ข่าวเด่นวันที่ 27 - 28 พฤศจิกายน 2560

ข่าวเด่นวันที่ 27 - 28 พฤศจิกายน 2560

วันที่นำเข้าข้อมูล 28 พ.ย. 2560

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565

| 835 view

ข่าวเด่นวันที่ 27 – 28 พฤศจิกายน 2560

1. สายการบินต่างประเทศหลายสายเปิดเส้นทางการบินใหม่ในโฮจิมินห์และนครดานัง

สายการบิน China Southern Airlines ได้เปิดเที่ยวบินตรงนครดานัง -เมืองเป๋ยไห่ และเมืองเจิ้งโจว เป็นที่เรียบร้อยในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2560 โดยมี 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ในวันอังคาร วันพุธ และวันศูกร์ และทำการบินโดยเครื่องบินรุ่น Boeing B737 – 800M และถือเป็นเมืองที่ 5 ของเวียดนามภายหลัง นครโฮจิมินห์ กรุงฮานอย เมืองญาจาง และเกาะฟูก๊วก ที่สายการบินดังกล่าวได้เปิดให้บริการในเวียดนาม ซึ่งสำนักงานวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว นครดานัง คาดว่า เที่ยวบินเปิดใหม่ทั้งสองจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว การค้า และการลงทุนระหว่างจีนและเวียดนามได้เป็นอย่างมาก และให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า 2 ใน 3 ของเส้นทางการบินทั้งหมด  24 เส้นทางมาจากประเทศจีน

ปัจจุบัน จากรายงานของสำนักงานฯ นครดานังสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้กว่า 5.1 ล้านคน โดยในจำนวนนั้น 1.76 ล้านคนเป็นชาวต่างชาติ และในช่วง 6 เดือนแรก มีนักท่องเที่ยวชาวจีนกว่า 280,000 คน โดยส่วนมากเดินทางมาจากนครหางโจว นครเฉิงตู นครเซี่ยงไฮ้ นครคุนหมิง เมืองเสิ่นหยาง เมืองต้าเหลียน และกรุงปักกิ่ง

มีรายงานเพิ่มเติมว่า นักท่องเที่ยวจีนครอบครองสัดส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติลำดับที่ 1 ของนครดานังในปี 2559 ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวกว่า 443,000 คน คิดเป็นร้อยละ 22 ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด และคาดว่า ในปี 2560 จะเพิ่มจำนวนเป็น 600,000 คน โดยในเดือนตุลาคม 2560 จีนได้เปิดสถานกงสุลใหญ่ ณ นครดานัง อีกด้วย

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2560 แอร์เอเชียได้เริ่มเปิดเส้นทางบินเชื่อมต่อนครโฮจิมินห์-กรุงมะนิลา โดยจะทำการบิน 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ในวันอังคาร วันศุกร์ และวันอาทิตย์ ออกจากสนามบินนานาชาติ Tan Son Nhat นครโฮจิมินห์ เวลา 22.35 น. และถึงสนามบินนานาชาติ Ninoy Aquino กรุงมะนิลา เวลา 01.05 น.

ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์และสำนักงานจังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่นกำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อเปิดเส้นทางบินตรงนครโฮจิมินห์ – จังหวัดฮอกไกโด ในปีหน้า ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศ ตลอดจนการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างมาก

ที่มา หนังสือพิมพ์รัฐบาล Bao Chinh Phu วันที่ 22 พฤศจิกายน 2560

URL: http://baochinhphu.vn/Du-lich/Da-Nang-mo-them-duong-bay-quoc-te-den-Trung-Quoc/322807.vgp

 

2. สภาแห่งชาติเวียดนามผ่านร่างมติมาตรการพิเศษในการบริหารงบประมาณของนครโฮจิมินห์

เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 สภาแห่งชาติเวียดนามผ่านร่างมติมาตรการพิเศษในการบริหารงบประมาณของนครโฮจิมินห์ โดยมีผู้เห็นชอบมากกว่าร้อยละ 93.69 ของผู้มีสิทธิออกเสียง ซึ่งมาตรการพิเศษดังกล่าวมีสาระดังต่อไปนี้ (1) อำนาจในการใช้ประโยชน์จากที่ดิน โดยเฉพาะการอนุมัติให้สามารถเปลี่ยนประเภทการใช้ที่ดินสำหรับการปลูกข้าวพื้นที่ 10 เฮกตาร์ขึ้นไปสำหรับการส่งเสริมการลงทุนได้ ซึ่งแต่เดิมเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีเท่านั้น และสามารถเก็บค่าธรรมเนียมจากการใช้ที่ดินได้ร้อยละ 50 จากเดิมที่ต้องส่งรายได้ทั้งหมดให้ รบ. ส่วนกลาง (2) การอนุมัติโครงการลงทุนขนาดใหญ่โดยไม่ต้องผ่านรัฐบาลกลาง และสามารถใช้แหล่งเงินทุนอื่นในการสนับสนุนการลงทุนระยะกลางได้ (3) การเก็บรายได้จากการแปรรูปรัฐวิสาหกิจในเขตอาณา (4) การกำหนดอัตราการจัดเก็บภาษีและค่าธรรมเนียมได้เองโดยไม่เกินร้อยละ 25 ของการเก็บงบประมาณทั้งหมด และ (5) อำนาจในการบริหารจัดการระบบราชการท้องถิ่น อาทิ การปรับอัตราเงินเดือนของข้าราชการในนครตามค่าครองชีพที่แท้จริง

