ข่าวเด่นวันที่ 27 ธันวาคม 2560

ข่าวเด่นวันที่ 27 ธันวาคม 2560

วันที่นำเข้าข้อมูล 27 ธ.ค. 2560

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565

| 1,034 view

ข่าวเด่นวันที่ 27 ธันวาคม 2560

  1. นครโฮจิมินห์ไม่สามารถบรรลุการเก็บงบประมาณได้ตามที่ตั้งเป้าไว้

นับถึงวันที่ 26 ธันวาคม 2560 สำนักงานภาษีอากรนครโฮจิมินห์สามารถเก็บภาษีเข้าเป็นรายได้งบประมาณของนครได้ร้อยละ 92.6 จากเป้าหมายที่วางไว้ โดยหากต้องการบรรลุเป้าหมาย ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี 2560 สำนักงานต้องเก็บภาษีเข้างบประมาณให้ได้ 2,225 พันล้านด่ง/วัน (ประมาณ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

ปัจจุบัน สำนักงานฯ สามารถเก็บภาษีรายได้เข้าเป็นงบประมาณได้เพียง 221,204 พันล้านด่ง (ประมาณ 9.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในขณะที่ตั้งเป้าหมายไว้ถึง 238,882 พันล้านด่ง (ประมาณ 10.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)  นับว่าเป็นปีแรกที่สำนักงานฯ ไม่สามารถเก็บภาษีเข้าเป้าตามที่ตั้งไว้ได้ โดยเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2559 ที่เฉพาะในช่วง 11 เดือนแรกของปี สำนักงานฯ สามารถเก็บรายได้จากภาษ๊เข้างบประมาณได้กว่าร้อยละ 114.58 เกินเป้าหมายที่วางไว้

ผู้บริหารสำนักงานฯ ได้เปิดเผยว่า ในปีนี้ การจัดเก็บภาษีรายได้เข้างบประมาณทำได้ค่อนข้างลำบาก เนื่องจากมีบริษัทเอกชนน้อยรายชำระภาษีในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี โดยบริษัทส่วนใหญ่จะรอชำระภาษีในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2560 ซึ่งจะสิ้นสุดการชำระภาษีในวันที่ 30 มกราคม 2561 นอกจากนี้ การตั้งเป้าหมายการเก็บงบประมาณที่เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 77 ในปี 2559 เป็นร้อยละ 82 ในปี 2560 ทำให้ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายใหม่ที่ตั้งไว้ได้

ที่มา หนังสือพิมพ์ Tuoi Tre วันที่ 27 ธันวาคม 2560

URL: https://tuoitre.vn/moi-ngay-cuc-thue-tp-hcm-phai-thu-2-525-ti-moi-dat-chi-tieu-20171226095539807.htm

 

  1. อุตสาหกรรมสิ่งทอในภาคใต้ของเวียดนามยังมีโอกาสในการลงทุนอีกมาก

บริษัท Eclat Fabrics Vietnam (EFV) (สัญชาติไต้หวัน)บริษัทผลิตสิ่งทอและเครื่องแต่งกายให้กับบริษัทชั้นนำของโลก อาทิ Nike, Adidas และ Lululemon ได้ยื่นขออนุมัติคณะกรรมการประชาชนจังหวัดบ่าเหรี่ยะ-หวุงเต่า ในการเพิ่มขีดความสามารถในการย้อมสีผ้าของโรงงานจากร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 100 แม้ว่าจะมีความกังวลจากชาวบ้านและรัฐบาลท้องถิ่นถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับแม่น้ำ Thi Vai ก็ตาม

นาย Hung Cheng-Hai ผู้อำนวยการของบริษัท EFV เปิดเผยว่า ปัจจุบัน แม้ว่าบริษัท EFV ได้ลงทุนโดยเทคโนโลยีขั้นสูงและใช้ผู้เชี่ยวชาญในกระบวนการการผลิตสิ่งทอจำนวนมาก โดยมีเงินลงทุนกว่า 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่โรงงานในจังหวัดบ่าเหรี่ยะ-หวุงเต่ายังไม่สามารถดำเนินการได้อย่างเต็มขีดความสามารถเนื่องจากมีประสิทธิภาพการย้อมสีผ้าต่ำ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำเนินกิจการของบริษัทสิ่งทอหลายๆ แห่งในจังหวัด

ในปี 2549 รัฐบาลเวียดนามได้กำชับให้คณะกรรมการประชาชนจังหวัดบ่าเหรี่ยะ-หวุงเต่า ประกาศห้ามการดำเนินกิจกรรมอุตสาหกรรม 5 ชนิดบริเวณริมฝั่งแม่น้ำ Thi Vai ได้แก่ การย้อมสีผ้า ฟอกหนัง การแปรรูปมันสำปะหลัง การแปรรูปน้ำยาง และการผลิตเคมีภัณฑ์ เพื่อป้องกันและรักษาระบบนิเวศของแม่น้ำ อย่างไรก็ดี ในปี 2550 สำนักงานสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติจังหวัดบ่าเหรี่ยะ-หวุงเต่ากลับอนุมัติโครงการลงทุนของบริษัท EFV และหลังจากนั้นไม่นาน คณะกรรมการบริหารนิคมอุตสาหกรรมจังหวัดบ่าเหรี่ยะ-หวุงเต่า ได้มอบใบอนุญาตการลงทุนให้กับบริษัท โดยจำกัดขีดความสามารถในการย้อมสีผ้าเหลือเพียงร้อยละ 10

