วันที่นำเข้าข้อมูล 17 ก.ค. 2560
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 5 พ.ย. 2562
ข่าวเด่นวันที่ 13 – 16 กรกฏาคม 2560
1. ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จในเวียดนาม
ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ประสบความสำเร็จในช่วงต้นของการเปิดสาขาในตลาดเวียดนาม แต่ยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดตั้งคำถามถึงความสำเร็จในระยะยาว ท่ามกลางการแข่งขันระหว่างร้านสะดวกซื้อจากประเทศต่างๆ ในเวียดนามที่กำลังเติบโตอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากที่ 7- Eleven ล้มเหลวในประเทศอินโดนีเซีย
ผู้บริโภครุ่นใหม่ชอบความสะดวกสบาย
ขณะนี้ เริ่มมีผู้บริโภคไปใช้บริการร้าน 7-Eleven ลดลงจากช่วงแรก หลังจากที่เปิดสาขา 4 แห่งในนครโฮจิมินห์ภายในเวลา 1 เดือน โดยการเปิดตัวร้าน 7-Eleven แห่งแรกในเวียดนาม ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากกระแสสังคมออนไลน์ และสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ มีข่าวลือว่า ลูกค้ายอมจ่ายเงินเพื่อที่จะได้คิวเข้า 7-Eleven ในสาขาแรก อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคชาวเวียดนามอีกหลายคนก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับร้าน 7-Eleven มากนัก เพราะมีร้านสะดวกซื้อประเภทที่คล้ายคลึงกันในนครโฮจิมินห์จำนวนมาก เช่น ร้าน Ministop ร้าน B’s smart ร้าน Circle K ร้าน Vinmart + และ ร้าน Shop & Go
ผู้บริโภคชาวเวียดนามในนครโฮจิมินห์หลายราย เริ่มใช้บริการซื้อสินค้าในร้านสะดวกซื้อมากยิ่งขึ้น เพราะเครือข่ายสาขาร้านสะดวกซื้อต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วไป และสินค้าในร้านค้าสะดวกซื้อได้รับการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ ตลอดจนช่วยประหยัดเวลาได้มากกว่าการซื้อที่ตลาดสด
ปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จของร้าน 7-Eleven
พฤติกรรมของผู้บริโภคชาวเวียดนามเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว คนรุ่นใหม่ในเวียดนามไม่นิยมใช้แบรนด์เดิมซ้ำๆ และยินดีที่จะทดลองร้านสะดวกซื้อใหม่ๆ ด้วยเหตุนี้ 7-Eleven ควรมีกลยุทธ์ในการพัฒนาสาขาทุกแห่งที่ตั้งอยู่บนถนนที่แออัดหรือในถนนที่แคบ ทั้งนี้ ร้าน 7-Eleven มีเป้าหมายที่จะเปิดสาขาในเวียดนามให้ได้ 100 สาขาภายในระยะเวลา 3 ปี และ 1,000 สาขาภายในระยะเวลา 10 ปีข้างหน้า
ข่าวลือในกลุ่มผู้ค้าปลีกในประเทศเวียดนามกล่าวว่า นาย Henry Nguyen Bao Hoang ผู้บริหารของบริษัท IDG Ventures Vietnam ซึ่งเป็นกองทุนด้านเทคโนโลยีแห่งแรกในเวียดนามและผู้นำเข้าร้าน McDonald’s สู่เวียดนาม เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังการนำเข้าแฟรนไชส์ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven เข้ามาในเวียดนาม นอกจากนั้น นาย Pham Phu Ngoc Trai ผู้บริหารชั้นนำของเวียดนามยังเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท Seven System ซึ่งเป็นผู้นำเข้าแฟรนไชส์ร้าน 7-Eleven ในเวียดนามอีกด้วย
อุปสรรคจากการแข่งขันในประเทศ
