วันที่นำเข้าข้อมูล 23 พ.ค. 2560
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 5 พ.ย. 2562
ข่าวเด่นวันที่ 19 - 22 พฤษภาคม 2560
1. เปิดสายการบินต้นทุนต่ำจากจีนบินตรงสู่นครโฮจิมินห์
ภาพที่ 1 สายการบิน Spring Airlines
นาย Zhang Wu An รองประธานสายการบิน Spring Airlines สายการบินต้นทุนต่ำสัญชาติจีน เปิดเผยว่า บริษัทจะเปิดเที่ยวบินจากนครเซี่ยงไฮ้ – นครโฮจิมินห์ สัปดาห์ละ 4 รอบในวันจันทร์ วันพุธ วันศุกร์ และวันเสาร์ โดยจะใช้เครื่องบิน Airbus A320 และเริ่มบินตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน 2560 ซึ่งในช่วงที่ผ่านมามีผู้ใช้บริการสายการบินเป็นจำนวนมาก โดยสายการบินได้ให้สิทธิพิเศษกับผู้โดยสารชาวเวียดนาม เช่น ฟรีค่าใช้บริการรถโดยสารต่อไปยังนครเซี่ยงไฮ้และบริเวณใกล้เคียงอีก 11 เมือง เช่น เมือง Suzhou เมือง Wuxi เมือง Hangzhou และเมือง Ningbo
โดยบริษัท Viet Travel ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงระหว่างบริษัท Spring Tour บริษัทแม่ของสายการบิน ในวันที่ 12 พฤษภาคม 2560 ระหว่างการเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการของ นาย Tran Dai Quang ประธานาธิบดีเวียดนาม เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างทั้ง 2 บริษัทในอนาคต
นาย Tran Doan The Duy รองผู้อำนวยการบริษัท Viet Travel กล่าวว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายได้รับประโยชน์ร่วมกัน โดยบริษัทจะจัดการท่องเที่ยวให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ใช้บริการ Spring Tour ในขณะที่บริษัท Spring Tour จะจัดโปรแกรมการท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวชาวเวียดนามที่ไปท่องเที่ยวในประเทศจีน
สายการบิน Spring Airlines มีเครื่องบินให้บริการกว่า 70 ลำ มีเที่ยวบินกว่า 180 เที่ยวบินทั้งภายในและต่างประเทศ และมีจำนวนผู้โดยสารประมาณ 15 ล้านคน ในปีที่แล้ว
ที่มา หนังสือพิมพ์ The Saigon Times Daily วันที่ 17 เมษายน 2560 หน้า 1
2. ค่าเช่าพื้นที่ขายปลีกในนครโฮจิมินห์
ภาพที่ 2 พื้นที่ค้าปลีกให้เช่าบริเวณเขต 1 นครโฮจิมินห์
บริษัท Savills Vietnam บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังในเวียดนามเปิดเผยว่า นับตั้งแต่ต้นปี 2560 ค่าเช่าพื้นที่ค้าปลีกในบริเวณตัวเมืองนครโฮจิมินห์เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว โดยระดับค่าเช่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่บริเวณรอบๆ ตัวเมืองกลับมีราคาลดลงร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว เนื่องจากมีผู้เช่าค่อนข้างเต็มจำนวนแล้ว ทำให้ผู้เช่ารายใหม่ไม่มีแรงจูงใจในการเข้าไปแข่งขันมากนัก