หลังจากมติดังกล่าวผ่านการเห็นชอบจากรัฐสภาแล้ว สภาประชาชนนครโฮจิมินห์จะต้องใช้เวลาร่างรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับมาตรการดังกล่าวส่งให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบก่อนประกาศใช้ในวันที่ 15 มกราคม 2561 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้เป็นระยะเวลา 5 ปี

ทั้งนี้ นาย Nguyen Thien Nhan เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์นครโฮจิมินห์ ให้ข้อมูลว่านครโฮจิมินห์มีประชากรมากที่สุดในประเทศ คิดเป็นร้อยละ 9 ของประชากรทั้งประเทศ การพัฒนาทางเศรษฐกิจของนครคิดเป็นร้อยละ 22 ของ GDP ทั้งประเทศ จัดส่งงบประมาณเข้ารัฐบาลกลางคิดเป็นร้อยละ 28 ของงบประมาณทั้งประเทศ อัตราการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจในช่วง 30 ปีที่ผ่านมาเฉลี่ยร้อยละ 10.7 ต่อปี มากกว่าค่าเฉลี่ยของทั้งประเทศ 1.6 เท่า อย่างไรก็ดี นับตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา นครโฮจิมินห์กำลังประสบปัญหาและข้อท้าทายในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมหลายประการ อาทิ ปัญหาการจราจร ปัญหาด้านงบประมาณ ปัญหาการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อม และปัญหาทางด้านสังคม ดังนั้น หากไม่มีมาตรการพิเศษในการบริหาร งปม. ของนครโฮจิมินห์ ผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายประเมินว่า GDP ของนครโฮจิมินห์จะเติบโตขึ้นเพียงร้อยละ 7.55 และระหว่างปี 2563 – 2573 จะเติบโตร้อยละ 6.5 จากเดิมที่มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 10.45 ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อภาพรวมการพัฒนาเศรษฐกิจของทั้ง ประเทศ ทำให้นครโฮจิมินห์จำเป็นต้องมีมาตรการพิเศษในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของนครโฮจิมินห์ให้ฟื้นตัวโดยเร็ว

นอกจากนั้น กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า รายงานว่า ในปี 2560 การส่งออกสินค้าของนครโฮจิมินห์จะมีมูลค่าถึง 35.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 35.2 โดยคิดเป็นร้อยละ 72 ของการส่งออกในบริเวณ Southern Key Economic Zone และร้อยละ 19.4 ของการส่งออกทั้งประเทศ และการนำเข้าสินค้าจะมีมูลค่า 43.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.2 และมีรายงานเพิ่มเติมว่า ในปี 2560 จังหวัดรอบๆ นครโฮจิมินห์ ได้แก่ จังหวัดบิ่นห์เยืองได้ดุลการค้ากว่า 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จังหวัดด่งนาย 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และจังหวัดลองอาน 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีแนวโน้มว่าการส่งออกของนครโฮจิมินห์และจังหวัดใกล้เคียงจะเพิ่มขึ้นอย่างมากในอนาคต โดยเฉพาะการส่งออกอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และซอฟท์แวร์

ที่มา สำนักข่าว Zing Vietnam วันที่ 25 พฤศจิกายน 2560

https://news.zing.vn/nghi-quyet-ve-co-che-dac-thu-cho-tphcm-la-quyet-sach-quoc-gia-dot-pha-post798801.html

 

3. บริษัท Samsung เปิดตัวศูนย์วิจัยและพัฒนาในนครโฮจิมินห์

ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 บริษัท Samsung เปิดตัวศูนย์วิจัยและพัฒนาและ Executive Briefing Center ในนิคมอุตสาหกรรม Sai Gon Hitech Park เขต 9 นครโฮจิมินห์ ซึ่งประกอบไปด้วยห้องทดลองเทคโนโลยีออโตเมชั่น ห้องวิจัยและพัฒนาแม่พิมพ์ไฟฟ้า ซอฟท์แวร์ แผงวงจรฟ้า เครื่องซักผ้า ตู้เย็น เครื่องดูดอากาศ และเทคโนโลยี 3 มิติ ซึ่งจะช่วยให้การผลิตและส่งออกสินค้าของผู้ใช้บริการมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น พร้อมทั้งมีหน่วยเทคนิกให้การสนับสนุนผู้ใช้บริการตลอดเวลา