ร้าน Vinmart + เริ่มต้นธุรกิจค้าปลีกช้ากว่าร้านสะดวกซื้อและมินิมาร์ทในประเทศและต่างประเทศส่วนใหญ่ แต่ ปัจจุบัน มีจำนวนร้านค้าที่มากที่สุด หลังจากเริ่มดำเนินการเพียง 2 ปี ร้าน Vinmart + ได้เปิดร้านค้าประมาณ 1,000 สาขา และมีเป้าหมายที่จะเปิดร้านค้าเพิ่มอีก 1,000 สาขาภายในปีนี้ ปัจจุบันร้าน Vinmart + มุ่งเน้นไปในเรื่องการขายผักและผลไม้สดแทนการปรุงอาหาร เพื่อดึงดูดคนรุ่นใหม่ที่ชอบความสะดวกและรวดเร็ว ซึ่งผู้บริหารมีการเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์การจัดการอยู่ตลอดเวลา
ร้านสะดวกซื้อในเวียดนามมีวิธีการของตนเองในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย อย่างไรก็ตาม จิตวิทยาและพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าร้านสะดวกซื้อที่จะประสบความสำเร็จในเวียดนามได้ต้องรู้จักเข้าใจผู้บริโภคและปรับตัวให้เข้ากับแนวโน้มใหม่ๆ
ที่มา สำนักข่าว Talk Vietnam วันที่ 11 กรกฎาคม 2560
https://m.talkvietnam.com/2017/07/7-eleven-sees-success-in-vietnam-after-failure-in-indonesia/
2. การจัดตั้งศูนย์เทคโนโลยีรองเท้าเวียดนาม-อิตาลี ที่จังหวัดบิ่นห์เยือง
บริษัทผลิตรองเท้าและเครื่องหนังเวียดนามจำนวนมากได้เริ่มลงทุนติดตั้งเครื่องจักรและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อทำให้การผลิตมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลมากขึ้น ตลอดจนช่วยลดเวลาในการผลิต
คณะกรรมาธิการการค้าอิตาเลียนในเวียดนาม (Italian Trade Commission Vietnam) สมาคมการค้ารองเท้าหนังและเทคโนโลยีการฟอกหนัง (ASSOMAC) และสมาคมรองเท้าหนังเวียดนาม (LEFASO) ได้จัดตั้งศูนย์เทคโนโลยีรองเท้าเวียดนาม-อิตาลี ที่จังหวัดบิ่นห์เยือง เปิดใช้เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2560 ซึ่งคาดว่าจะช่วยยกระดับเทคโนโลยีการผลิตอุตสาหกรรมรองเท้าของเวียดนามให้มีมาตรฐานตามหลักสากล โดยศูนย์แห่งนี้มีการติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยจากอิตาลีและยุโรป มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมหนังและรองเท้าในประเทศ การถ่ายทอดเทคโนโลยีและการบริการให้คำปรึกษา รวมไปถึงพัฒนาคุณภาพทรัพยากรมนุษย์ให้มีความรู้และความสามารถอีกด้วย
ในขณะเดียวกัน ศูนย์วิจัยดังกล่าวจะทำหน้าที่ประสานงานกับวิทยาลัยการค้าและอุตสาหกรรมนครโฮจิมินห์ (HCMC Industry and Trade College; HITC) เพื่อจัดโครงการฝึกอบรม แนะนำแนวโน้มแฟชั่นใหม่ๆ ในโลก ให้แก่ผู้ผลิตในเวียดนาม
ผู้บริหารระดับสูงของ LEFASO กล่าวว่า อุตสาหกรรมรองเท้าของเวียดนามมีโอกาสที่ดีในการส่งเสริมการค้ากับอิตาลี ซึ่งเป็นเมืองแห่งแฟชั่นของโลก อุตสาหกรรมรองเท้ากำลังจะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยใช้เทคโนโลยีเป็นตัวผลักดัน นอกจากนั้น บางบริษัทมีการใช้หุ่นยนต์ช่วยทุ่นแรงในการตัดเย็บผ้าอีกด้วย โดยในปี 2559 การส่งออกเครื่องหนังและรองเท้าจากเวียดนามไปอิตาลีมีมูลค่ากว่า 380 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 8 ของการส่งออกรองเท้าและเครื่องหนังทั้งหมดไปยังสหภาพยุโรป