นอกจากนั้น งานวิจัยล่าสุดของบริษัท Colliers Internationals ชี้ให้เห็นว่า ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2560 ผู้เช่าให้ความสนใจทำเลที่ตั้งของพื้นที่ค้าปลีกในนครโฮจิมินห์เป็นอย่างมาก แม้ว่าจะมีราคาแพงก็ตาม โดยยกตัวอย่างห้างสรรพสินค้าหนึ่งในเขต 3 ที่มีพื้นที่กว่า 12,000 ตารางเมตร แต่ก็สามารถปล่อยเช่าพื้นที่ออกไปได้เกือบหมดอย่างรวดเร็ว ในจำนวนนั้น ผู้เช่าร้อยละ 35 ดำเนินธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม เช่น Starbuck, Kings BBQ, HotPot และ Lotteria โดยมีราคาค่าเช่าอยู่ที่ประมาณ 80 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 1 ตารางเมตร ต่อ 1 เดือน
โดยราคาค่าเช่าพื้นที่ขายสินค้าของโรงแรมชื่อดังของ โรงแรม Caravelle โรงแรม New World และโรงแรม Continental Saigon ที่อยู่ในใจกลางนครโฮจิมินห์มีราคาค่าเช่ามากกว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 1 ตารางเมตร ต่อ 1 เดือน สูงกว่าราคาค่าเช่าพื้นที่ทั่วไป 3 เท่า
จากการวิจัยดังกล่าว คาดการณ์ว่าจำนวนผู้บริโภคสินค้าระดับกลาง – สูง จะเพิ่มขึ้น 1.7 เท่าภายในปี 2563 และจากการการขยายตัวของนครโฮจิมินห์จะทำให้มีจำนวนร้านค้าต่างๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ผู้บริโภคต้องการสินค้าที่ทันสมัยและมีมาตรฐานสากลมากขึ้น
ผู้แทนของบริษัท Colliers Internationals ชี้ว่า ภายในปลายปี 2561 นครโฮจิมินห์จะมีพื้นที่สำหรับค้าปลีกเพิ่มขึ้น 600,000 ตารางเมตร จาก 19 โครงการห้างสรรพสินค้าและคอมมิวนิตี้มอลล์ โดยพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นจะสามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี และมีแนวโน้มว่าห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ จะย้ายออกไปอยู่นอกเมืองเนื่องจากในเมืองมีพื้นที่จำกัด
ที่มา สำนักข่าว VNExpress วันที่ 17 พฤษภาคม 2560
3. บริษัทที่ลงทุนบริเวณแม่น้ำ Ha Thanh จังหวัดบิ่งห์ดิ่งห์กำลังสร้างปัญหาสิ่งแวดล้อม
วันที่ 17 พฤษภาคม 2560 คณะกรรมการประชาชนจังหวัดบิ่นห์ดิ่นห์ได้ยื่นหนังสือส่งถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบบริษัทที่ตั้งโรงงานแถบบริเวณแม่น้ำ เนื่องจากบางบริษัทตั้งโรงงานขวางการไหลของกระแสน้ำ
นาย Nguyen Tien Dung รองประธานคณะกรรมการประชาชนเมือง Quy Nhon ได้กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมามีประชาชนมาร้องเรียนว่าบริษัท Phuc Loc เป็นตัวการขัดขวางการไหลของกระแสน้ำในแม่น้ำ Ha Thanh และทำให้เกิดน้ำท่วมขัง ซึ่งบริเวณสองฝั่งแม่น้ำ Ha Thanh มีประชากรอาศัยอยู่ค่อนข้างหนาแน่น และนอกจากนั้น การสร้างสะพานเชื่อมถนน Dien Bien Phu ที่ตำบล Nhon Phu ข้ามแม่น้ำ Ha Thanh ก็ได้สร้างปัญหามลพิษต่อสิ่งแวดล้อมในแม่น้ำเช่นกัน
นาง Nguyen Dinh Dam รองประธานคณะกรรมการประชาชนตำบล Nhon Phu กล่าวว่า การสร้างสะพานดังกล่าวเริ่มสร้างตั้งแต่ต้นปี 2560 แต่บริษัทผู้รับเหมาไม่ได้ประกาศระยะเวลาการสร้างที่ชัดเจน โดยทางคณะกรรมการประชาชนตำบล Nhon Phu ได้เข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างที่ก่อให้เกิดผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมดังกล่าวแล้ว และได้ยื่นหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
