ข่าวเด่นวันที่ 22 – 23 มิถุนายน 2560

1. กลุ่มบริษัทไทยเจริญคอร์ปอเรชั่น (TCC) เปิดตัวอาคารเรียนที่กลุ่มบริษัทให้การสนับสนุนมูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านด่ง

ในวันที่ 19 มิถุนายน 2560 นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท Berli Jucker Public Company Limited (BJC) นายมานพชัย วงศ์ภักดี เอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย นางอุรีรัชต์ รัตนพฤกษ์ กงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ พร้อมกับตัวแทนผู้บริหารส่วนท้องถิ่นอำเภอ Que Son ได้เข้าร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดอาคารห้องเรียนซึ่งกลุ่มบริษัทไทยเจริญคอร์ปอเรชั่น (TCC) บริษัท BJC ร่วมกับมูลนิธิสิริวัฒนภักดี ให้การสนับสนุนงบประมาณในการสร้างกว่า 1 หมื่นล้านด่ง ให้กับโรงเรียนมัธยม Que Phu ที่ตั้งอยู่ที่หมู่บ้าน Que Phu อำเภอ Que Son จังหวัดกว๋างนาม

ในงานดังกล่าว บริษัท MM Mega Market Viet Nam บริษัท TBC- Ball Beverage Can Viet Nam บริษัท Thai Corp International และกลุ่มบริษัท Phu Thai ซึ่งเป็นเครือข่ายบริษัทลูกของกลุ่มบริษัท TCC ได้มอบของขวัญให้กับนักเรียน 120 คน ที่มีผลการเรียนเดีเด่นในภาคการศึกษาที่ผ่านมา และร่วมกันสนับสนุนเงิน 80 ล้านด่งเพื่อเป็นทุนสนับสนุนการเรียนการสอนให้กับนักเรียนของโรงเรียน Que Phu

นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล กล่าวว่า การทำประโยชน์และคืนกำไรให้สังคมคือหนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดในการดำเนินธุรกิจในเวียดนามของบริษัท โดยบริษัท TCC มีเป้าหมายที่จะพัฒนาสังคมและยกระดับคุณภาพชีวิตในชนบทของชาวเวียดนามให้ดีขึ้น รวมถึงการลงทุนด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยเฉพาะการให้การศึกษาแก่กลุ่มคนรุ่นใหม่

กลุ่มบริษัท TCC เป็นหนึ่งในบริษัทสัญชาติไทยที่ลงทุนในประเทศเวียดนามมากที่สุด บริษัทสร้างงานให้กับแรงงานชาวเวียดนามกว่า 8,000 คน โดยบริษัทตั้งเป้าจะขยายการลงทุนในเวียดนามเพิ่มขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้

ที่มา สำนักข่าว Bao Dau Tu วันที่ 23 มิถุนายน 2560

URL: http://baodautu.vn/tap-doan-tcc-thai-lan-tai-tro-10-ty-dong-xay-truong-tai-quang-nam-d65540.html

2. การส่งเงินกลับจากต่างประเทศสู่นครโฮจิมินห์มีมูลค่า 2.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 6 เดือนแรกของปี

ธนาคารแห่งชาติเวียดนาม สาขานครโฮจิมินห์เปิดเผยว่าในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ การส่งเงินจากต่างประเทศสู่ นครโฮจิมินห์มีมูลค่า 2.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว

นาย Nguyen Hoang Minh รองผู้จัดการธนาคารแห่งชาติเวียดนาม สาขานครโฮจิมินห์ เปิดเผยว่า เมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา การส่งเงินจากต่างประเทศสู่นครโฮจิมินห์มีมูลค่าลดลงเล็กน้อย อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผ่านมา การส่งเงินกลับจากต่างประเทศสู่นครโฮจิมินห์มีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างมาก

