผลบังคบใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2560 โดยจะใช้แทนที่มติหมายเลข 01/2013/QĐ-UBND วันที่ 5 มกราคม 2556 ของคณะกรรมการประชาชนจังหวัดเถื่อเทียน-เว้

ที่มา หนังสือพิมพ์ Bao Dau Tu วันที่ 27 เมษายน 2560

URL: http://baodautu.vn/thua-thien-hue-bo-sung-nhieu-chinh-sach-ho-tro-uu-dai-cac-nha-dau-tu-d62535.html

 

 

  1. บริษัท Vissan วางแผนซื้อสุกร 200 ตัวต่อวันจากจังหวัดลองอาน

ภาพที่ 2 ภาพโครงการโรงงานแปรรูปอาหารของบริษัทในจังหวัดลองอาน

ผู้บริหารของบริษัท Vissan บริษัทจัดจำหน่ายเนื้อสัตว์ในประเทศเวียดนามเข้าร่วมประชุมร่วมกับหน่วยงานด้านการเกษตรของจังหวัดลองอาน โดยบริษัท Vissan มีแผนซื้อสุกรเพิ่ม 200 ตัว/วันจากจังหวัดลองอาน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรเนื่องจากราคาสุกรตกต่ำอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา

นาย Nguyen Dang Phu รองผู้อำนวยการบริษัท Vissan กล่าวในที่ประชุมว่า ทางบริษัทจะซื้อสุกรเพิ่ม 200ตัวต่อวัน โดยสุกรทุกตัวจะต้องผ่านมาตรฐาน VietGAP หรือสุกรที่เลี้ยงภายใต้โครงการ Leafsap ซึ่งบริษัท Vissan ต้องการสุกร 1,500 ตัวต่อวัน

นาย Dinh Thi Phuong Khanh รองประธานสำนักงานการเกษตรและการพัฒนาชนบทจังหวัดลองอาน กล่าวว่า เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรกำลังประสบปัญหาราคาสุกรตกต่ำ ราคาเนื้อสุกรจากเดิมอยู่ที่ 31,000-33,000 ด่ง/กิโลกรัม (ประมาณ1.37-1.45 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อ 1 กิโลกรัม)  ในช่วงก่อนตรุษเวียดนามราคาลดลงเหลือแค่ 23,000 – 25,000 ด่งต่อกิโลกรัมเท่านั้น ในขณะที่ราคาต้นทุนอยู่ที่ประมาณ 37,000 ด่งต่อ 1 กิโลกรัม

จังหวัดลองอานมีการเลี้ยงสุกรประมาณ 299,000 ตัว มีสุกรที่ได้รับมาตรฐาน VietGAP จำนวน 21,500 ตัว ราคาเนื้อสุกรตกต่ำตั้งแต่ช่วงตรุษเวียดนามที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรในจังหวัดโดยมีมูลค่าความเสียหายรวมประมาณ 40-50 พันล้านด่ง

เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ทำการเลี้ยงสุกรในจังหวัดลองอาน บริษัท Vissan จะซื้อสุกรจากจังหวัดเพิ่มขึ้นจำนวน 200 ตัวต่อวัน โดยราคาซื้ออยู่ที่ 26,500-27,000 เวียดนามด่งต่อกิโลกรัม

ด้วยความต้องการการบริโภคที่เพิ่มขึ้นในปี 2560 บริษัท Vissan ต้องการสุกรเพิ่มขึ้นอีกจำนวน 2,000 ตัวต่อวัน ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 35 จากปีที่ผ่านมา ในขณะเดียวกันโรงงานแปรรูปของบริษัทในอำเภอ Ben Luc จังหวัดลองอานที่จะเปิดทำการในปลายปี 2561 จะทำให้บริษัทต้องจัดหารซื้อเนื้อสุกรเพิ่มขึ้นอีก

ทั้งนี้ ทางบริษัท Vissan กล่าวว่า เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรในจังหวัดลองอานจะต้องปรับปรุงการเลี้ยงสุกรให้ได้มาตรฐาน VietGAP นอกจากนี้ Saigon Co.op ได้ประกาศลดราคาเนื้อสุกรในซุเปอร์มาร์เก็ตลงร้อยละ 10-20 ถึงวันที่ 2 พฤษภาคม 2560 เพื่อกระตุ้นการบริโภค โดยถึงแม้ว่ามีการลดราคาเนื้อสุกรที่ขายในซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร แต่บริษัท Saigon Co.op ยังซื้อสุกรจากเกษตรกรในราคาเดิม

ที่มา หนังสือพิมพ์ Saigon Times Daily วันที่ 26 เมษายน 2560 หน้า 2

 

  1. จังหวัดบินห์เยืองเริ่มก่อสร้างโรงงานบำบัดน้ำเสียแห่งที่ 2

ภาพที่ 3 โครงการสร้างโรงงานบำบัดน้ำเสียในจังหวัดจะเริ่มในเร็วๆ นี้

จังหวัดบินห์เยืองเริ่มดำเนินการก่อสร้างโรงงานบำบัดน้ำเสียในอำเภอ Thuan An ซึ่งเป็นโรงงานบำบัดน้ำเสียแห่งที่สองของจังหวัด

นาย Tran Thanh Liem รองประธานคณะกรรมการประชาชนกล่าวว่า โรงงานบำบัดน้ำเสียที่กำลังดำเนินการก่อสร้างมีกำลังการบำบัดน้ำเสีย 17,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวันในเฟสแรก โดยคาดว่า กำลังการบำบัดน้ำเสียของโรงงานคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในการก่อสร้างโรงงานบำบัดน้ำเสียเฟส 2 โรงงานสามารถบำบัดน้ำเสียสำหรับการใช้งานให้กับ 40,000 ครัวเรือนซึ่งจะช่วยให้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนในชุมชนดีขึ้น รวมทั้งเป็นส่วนสำคัญของการดำเนินงานยุทธศาสตร์การรักษาสิ่งแวดล้อมของชาติ

บ้านเรือนใกล้คลอง Ba Bo จะได้รับประโยชน์อย่างมากจากโครงการก่อสร้างนี้ ซึ่งปัจจุบัน คลองดังกล่าวเป็นคลองที่มีปัญหามลพิษมากที่สุด เนื่องจากการปล่อยน้ำเสียจากครัวเรือนลงคลอง โดยโรงงานบำบัดน้ำเสียแห่งนี้จะช่วยลดระดับมลพิษภายในคลอง

โครงการโรงงานบำบัดน้ำเสียดังกล่าวมีชื่อว่าโครงการ Nam Binh Duong เงินลงทุนมูลค่ากว่า 2.5 ล้านล้านด่ง (ประมาณ 110 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยงบประมาณร้อยละ 85 ของเงินทุนมาจากเงินช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาจากญี่ปุ่นและส่วนที่เหลือมาจากงบประมาณของจังหวัด

ก่อนหน้านี้ จังหวัดเพิ่งเปิดตัวโรงงานบำบัดน้ำเสียแห่งแรกของจังหวัดในอำเภอ Thu Dau Mot ซึ่งมีกำลังการบำบัดน้ำเสีย 17,650 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดยโรงงานดังกล่าวใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 2 พันล้านล้านด่ง

ที่มา สำนักข่าว Vietnam Investment Review วันที่ 25 เมษายน 2560

URL: http://www.vir.com.vn/binh-duong-starts-operating-second-wastewater-treatment-plant.html?utm_source=dlvr.it&utm_medium=facebook

 

 ********************************************************

ศูนย์ข้อมูลธุรกิจไทยในนครโฮจิมินห์