นอกจากการสร้างสะพานดังกล่าว การสร้างสะพานเชื่อมถนน Hoa Lu โดยบริษัท Dinh Phat และบริษัท Dong Da ซึ่งห่างจากถนน Dien Bien Phu ไป 1 กิโลเมตรยังขวางกั้นการไหลของกระแสน้ำในแม่น้ำ Ha Thanh สะพานดังกล่าวเริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2560 ซึ่งก่อนหน้านั้น แม่น้ำ Ha Thanh บริเวณ Hoa Lu เดิมมีความกว้าง 100 เมตร แต่หลังจากเริ่มการก่อสร้างกลับมีความกว้างเพียง 18 เมตร ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรในพื้นที่เป็นอย่างมาก
ที่มา หนังสือพิมพ์ Thanh Nien วันที่ 18 พฤษภาคม 2560 หน้า 9
4. โรงกลั่นน้ำมัน Dung Quat จังหวัดกว๋างนามหยุดการดำเนินงานเพื่อฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพเป็นเวลา 2 เดือน
ภาพที่ 3 โรงกลั่นน้ำมัน Dung Quat ยามค่ำคืน
โรงกลั่นน้ำมัน Dung Quat จะหยุดดำเนินการเพื่อฟื้นฟูฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน – 26 กรกฏาคม 2560 ใช้ระยะเวลา 52 วัน มีรายการที่จะต้องได้รับการฟื้นฟูกว่า 6,000 รายการ ใช้แรงงานกว่า 4,000 คน โดยจะหยุดการดำเนินการเพียง 7 วัน โดยบริษัทที่ชนะการประมูลฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพในครั้งนี้มีด้วยกัน 3 บริษัทจากประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ซึ่งล้วนแต่เป็นบริษัทที่มีประสบการณ์ในสายงานนี้
เป็นที่คาดการณ์ว่า หลังจากโรงกลั่นน้ำมัน Dung Quat ได้รับการฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพเสร็จเรียบร้อยจะสามารถเปิดใช้งานอีกครั้งด้วยกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 110 และจะไม่ต้องหยุดเพื่อฟื้นฟูและพัฒนาไปอีก 3 – 4 ปี นอกจากนั้น จะมีคุณภาพและความปลอดภัยตามมาตรฐานสากลเพิ่มขึ้น
นาย Tran Ngoc Nguyen ผู้บริหารบริษัทน้ำมัน Binh Son ที่ลงทุนในโครงการโรงกลั่นน้ำมัน Dung Quat ได้ประกาศว่า นับตั้งแต่เริ่มดำเนินโครงการ โครงการโรงกลั่นน้ำมัน Dung Quat สามารถตอบสนองความต้องการพลังงานภายในชาติได้เป็นอย่างดีและมีการใช้เทคโนโลยีทันสมัยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ การหยุดดำเนินงานเพื่อฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพในครั้งนี้จะทำให้ความสามารถในการผลิตน้ำมันของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก นอกจากนั้น จะช่วยประหยัดงบประมาณของบริษัทและภาครัฐได้มากขึ้น โดยหากใช้ระยะเวลาในการเพื่อฟื้นฟูน้อยลง 1 วัน บริษัทจะมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 250 พันล้านด่ง (ประมาณ 11.12 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ต่อวันและสามารถจ่ายเงินเข้าสู่งบประมาณภาครัฐ 30 พันล้านด่งต่อวัน (ประมาณ 134,000 ดอลลาร์สหรัฐ) ในกรณีที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกอยู่ที่ 50 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อ 1 บาร์เรล โดยบริษัทจะพยายามให้การหยุดการดำเนินการในครั้งนี้อยู่ที่ประมาณ 5 – 7 วัน