ในระหว่างวันที่ 12-14 กรกฎาคม 2560 นครโฮจิมินห์มีงานนิทรรศการแสดงสินค้าร้องเท้าและเครื่องหนังนานาชาติ ครั้งที่ 19 ซึ่งจัดโดยบริษัท Top Repute พร้อมด้วยบริษัท Lefaso and Hien Dat ที่ Saigon Exhibition and Convention center (SECC) เขต 7 นครโฮจิมินห์ โดยภายในงานแสดงสินค้ามีผู้ผลิตรองเท้าจากเวียดนามและทั่วโลกทั้งสิ้น 700 ราย จากนานาประเทศ อาทิ อาร์เจนตินา ออสเตรเลีย บังคลาเทศ บราซิล จีน อิตาลี และอินเดีย โดยแสดงสินค้าประเภทเครื่องหนัง อาทิ กระเป๋า รองเท้าหนัง และวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง
ที่มา สำนักข่าว Thoi Bao Kinh Te Sai Gon วันที่ 12 กรกฎาคม 2560
URL: http://www.thesaigontimes.vn/162459/Khanh-thanh-trung-tam-cong-nghe-giay-Viet-Y.html
3. บริษัทพลังงานขอทิ้งขยะลงสู่ทะเลใกล้กับเขตคุ้มครองทางทะเลในจังหวัดบิ่งถ่วน
นาย Tran Trung Hieu ผู้แทนบริษัท Vietnam Electricity GENCO 3 (EVN GENCO) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Vietnam Electricity (EVN) เปิดเผยว่า บริษัทได้ดำเนินการขออนุมัติกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อทิ้งโคลนและทรายที่ใช้แล้วจำนวน 2.4 ล้านลูกบาศก์เมตรลงสู่บริเวณ Tuy phong ของเมือง Vinh Tan โดยพื้นที่ของการทิ้งขยะที่ทางบริษัทเสนออยู่ห่างจากที่ทำการเขตคุ้มครองทางทะเลของบริเวณ Hon Cau เพียง 8 กิโลเมตรซึ่งอยู่บนชายฝั่งทางตอนใต้ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมกังวลว่าขยะจะตกลงไปกองอยู่ก้นทะเล และอาจจะไปรบกวนสัตว์น้ำส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าว
บริเวณ Hon Cau มีขนาดพื้นที่ 12,500 เฮกตาร์และเป็นที่อยู่อาศัยของปะการัง 234 ชนิด ปลา 324 ชนิด Mollusca 119 ชนิด และ Echinoderms 32 ชนิด อาทิ กุ้งมังกร และเต่าทะเลสีเขียว เป็นต้น ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ ในบริเวณพื้นที่นี้ยังมีระบบพืชทะเลหลากหลาย ซึ่งรวมถึงหญ้าทะเลและสาหร่าย และเป็นแหล่งทำรังของเต่าทะเลในช่วงฤดูผสมพันธุ์
อย่างไรก็ตาม ตัวแทนของบริษัท EVN GENCO มั่นใจว่าจะปฏิบัติตามขั้นตอนการป้องกันสิ่งแวดล้อม ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสิ่งแวดล้อมยังคงมีความวิตกกงวลถึงผลกระทบที่จะตามมาอยู่
นาย Nguyen Linh Ngoc รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ตอบคำถามเกี่ยวกับการคำกล่าวของนาย Hieu ว่ากระทรวงยังไม่ได้รับใบขออนุญาตของทางบริษัท EVN
อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนมิถุนายน 2560 กระทรวงฯ อนุญาตให้โรงไฟฟ้าพลังความร้อนสามารถทิ้งทรายและโคลนเกือบ 1 ล้านลูกบาศก์เมตรลงสู่ทะเลในเขตชุมชน Vinh Tan ได้ ซึ่งทำให้ประชาชนมีความกังวลเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ชาวบ้านในชุมชนมีความวิตกกังวลถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น เนื่องจากยังหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่บริษัท Formosa ผู้ผลิตเหล็กจากไต้หวัน ทิ้งสิ่งขยะอุตสาหกรรมที่เป็นพิษลงสู่ทะเลนอกชายฝั่งทางตอนเหนือ
