ข่าวเด่นวันที่ 6 - 7 กุมภาพันธ์ 2561

ข่าวเด่นวันที่ 6 - 7 กุมภาพันธ์ 2561

วันที่นำเข้าข้อมูล 7 ก.พ. 2561

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565

| 982 view

ข่าวเด่นวันที่ 6-7 กุมภาพันธ์ 2561

1. ในช่วง 1 เดือนแรกของปี 2561 ยังไม่มีรถยนต์นำเข้าจากต่างประเทศเข้ามายังนครโฮจิมินห์

สืบเนื่องจากมติหมายเลข 116/2017 เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดการนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศ ส่งผลให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์หลายรายโดยเฉพาะอย่างยิ่งรถยนต์ที่ผลิตในประเทศไทยและอินโดนีเซียต้องเสียค่าธรรมเนียมภาษีเพิ่มขึ้นเมื่อส่งรถยนต์มายังเวียดนาม ซึ่งบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่หลายราย อาทิ Toyota และ Honda ประกาศไม่ส่งออกรถยนต์มายังประเทศเวียดนามจนกว่ามติดังกล่าวจะได้รับการแก้ไข ส่งผลให้ในช่วงเดือนมกราคม 2561 ยังไมมีรถยนต์จากต่างประเทศนำเข้ามายังนครโฮจิมินห์

นาย Dinh Ngoc Thanh รองผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากร นครโฮจิมินห์ให้สัมภาษณ์ว่า สถานการณ์ตลาดรถยนต์ในปัจจุบันตรงข้ามกับปีที่แล้วที่มีการซื้อขายรถยนต์สูง โดยถึงแม้ว่าจะเข้าใกล้ช่วงเทศกาลตรุษเวียดนามแล้ว แต่ผู้บริษัทผลิตรถยนต์ยังชลอการนำเข้าสินค้ามายังประเทศเวียดนามเนื่องจากอัตราภาษีที่สูงขึ้นจากเดิม ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่า ตลาดรถยนต์ทั่วประเทศจะมีอัตราเติบโตลดลงร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว

ตัวแทนบริษัท Honda Vietnam ให้สัมภาษณ์ว่า ปัจจุบัน บริษัทยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะนำเข้ารถยนต์มาขายในเวียดนามได้เมื่อไหร่เนื่องจากมติหมายเลข 116/2017 ทำให้บริษัทมีต้นทุนที่สูงขึ้นและมีขั้นตอนตรวจสอบเอกสารที่ยุ่งยากมากขึ้นและต้องเสียเวลาตรวจสอบกว่า 70 วัน

ทั้งนี้ บริษัทที่นำเข้ารถยนต์แห่งหนึ่งชี้ว่า แม้ว่าเวียดนามจะนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก แต่ในความเป็นจริงแล้ว ปริมาณการนำเข้าเหล่านั้นยังไม่เพียงพอกับความต้องการการใช้รถยนต์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในปัจจุบัน ซึ่งสถานการณ์ในปัจจุบันส่งผลถึงผู้ซื้อรถยนต์โดยตรง เนื่องจากมีการปรับราคารถยนต์ที่ประกอบ/ผลิตภายในประเทศสูงขึ้นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม บริษัท Thaco Truong Hai และบริษัท Hyundai Thanh Cong บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ภายในเวียดนามกล่าวว่ามติหมายเลข 116/2017 มีความสมเหตุสมผล เนื่องจากรถยนต์ที่นำเข้าในประเทศเวียดนามจะต้องตรงตามมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับภายในประเทศอย่างแท้จริง และมติดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ของเวียดนามให้ก้าวหน้าได้ในอนาคต

ที่มา หนังสือพิมพ์ Tuoi Tre วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561

URL: https://tuoitre.vn/khong-chiec-oto-nao-nhap-cang-tp-hcm-trong-thang-1-20180201184323249.htm

 

2. ชาวนครโฮจิมินห์จะบริโภคเบียร์กว่า 44 ล้านลิตรในช่วงตรุษเวียดนาม 2561

นาย Pham Thanh Kien ผู้อำนวยการสำนักงานอุตสาหกรรมและการค้านครโฮจิมินห์เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลตรุษเวียดนาม 2561 ในกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ สำนักงานคาดการณ์ว่า ประชาชนในนครโฮจิมินห์จะบริโภคเบียร์กว่า 44 ล้านลิตร และเครื่องดื่มผสมน้ำตาลกว่า 47 ล้านลิตร ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากจากปีที่ผ่านมา โดยสำนักงานจะพยายามตรวจสอบไม่ให้ผู้ฉวยโอกาสขึ้นราคา และสำนักงานได้ออกประกาศราคามาตรฐานของเครื่องดื่ม/สินค้าอุปโภคบริโภคในช่วงตรุษเวียดนามไว้บนเว็บไซต์ของสำนักงาน เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถติดตามและตรวจสอบราคาที่แท้จริงได้ นอกจากนั้น คาดการณ์ว่า ประชาชนในนครโฮจิมินห์จะบริโภคสินค้าขนมชนิดต่างๆ กว่า 18,000 ตันในช่วงเทศกาลตรุษเวียดนามด้วย