โรงกลั่นน้ำมัน Dung Quat เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2552 และได้รับการฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพมาแล้ว 2 ครั้งในปี 2554 และปี 2557
ที่มา หนังสือพิมพ์ Thanh Nien วันที่ 19 พฤษภาคม 2560 หน้า 7
5. ปัญหาขายสุกรไม่ได้กว่า 2 แสนตันสร้างความวิตกกังวลให้กับหลายฝ่าย
จากการประชุมการส่งเสริมการบริโภคปศุสัตว์ในวันที่ 17 พฤษภาคม 2560 ที่จัดโดยกรมปศุสัตว์ระบุว่า เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรจำนวนมากในบริเวณจังหวัดสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงกำลังวิตกกังวลกับปัญหาสุกร ที่มีน้ำหนักประมาณ 100 – 150 กิโลกรัมไม่สามารถขายได้กว่า 2 แสนตัน โดยมีราคาขายในช่วงเดือนมีนาคม – เมษายน 2560 อยู่ที่ 20,000 – 25,000 ด่งต่อ 1 กิโลกรัมเท่านั้น ทั้งนี้ ในช่วงเดือนนี้ ราคาขายเนื้อสุกรลดต่ำลงเหลือเพียง 18,000 – 20,000 ด่งต่อกิโลกรัมทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรขาดทุนประมาณ 1 – 1.5 ล้านด่ง (ประมาณ 44.34 – 66.51 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อการขายสุกร 1 ตัว
นาง Hoang Thi Bich Hang ประธานสหกรณ์เกษตรกรจังหวัดด่งนายกล่าวว่า ผู้เลี้ยงสุกรในจังหวัดสามารถขายสุกรได้จำนวน 7,000 – 8,000 ตัวในแต่ละวันให้กับโรงงานแปรรูปของบริษัท Vissan และห้างสรรพสินค้าต่างๆ ในนครโฮจิมินห์ โดยมีราคาอยู่ที่ 22,000 – 30,000 ต่อกิโลกรัม อย่างไรก็ตาม ยังมีสุกรตกค้างอยู่ในจังหวัดกว่า 300,000 ตัว
ราคาเนื้อสุกรในซุปเปอร์มาร์เก็ตอยู่ที่ประมาณ 45,000 – 70,000 ต่อกิโลกรัมแล้วแต่ชนิดของเนื้อสุกร โดยซุปเปอร์มาร์เก็ตในนครโฮจิมินห์หลายแห่งได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายให้ผู้บริโภคบริโภคเนื้อสุกรเพิ่มขึ้นและยังมีกิจกรรมส่งเสริมการขายด้วยการลดราคาพิเศษเพื่อช่วยเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร
นาย Doan Diep Binh ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของห้างสรรพสินค้า Lotte Mart กล่าวว่า ซุปเปอร์มาร์เก็ตของ Lotter Mart จะจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเนื้อสุกรโดยไม่หวังผลกำไรในวันที่ 30 พฤษภาคม 2560 โดยจะลดราคาเนื้อสุกรทุกชนิดลงร้อยละ 30
นาย Vo Hoang Anh ผู้อำนวยการตลาดบริษัท Saigon Co.op กล่าวว่า ผู้บริโภคจะได้รับส่วนลดร้อยละ 10 – 20 เมื่อซื้อเนื้อสุกรในร้านซุปเปอร์มาเก็ต Co.op จนถึงวันที่ 25 พฤษภาคม 2560 โดยในเดือนที่ผ่านมา การบริโภคเนื้อสุกรเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 – 20 เนื่องมาจากกิจกรรมส่งเสริมการขาย โดยบริษัทสามารถขายเนื้อสุกรได้กว่า 1,000 ตันต่อเดือน
ที่มา The Saigon Times Daily วันที่ 19 พฤษภาคม 2560 หน้า 1
6. นครโฮจิมินห์มีนโยบายสนับสนุนนักลงทุนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น
นักลงทุนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะได้รับสิทธิประโยชน์สนับสนุนการลงทุนที่เพิ่มขึ้น เช่น การลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล นโยบายให้คำปรึกษาและการช่วยเหลือเพิ่มเติม และนโยบายสนับสนุนเกี่ยวกับการให้สินเชื่อ