นาย Minh กล่าวเสริมว่า การเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาจะส่งผลต่อการส่งเงินจากต่างประเทศสู่นครโฮจิมินห์เพียงเล็กน้อย เนื่องจากมีการคาดการณ์กันไว้แล้ว ซึ่งทางหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจโดยเฉพาะของเวียดนามได้จับตาดูท่าทีการเปลี่ยนแปลงของอัตราการแลกเปลี่ยนค่าเงินตราต่างประเทศอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว

หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาประกาศเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ ธนาคารแห่งชาติเวียดนามได้ควบคุมไม่ให้ธนาคารต่างๆ เพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินด่งขึ้น และให้ธนาคารเหล่านั้นติดต่อโดยตรงกับผู้ที่ประสงค์จะแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในจำนวนมาก

ที่มา สำนักข่าว Vietnam Investment Review วันที่ 23 มิถุนายน 2560

URL: http://www.vir.com.vn/hcm-city-remittances-worth-21-billion-in-h1.html?utm_source=dlvr.it&utm_medium=facebook

3. ราคาที่ดินในจังหวัดด่งนายและลองอานมีราคาเพิ่มขึ้นเท่าตัว

ราคาที่ดินในจังหวัดด่งนายและจังหวัดลองอานที่ติดกันนครโฮจิมินห์มีราคาเพิ่มขึ้น 1.5 – 2 เท่า ในช่วงระยะเวลา 8 – 12 เดือนที่ผ่านมา

ในปัจจุบัน โครงการหมู่บ้านจัดสรร Long Hung ในจังหวัดด่งนาย ซึ่งตั้งอยู่ใกล้โครงการรถไฟฟ้าใต้ดินหมายเลข 2 เชื่อมต่อนครโฮจิมินห์กับจังหวัดด่งนายและจังหวัดบิ่นห์เยือง มีราคาสูงถึง 12 ล้านด่ง ต่อตารางเมตร โดยในตอนเริ่มสร้างโครงการมีราคาเพียง 6 – 7 ล้านด่ง ต่อตารางเมตรเท่านั้น นอกจากนั้น ราคาโครงการหมู่บ้านจัดสรรในจังหวัดลองอานที่มีพื้นที่ใกล้ๆ เขต Cu Chi เขต Hoc Mon ก็มีราคาเพิ่มขึ้นมากเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น โครงการ Cat Truong Phu Sinh ที่เปิดขายในเดือนสิงหาคม 2559 ที่ 3 -4.2 ล้านด่งต่อ 1 ตารางเมตร แต่ในปัจจุบัน ราคากลับสูงขึ้นถึง 6 – 12 ล้านด่งต่อ 1 ตารางเมตร เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า

อย่างไรก็ตาม มีบางโครงการหมู่บ้านจัดสรรมีราคาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เช่น โครงการ Saigon Village ในจังหวัดลองอาน ติดกับเขต Nha Be นครโฮจิมินห์ ที่มีราคาขายดั้งเดิม 6 ล้านด่งต่อตารางเมตร แต่ในปัจจุบัน มีราคาเพิ่มขึ้นเป็น 7 – 7.5 ล้านด่งต่อตารางเมตร หรือเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 15 – 20 ใน 1 ปี เท่านั้น

นาย Huynh Phuoc Nghia ผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทให้คำปรึกษา Global Integration Business Consultants กล่าวว่า ราคาอสังหาริมทรัพย์บริเวณรอบๆ นครโฮจิมินห์มีราคาเพิ่มขึ้นเหนือการคาดการณ์ ซึ่งเป็นผลมาจากราคาที่ดินที่สูงขึ้นในนครโฮจิมินห์ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา นอกจากนั้น โครงการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกและโครงสร้างพื้นฐานบริเวณรอบๆ นครโฮจิมินห์และในจังหวัดด่งนายและจังหวัดลองอานก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ราคาที่ดินสูงขึ้นอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม นาย Nghia กล่าวเสริมว่า เป็นเรื่องปกติที่ราคาที่ดินจะสูงขึ้นร้อยละ 15 – 20 ต่อปี อย่างไรก็ตาม ราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้น 2 – 3 เท่า ในปีเดียวเป็นเรื่องที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก ผู้ลงทุนควรระมัดระวังและศึกษาให้ดีก่อนการลงทุน