นาย Le Hoai Quoc ผู้อำนวยการนิคมอุตสาหกรรม Sai Gon Hitech Park กล่าวว่า สำนักงานประชาชนนครโฮจิมินห์และนิคมอุตสาหกรรม Sai Gon Hitech Park มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่บริษัท Samsung ได้เลือกลงทุนที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นโครงการลงทุนกว่า 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ บนพื้นที่ 5,000 ตารางเมตร ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง และสร้างงานให้กับนักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ท้องถิ่นกว่า 400 คน ซึ่งจะเพิ่มเป็น 500 คน ภายในปี 2563 และตนเชื่อว่า ศูนย์วิจัยและพัฒนาดังกล่าวจะช่วยยกระดับคุณภาพอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ผลิตในนครโฮจิมินห์ พัฒนาอุตสาหกรรมสนับสนุนและคุณภาพแรงงาน ตลอดจนดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศได้เป็นจำนวนมาก

ปัจจุบัน บริษัท Samsung ได้ใช้เงินลงทุนกว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในโครงการ Samsung Electronics HCMC CE Complex (SEHC) ในนิคมอุตสาหกรรม Sai Gon Hitech Park โดยเป็นฐานผลิตสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อการ อาทิ ทีวี LED หน้าจอ เครื่องปรับอากาศ และเครื่องทำความสะอาดต่างๆ โดยได้ส่งออกไปยัง 65 ประเทศ สร้างรายได้กว่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นโครงการที่มีจำนวนเงินลงทุนมากที่สุดในนิคมอุตสาหกรรม และเป็นโครงการลงทุนที่ใช้เงินลงทุนมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ที่มา หนังสือพิมพ์ The Saigon Times Daily วันที่ 27 พฤศจิกายน 2560 หน้า 1

 

4. จังหวัดในภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงเรียกร้องให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในโครงการด้านการเกษตร

จังหวัดในภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง ได้แก่ จังหวัดลองอาน จังหวัดเตี่ยนยาง และจังหวัดด่งท้าป เรียกร้องให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในโครงการลงทุนด้านการเกษตรจำนวน 16 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวมกว่าล้านๆ ด่ง ในการประชุมส่งเสริมการลงทุนที่จัดขึ้นในจังหวัดลองอานเมื่อวันเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมา

จังหวัดลองอานกำลังเรียกร้องให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในโครงการพัฒนาการเกษตรจำนวน 9 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 3.52 ล้านล้านด่ง (ประมาณ 155 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยในจำนวนนั้น โครงการที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนคือโครงการก่อสร้างโรงงานแปรรูปมะนาวบนพื้นที่กว่า 550 เฮกตาร์ ในอำเภอ Ben Luc โดยใช้เงินลงทุนกว่า 1 ล้านล้านด่ง (ประมาณ 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

จังหวัดเตี่ยนยางกำลังเรียกร้องให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในโครงการลงทุนด้านการเกษตรจำนวน 4 โครงการ มูลค่าการลงทุนกว่า 1.5 ล้านล้านด่ง (ประมาณ 66.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมการเกษตรขั้นสูง บนพื้นที่ 197 เฮกตาร์ในอำเภอ Chau Thanh และอำเภอ Tan Phuoc มูลค่าการลงทุนกว่า 1.2 ล้านล้านด่ง (ประมาณ 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

จังหวัดด่งทาปเรียกร้องให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนใน 3 โครงการ ได้แก่ โครงการตลาดผลไม้ โครงการศูนย์พัฒนาโลจิกส์ติก และโครงการพัฒนาการเกษตรโดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูง

นาย Nguyen Van Duoc รองผู้อำนวยการคณะกรรมการประชาชนจังหวัดลองอาน กล่าวว่า ภาครัฐของทั้ง 3 จังหวัดจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุนในการดำเนินงานด้านเอกสาร การพัฒนาสภาพแวดล้อมในการลงทุน อาทิ การพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกและโครงสร้างพื้นฐาน ให้สิทธิประโยชน์ในการลงทุนด้านภาษีอากรและภาษีที่ดิน และปฎิรูประบบการบริหารจัดการภาครัฐให้สอดคล้องกับความต้องการของนักลงทุนและดึงดูดให้นักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุนในจังหวัดมากขึ้น

ที่มา ที่มา หนังสือพิมพ์ The Saigon Times Daily วันที่ 27 พฤศจิกายน 2560 หน้า 2

***************************************

ศูนย์ข้อมูลธุรกิจไทยในนครโฮจิมินห์