นาย Chu Ba Long รองผู้อำนวยการแผนกการตลาดเทคโนโลยี สังกัดสำนักงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นครโฮจิมินห์ ได้กล่าวไว้ในงานสัมมนาการลงทะเบียนธุรกิจวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นครโฮจิมินห์ เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2560 ว่า บริษัทที่ลงทุนธุรกิจด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่บรรลุข้อกำหนดของทางนครโฮจิมินห์จะได้รับการลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลร้อยละ 10 ในช่วงระยะเวลา 15 ปี นับตั้งแต่ปีแรก หรือได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลร้อยละ 100 และได้รับการลดหย่อนเพิ่มเติมอีกร้อยละ 50 ในช่วง 9 ปีต่อไป
นอกจากนั้น นักลงทุนจะได้รับการยกเว้นค่าจดทะเบียนสำหรับค่าเช่าที่ดิน นโยบายพิเศษทางด้านสินเชื่อและด้านการเงินจากงบประมาณสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ตลอดจนได้ส่วนลดค่าเช่าที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม เขตเศรษฐกิจ เขตเทคโนโลยีขั้นสูง ค่าสิ่งอำนวยความสะดวกและโครงสร้างพื้นฐาน และค่าธรรมเนียม
ที่มา สำนักข่าว Thoi Bai Kinh Te Saigon Online วันที่ 17 พฤษภาคม 2560
URL: http://www.thesaigontimes.vn/160199/Nhieu-uu-dai-cho-doanh-nghiep-khoa-hoc-va-cong-nghe.html
7. นครโฮจิมินห์อาจจะขาดแคลนไฟฟ้าในช่วงหน้าแล้ง
ภาพที่ 4 ปัญหาไฟฟ้าขาดแคลลนในช่สงหน้าแล้งกำลังเป็นที่วิตกกังวล
คณะกรรมการทำงานร่วมเพื่อการรักษาพลังงานและการลดการใช้พลังงานไฟฟ้านครโฮจิมินห์คาดการณ์ว่าในปี 2560 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหน้าแล้งและหน้าร้อนจะมีการใช้ปริมาณไฟฟ้าสูงและอาจจะเกิดปัญหาการขาดแคลนพลังงานไฟฟ้าได้ในบางพื้นที่
จากข้อมูลของบริษัทพลังงานแห่งชาติเวียดนาม (Vietnam Electricity; EVN) สาขานครโฮจิมินห์ได้แสดงให้เห็นว่า ในปัจจุบัน การใช้ไฟฟ้าในนครโฮจิมินห์ในแต่ละวันอยู่ที่ 76.5 ล้าน kWh มากกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วอยู่ที่ร้อยละ 5 และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นในอนาคต
ดังนั้น คณะกรรมการทำงานร่วมจึงได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายช่วยกันประหยัดพลังงานและลดการใช้ไฟฟ้าเพื่อที่จะทำให้มีไฟฟ้าใช้อย่างเพียงพอภายในนครโฮจิมินห์ในช่วงหน้าแล้งที่จะถึงนี้
ตามรายงานของคณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์ระบุว่า ในปัจจุบัน สำนักงานอุตสาหกรรมและการค้ากำลังร่วมมือกับบริษัท EVN สาขานครโฮจิมินห์ในการตรวจสอบการใช้ไฟฟ้าของบริษัทต่างๆ และมีจดหมายไปถึงบริษัทที่ใช้ไฟฟ้าเกินขนาดโดยแนะนำให้มีระบบสำรองไฟฟ้า นอกจากนั้น สำนักงานอุตสาหกรรมและการค้าจะดำเนินการวางแผนการลดการใช้พลังงานไฟฟ้าสำหรับหน่วยงานภาครัฐ เพื่อที่จะลดการใช้พลังงานไฟฟ้าให้ได้ร้อยละ 10 และจะเร่งการสร้างแหล่งเก็บพลังงานสำรองสำหรับนครโฮจิมินห์เพื่อที่จะรับประกันการมีไฟฟ้าใช้ในช่วงที่ขาดแคลนไฟฟ้า