ที่มา สำนักข่าว VnExpress วันที่ 21 มิถุนายน 2560

URL: http://kinhdoanh.vnexpress.net/tin-tuc/bat-dong-san/dat-nen-dong-nai-long-an-bat-ngo-tang-gia-gap-doi-3602389.html

4. โครงการสนามบินนานาชาติ Long Thanh จะต้องใช้เงินจำนวนมากในการเวนคืนพื้นที่

เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2560 สภาแห่งชาติเวียดนาม ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับค่าชดเชยการเวนคืนพื้นที่จัดสรรและที่อยู่อาศัยของชาวบ้านสำหรับการก่อสร้างโครงการสนามบินนานาชาติ Long Thanh จังหวัดด่งนาย

การจัดสรรที่อยู่ใหม่ และการเวนคืนพื้นที่สำหรับโครงการนั้น ตลอดจนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับบริเวณพื้นที่จัดสรรใหม่ 2 แห่งและสร้างหลุมฝังศพอีก 1 แห่ง โดยจะใช้งบประมาณกว่า 23 พันล้านด่ง (ราว 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) อย่างไรก็ตามเงินที่ได้จากงบประมาณส่วนกลางสำหรับการดำเนินโครงการข้างต้นคิดเป็นร้อยละ 21.7 หรือเพียง 5,000 ล้านด่งเท่านั้น

นาย Vu Hong Thanh ประธานคณะกรรมการฝ่ายเศรษฐกิจแห่งชาติ ได้กล่าวว่า ก่อนที่รัฐบาลจะอนุมัติให้เวนคืนพื้นที่ รัฐบาลได้ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยเร่งดำเนินแผนการศึกษาความเป็นไปได้ในการจ่ายค่าชดเชยให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยเร็วเสียก่อน ก่อนจะส่งรายงานให้รัฐบาล นอกจากนี้ การสร้างสนามบินนานาชาติ Long Thanh เป็นโครงการเร่งด่วน เนื่องจากสนามบินนานาชาติ Tan Son Nhat ไม่สามารถรองรับปริมาณผู้โดยสารได้เพียงพอ อย่างไรก็ตาม การเวนคืนพื้นที่จำเป็นต้องใช้เวลาและงบประมาณเป็นจำนวนมาก

โครงการสนามบินนานาชาติ Long Thanh เป็นโครงการที่มีความสำคัญต่อเวียดนามเป็นอย่างมาก เมื่อโครงการนี้แล้วเสร็จ จะสามารถรองรับผู้โดยสารได้กว่า 100 ล้านคนต่อปี รวมถึงรองรับสินค้าอีกกว่า 5 ล้านตันต่อปี โดยโครงการดังกล่าวจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ในระยะแรกตามแผนการนั้นจะแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2568 ซึ่งประกอบด้วยรันเวย์และอาคารรับรองผู้โดยสารพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวก สามารถรองรับผู้โดยสาร 25 ล้านคนและสินค้าราว 1.2 ล้านตันต่อปี  โดยคาดการณ์ว่าจะใช้งบประมาณราว 336.6 ล้านล้านเวียดนามด่ง (หรือราว 16.03 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยในระยะแรกจะใช้งบประมาณราว 114.45 ล้านล้านเวียดนามด่ง (หรือราว 5.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)

ที่มา หนังสือพิมพ์ The Saigon Times Daily วันที่ 21 มิถุนายน 2560 หน้า 2

*********************************************************

ศูนย์ข้อมูลธุรกิจไทยในนครโฮจิมินห์