ที่มา สำนักข่าว Saigoneer วันที่ 12 กรกฎาคม 2560
4. บริษัท Quadria Capital สัญชาติสิงคโปร์ประสบความสำเร็จในการซื้อหุ้นในโรงพยาบาล French-Vietnam ในนครโฮจิมินห์
บริษัท Quadria Capital บริษัทที่ลงทุนด้านการดูแลสุขภาพเอกชนชั้นนำของเอเชีย ประสบความสำเร็จการซื้อหุ้นบางส่วนของโรงพยาบาล French-Vietnam (FV Hospital) ในนครโฮจิมินห์ โดยไม่เปิดเผยจำนวนหุ้น แต่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าน่าจะอยู่ที่ร้อยละ 25 - 26
ตัวแทนของบริษัท Quadria Capital กล่าวว่า การลงทุนในครั้งนี้จะเป็นการพัฒนาศูนย์การแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางและจะทำให้ผู้ใช้บริการชาวเวียดนามสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่ดีขึ้น บริษัทจะเพิ่มการลงทุนในอุตสาหกรรมสุขภาพและการรักษาพยาบาลในภาคกลางและภาคใต้ของเวียดนามอย่างบูรณาการทั่วทั้งภูมิภาค โดยภายในเดือนธันวาคมนี้ โรงพยาบาลจะเปิดคลินิกรักษาโรคทั่วไปในนครเกิ่นเทอ และมีแผนการจะขยายเครือข่ายสู่จังหวัดอื่นๆ ในภาคกลางและภาคใต้ให้ได้ 8 – 10 แห่งภายใน 5 ปีข้างหน้า
โรงพยาบาล FV ก่อตั้งขึ้นโดย ดร. Jean-Marcel Guillon ในปี 2546 กับกลุ่มแพทย์ชาวฝรั่งเศส ตั้งอยู่ในเขต 7 ของนครโฮจิมินห์ เป็นผู้ให้บริการเต็มรูปแบบและครบวงจรและได้รับการรับรองมาตรฐานสถานพยาบาลในระดับสากล (Joint Commission International; JCI) แห่งแรกในประเทศเวียดนาม มีชื่อเสียงในการดูแลรักษาผู้ป่วยระดับสูง
นาย Abrar Mir ผู้บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Quadria Capital กล่าวว่า โรงพยาบาล FV อยู่ในสถานะที่สามารถก้าวไปสู่การเป็นผู้ให้บริการระดับแนวหน้าในเวียดนาม ซึ่งจะช่วยพัฒนาการเข้าถึงการดูแลและการรักษาที่มีคุณภาพในประเทศเวียดนามรวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา ลาว และเมียนมาร์ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของปรัชญาการลงทุนของบริษัท ทั้งนี้การเป็นหุ้นส่วนของบริษัท Quadria จะช่วยให้โรงพยาบาล FV เติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยภายใน 6 – 12 เดือนข้างหน้า บริษัทจะลงทุนกว่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อพัฒนาเครื่องมือและระบบต่างๆ ในโรงพยาล
ดร. Guillon กล่าวว่า บริษัท Quadria มีชื่อเสียงในการพัฒนาธุรกิจด้านการดูแลสุขภาพที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ซึ่งจะเป็นหุ้นส่วนที่เหมาะสมในการพัฒนาโรงพยาบาล FV ในปัจจุบัน โรงพยาบาลมีพนักงานกว่า 950 คน ซึ่งในจำนวนนั้นเป็นแพทย์ชาวเวียดนามและชาวต่างประเทศกว่า 130 คน โรงพยาบาลมีความเชี่ยวชาญในการรักษากว่า 30 ประเภท และมีเตียงรองรับผู้ป่วยกว่า 220 เตียง
ที่มา สำนักข่าว Vietnam Investment Review วันที่ 12 กรกฎาคม 2560
**********************************************************************
ศูนย์ข้อมูลธุรกิจไทยในนครโฮจิมินห์
อีเมลสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์
ติดต่อทั่วไป
แผนกเศรษฐกิจ
แผนกกงสุล (หนังสือเดินทาง, นิติกรณ์และทะเบียนราษฎร์, บัตรประชาชน, การตรวจลงตราและรับรองเอกสาร)