ทั้งนี้ บริษัท EVN กล่าวว่า บริษัทจะใช้พลังงานถ่านหิน แก๊ส น้ำมันดีเซล และพลังงานน้ำในการผลิตพลังงานไฟฟ้าให้เพียงพอต่อความต้องการของนครโฮจิมินห์ และคาดว่าจะมีการใช้พลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 ในช่วงหน้าแล้ง เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน 2560 อาจจะใช้พลังงานไฟฟ้ามากถึง 31,800 MW มากกว่าช่วงไตรมาสแรกที่ใช้สูงสุดแค่ 27,066 MW
ที่มา สำนักข่าว Thoi Bai Kinh Te Saigon Online วันที่ 18 พฤษภาคม 2560
URL: http://www.thesaigontimes.vn/160246/TPHCM-nhieu-kha-nang-thieu-dien-mua-kho.html
8. ราคาค่าเช่าพื้นที่สำนักงานในนครโฮจิมินห์ปรับตัวขึ้นสูง
ภาพที่ 5 พื้นที่สำนักงานให้เช่าในนครโฮจิมินห์
ราคาค่าเช่าพื้นที่สำนักงานเกรด A และ B ในนครโฮจิมินห์มีราคาสูงขึ้นถึงร้อยละ 3.6 – 11.5 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องมาจากว่ามีความต้องการเช่าพื้นที่สูง ในขณะที่มีจำนวนพื้นที่ให้เช่าค่อนข้างจำกัด
บริษัท CBRE Vietnam รายงานว่า ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2560 ราคาค่าเช่าพื้นที่สำนักงานเกรด B ใน นครโฮจิมินห์อยู่ที่ประมาณ 22 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 1 ตารางเมตร เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.8 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4 ของปี 2559 และเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 11.5 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่สำนักงานให้เช่า เกรด A มีราคาประมาณ 37 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 1 ตารางเมตร เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4 ของปี 2559 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.6 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
อาคารสำนักงานส่วนมากในนครโฮจิมินห์มีอัตราการเช่าพื้นที่สำนักงานเกรด A และ B สูงมากและมีหลายแห่งที่พื้นที่สำนักงานถูกเช่าเต็มเรียบร้อยแล้ว โดยในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2560 ธุรกิจที่นิยมเช่าพื้นที่เพิ่มขึ้นคือธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและโลจิสติกส์โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 และธุรกิจการเงินคิดเป็นร้อยละ 7 ของประเภทการเช่าที่ทั้งหมด
ขนาดพื้นที่ที่ผู้เช่านิยมมากที่สุดคือ 100 – 300 ตารางเมตร คิดเป็นร้อยละ 45 และขนาดพื้นที่ที่มีความต้องการในการเช่ามากขึ้นคือพื้นที่ที่มีขนาดมากกว่า 1,000 ตารางเมตร คิดเป็นร้อยละ 19 ซึ่งเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วยังคงมีความต้องการอยู่เพียงแค่ร้อยละ 7 เท่านั้น