แม่น้ำ Thi Vai มีจุดเริ่มต้นบริเวณหมู่บ้าน Nhon Tho ในอำเภอ Long Thanh จังหวัดด่งนาย  และไหลลงมาสู่อำเภอ Tan Thanh จังหวัดบ่าเหรี่ยะ-หวุงเต่า อำเภอ Can Gio นครโฮจิมินห์ และทะเลตะวันออกตามลำดับ แม่น้ำ Thi Vai มีความยาวรวม 76 กิโลเมตร มีอ่างเก็บน้ำความจุ 300 ตารางกิโลเมตร โดยที่ผ่านมา บริษัทหลายแห่งที่ดำเนินกิจการบริเวณแม่น้ำถูกตรวจพบว่าได้ทิ้งของเสียลงในแม่น้ำส่งผลให้เกิดมลพิษขั้นสูง

นาย Phan Huu Thang อดีตผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการลงทุนต่างประเทศ กล่าวว่า ปัจจุบัน เวียดนามกำลังเข้าสู่ยุคการพัฒนาอุตสาหกรรม ซึ่งได้ส่งผลให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม อย่างไรก็ดี สภาพสิ่งแวดล้อมของประเทศไม่ได้รับการพัฒนาตามไปด้วย โดยโครงการลงทุนอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องแต่งกายส่วนใหญ่มักจะก่อให้เกิดผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ ดังปรากฎในประเทศจีนที่ปัจจุบันกำลังเกิดมลพิษในหลายๆ พื้นที่ ดังนั้น เวียดนามควรจะระมัดระวังเป็นพิเศษในการอนุมัติโครงการที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องแต่งกาย มิเช่นนั้น สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรของประเทศอาจจะถูกทำลายอีกเป็นจำนวนมหาศาล

ปัจจุบัน เวียดนามมีบริษัทอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องแต่งกายกว่า 4,000 บริษัท โดยในจำนวนนั้นร้อยละ 60 อยู่ในบริเวณภาคใต้ของเวียดนาม และเป็นบริษัทต่างประเทศ 650 บริษัท โดยร้อยละ 70 เป็นบริษัทผลิตเครื่องแต่งกาย ร้อยละ 17 เป็นบริษัทผลิตสิ่งทอ ร้อยละ 6 เป็นบริษัทปั่นเส้นใย และร้อยละ 4 เป็นบริษัทย้อมสีผ้า ซึ่งจากอัตราข้างต้นชี้ให้เห็นว่า อัตราการผลิตสิ่งทอ การปั่นเส้นใย และการย้อมผ้าที่ต่ำ ได้ส่งผลให้ผู้ผลิตภายในประเทศไม่สามารถดำเนินการผลิตได้แบบครบวงจร

สมาคมสิ่งทอเวียดนามได้เสนอข้อคิดเห็นในการดึงดูดโครงการลงทุนอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องแต่งกาย โดยไม่ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมบริเวณแม่น้ำ โดยเสนอให้รัฐบาลปรับปรุงแผนการดำเนินโครงการอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องแต่งกายในระยะปี 2578 – 2583 และสร้างนิคมอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องแต่งกายขนาด 500 – 1,000 เฮกตาร์เพื่อดึงดูดนักลงทุนในอุตสาหกรรมผลิตสิ่งทอ การปั่นเส้นใย และการย้อมสีผ้าโดยเฉพาะ

ที่มา สำนักข่าว Vietnam Investment Review

URL: http://www.vir.com.vn/textile-industry-dyeing-for-capacity.html

 

  1. การส่งเงินกลับนครโฮจิมินห์ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2560

นาย Nguyen Hoang Minh รองผู้อำนวยการธนาคารแห่งชาติ สาขานครโฮจิมินห์ รายงานว่า ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2560 การโอนเงินกลับประเทศเข้ามาในนครโฮจิมินห์มีมูลค่าถึง 4.55 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยร้อยละ 60 มาจากสหรัฐอเมริกาและร้อยละ 19 มาจากยุโรป ซึ่งบุคคลที่โอนเงินเข้ามาส่วนใหญ่เป็นชาวเวียดนามโพ้นทะเล และแรงงานชาวเวียดนามที่ทำงานอยู่ในต่างประเทศ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งคาดว่า ในปี 2560 จะมีเงินตราต่างประเทศโอนเข้ามาในนครโฮจิมินห์ประมาณ 5.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.5 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

นาย Minh กล่าวเสริมว่า เงินส่วนใหญ่จะใช้เพื่อการลงทุนและการดำเนินธุรกิจ มิใช่เพื่อการออม หรือลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และเก็งกำไรซื้อหุ้นเหมือนเช่นที่ผ่านมา นอกจากนั้น หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้อัตราการโอนเงินกลับประเทศมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่องเป็นเพราะสภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศที่มีความมั่นคง ทำให้ชาวเวียดนามโพ้นทะเลหลายคนเห็นโอกาสในการลงทุนในเวียดนามเพิ่มมากขึ้น

ที่มา สำนักข่าว VnExpress วันที่ 23 ธันวาคม 2560

URL: https://kinhdoanh.vnexpress.net/tin-tuc/ebank/kieu-hoi-ve-tp-hcm-vuot-4-5-ty-usd-3688903.html