ปัญหาพื้นที่ให้เช่าไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้เช่ากำลังเป็นประเด็นที่น่ากังวลของหลายๆ ฝ่าย ซึ่งทำให้ราคาค่าเช่าพื้นที่สำนักงานปรับตัวขึ้นสูง ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา ไม่มีพื้นที่สำนักงานเกรด A ให้เช่าเพิ่มขึ้นเลย ในขณะที่พื้นที่สำนักงานเกรด B ให้เช่าเพิ่มมาเพียงอาคารสำนักงาน 1 แห่งเท่านั้นและมีพื้นที่ให้เช่าเพียง 5,500 ตารางเมตร
บริษัทอสังหาริมทรัพย์ Jones Lang LaSalle (JLL) ได้วิเคราะห์ว่า การให้เช่าพื้นที่สำนักงานในนครโฮจิมินห์กำลังได้รับความนิยมจากนักลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสที่ 1 และไตรมาสที่ 2 ของปี 2560 ปริมาณจำนวนพื้นที่ให้เช่าในนครโฮจิมินห์จะไม่เปลี่ยนแปลงมากนักและราคาจะยังคงสูงขึ้นเรื่อยๆ
ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2560 นครโฮจิมินห์มีพื้นที่ให้เช่าสำนักงานทั้งหมด 1.8 ล้านตารางเมตร โดยจะต้องรอจนถึงไตรมาสที่ 3 ของปี 2560 ถึงจะมีอาคารสำนักงานเกรด A แห่งใหม่ที่ถนน Le Loi และถนน Le Duan ที่เขต 1 อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าในปี 2562 จะมีพื้นที่ให้เช่าเพิ่มขึ้นตามบริเวณนครโฮจิมินห์และบริเวณชานเมือง
ที่มา VNExpress วันที่ 21 เมษายน 2560
9. สุกรจากจังหวัดด่งนายเริ่มส่งออกไปยังประเทศกัมพูชามากขึ้น
สัปดาห์ที่ผ่านมามีจำนวนสุกรจากจังหวัดด่งนายส่งออกไปยังตลาดที่ต่างๆ ถึง 8,000 – 9,000 ตัว ซึ่งในจำนวนนั้น สุกรจำนวนมากถูกส่งไปยังประเทศกัมพูชา
นาย Phan Minh Bau รองผู้อำนวยการสำนักงานการพัฒนาการเกษตรและพื้นที่ชนบทในจังหวัดด่งนายกล่าวในที่ประชุมการหาคือการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรว่า ในตอนนี้ สถานการณ์การส่งออกสุกรของจังหวัดค่อนข้างสดใสขึ้นมา ก่อนหน้านี้จังหวัดสามารถส่งออกสุกรไปได้แค่ประมาณ 4,200 ตัวต่อสัปดาห์ แต่ปัจจุบัน สามารถส่งออกได้ถึง 8,000 – 9,000 ตัวต่อสัปดาห์ เพิ่มขึ้นถึงหนึ่งเท่าตัว โดยส่งออกไปยังนครโฮจิมินห์และจังหวัดใกล้เคียงเป็นจำนวนมาก รวมถึงตลาดใหม่คือตลาดประเทศกัมพูชา
นับตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน 2560 กลุ่มเกษตรกร สมาคมการเกษตร และนักธุรกิจจังหวัดด่งนายได้เปิดจุดขายเนื้อสุกรราคาถูกและได้มาตรฐานอีก 12 แห่ง ใกล้ๆ สถานที่ที่คนอยู่อาศัยหนาแน่นและบริเวณเขตอุตสาหกรรม โดยราคาขายปลีกอยู่ที่ประมาณ 60,000 ด่ง ต่อ 1 กิโลกรัม เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรในจังหวัด
ที่มา VNExpress วันที่ 21 เมษายน 2560 URL: http://kinhdoanh.vnexpress.net/tin-tuc/hang-hoa/heo-dong-nai-xuat-sang-campuchia-tang-manh-3587962.html
10. การขุดทรายในแม่น้ำกำลังสร้างปัญหาให้กับบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงของเวียดนามอย่างรุนแรง
ภาพที่ 10 ปัญหาดินถล่มสร้างความเสียหายให้กับชาวบ้านบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง
จากเหตุการณ์ดินถล่มในบริเวณปากแม่น้ำโขงเมื่อเร็วๆ นี้ นักวิชาการหลายคนเตือนว่าหากยังมีการขุดทรายในบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงอยู่ต่อไป วิกฤตการณ์ทางธรรมชาติบริเวณดังกล่าวอาจจะทวีความรุนแรงขึ้นได้
คณะทำงานร่วมในการจัดการกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การป้องกันภัยพิบัติ และการช่วยเหลือกู้ภัยในจังหวัดด่งท้าปชี้ให้เห็นว่า นับตั้งแต่ต้นปี 2560 มีเหตุการณ์ดินถล่ม 13 ครั้งในบริเวณจังหวัด ทำให้ที่ดินเสียหายไปประมาณ 5,924 ตารางเมตร นอกจากนั้น ในจังหวัดอันยางก็ได้เกิดเหตุการณ์ดินถล่มหลายครั้งเช่นกัน โดยเหตุการณ์ที่รุนแรงที่สุดคือเหตุการณ์ดินถล่มที่บริเวณแม่น้ำ Vam Nao ในอำเภอ Cho Moi เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งทำให้บ้านเรือนหลายหลังได้รับความเสียหาย
ในขณะเดียวกัน ผลการสำรวจล่าสุดของกระทรวงการเกษตรและการพัฒนาชนบทยังชี้ให้เห็นว่า ได้เกิดเหตุการณ์ดินถล่มในบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงทั้งหมด 406 ครั้ง ความยาวรวมกันถึง 891 กิโลเมตร นอกจากนั้นยังมีบริเวณริมฝั่งแม่น้ำอีก 393 แห่งที่โดนกัดเซาะ โดยมีความยาวรวมกันกว่า 583 กิโลเมตร และมีการกัดเซาะพื้นที่บริเวณชายฝั่งอีก 13 ครั้ง ความยาวรวมกันกว่า 300 กิโลเมตร
นาย Le Anh Tuan อาจารย์จากมหาวิทยาลัย Can Tho ให้สัมภาษณ์ว่า เหตุการณ์ดินถล่มเป็นเรื่องที่สามารถพบได้ทั่วไปในบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหน้าแล้งในจังหวัดอานยาง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ปัญหาดังกล่าวทวีความรุนแรงขึ้นคือการขุดทรายในแม่น้ำ โดยการแก้ไขปัญหานี้จะสามารถทำได้โดยการหยุดการขุดทรายในแม่น้ำและควรปลูกต้นไม้ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงให้มากขึ้น
นาย Nguyen Huu Thien นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า การก่อสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังงานน้ำหลายแห่งบริเวณต้นน้ำของแม่น้ำโขงทำให้โคลนในบริเวณดังกล่าวลดลงอย่างมากและมีความเป็นไปได้ที่พื้นที่บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงจะหายไปภายในอีก 100 ปีข้างหน้า
จากรายงานของมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์เกี่ยวกับการสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังงานน้ำ Manwan ของประเทศจีนชี้ให้เห็นว่าการไหลของโคลนในบริเวณแม่น้ำโขงตอนบนเหลือเพียง 75 ล้านตันต่อปีลดลงอย่างมากจากก่อนการสร้างเขื่อนที่มีการไหลของโคลนถึง 160 ล้านตันต่อปี
จากรายงานของสถาบันวิจัยทรัพยากรณ์น้ำภาคใต้แสดงให้เห็นว่า ในปี 2557 บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงมีโคลนทั้งหมดประมาณ 3 ล้านคิวบิกเมตรและมีทรายอยู่ที่ 28 คิวบิกเมตร
ที่มา The Saigon Times Daily วันที่ 22 พฤษภาคม 2560 หน้า 3
********************************************************
ศูนย์ข้อมูลธุรกิจไทยในนครโฮจิมินห์
อีเมลสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์
ติดต่อทั่วไป
แผนกเศรษฐกิจ
แผนกกงสุล (หนังสือเดินทาง, นิติกรณ์และทะเบียนราษฎร์, บัตรประชาชน, การตรวจลงตราและรับรองเอกสาร)