นาย Kien กล่าวเสริมว่า ในช่วงเทศกาลตรุษเวียดนาม 2561 ชาวนครโฮจิมินห์จะบริโภคเนื้อหมูเพิ่มขึ้นจาก 16,000 ตัว/วันเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เป็น 18,000 ตัวต่อวัน เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงปกติ และร้านขายสินค้าอุปโภคบริโภคจะลงทุนเพิ่มกว่า 18,000 พันล้านด่ง (8 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 – 30 เพื่อยกระดับคุณภาพการส่งออกสินค้า

นาย Nguyen Thanh Phong ประธานคณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์ กล่าวว่า ภาครัฐทุกฝ่ายพร้อมแล้วที่จะให้บริการประชาชน และรักษาความสงบในช่วงเทศกาลตรุษเวียดนาม 2561 โดยได้ร้องขอให้ข้าราชการระดับสูงทุกคนไม่รับของขวัญในช่วงเทศกาลดังกล่าวเพื่อสร้างค่านิยมใหม่ให้กับระบบราชการของนครโฮจิมินห์

ที่มา สำนักข่าว VnExpress วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561

URL: https://kinhdoanh.vnexpress.net/tin-tuc/vi-mo/tet-nguyen-dan-2018-tp-hcm-du-kien-tieu-thu-44-trieu-lit-bia-3706916.html

 

3. สถานการณ์ราคาแตงโมในภาคใต้ของเวียดนาม

ปัจจุบัน เกษตรกรผู้ปลูกแตงโมในบริเวณภาคใต้และภาคกลางตอนล่างกำลังประสบกับปัญหาราคาแตงโมตกต่ำ เนื่องจากไม่มีความต้องการซื้อจากพ่อค้าคนกลาง แม้ว่าจะใกล้ช่วงเทศกาลตรุษเวียดนามแล้วก็ตาม

เกษตรกรรายหนึ่งในจังหวัดบิ่นห์ถ่วนเปิดเผยว่า ตนมีพื้นที่ปลูกแตงโมกว่า 180 เฮกตาร์ในจังหวัดบิ่นห์ถ่วน อย่างไรก็ตาม ปัญหาราคาแตงโมตกต่ำในช่วงตรุษเวียดนามกำลังส่งผลกระทบต่อเกษตรกรหลายราย ซึ่งเป็นเหตุการณ์ผิดปกติ เนื่องจากช่วงเทศกาลตรุษเวียดนามปีก่อนๆ เกษตรกรผู้ปลูกแตงโมสามารถหารายได้จากช่วงตรุษเวียดนามได้เป็นอย่างมาก โดยราคาขายส่งในปัจจุบันอยู่ที่กิโลกรัมละ 3,000 ด่ง เท่านั้น

นาย Nguyen Duc Binh ประธานสมาคมเกษตรกรอำเภอ Duc Linh จังหวัดบิ่นห์ถ่วน กล่าวว่า ตรุษเวียดนาม 2561 เป็นช่วงที่เกษตรกรผู้ปลูกแตงโมได้รับผลกระทบกับจากราคาตลาดที่ผันผวนอย่างมาก และมีแนวโน้มที่ราคาจะต่ำลงไปมากกว่าเดิม โดยมีเหตุผลจากการผิดสัญญาซื้อขายของพ่อค้าคนกลาง ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกแตงโมไม่สามารถหาพ่อค้าคนกลางรายอื่นได้ทัน ส่งผลให้ผลผลิตแตงโมล้นตลาดและราคาตกต่ำลง

ทั้งนี้ สำนักงานการเกษตรจังหวัดบิ่นห์ถ่วนเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้พ่อค้าคนกลางไม่สามารถรับซื้อแตงโมที่มีอยู่ล้นตลาดได้เป็นเพราะไม่สามารถส่งออกไปยังตลาดประเทศจีนได้มากเท่าที่ควร และกำลังซื้อภายในประเทศยังไม่เพียงพอต่อปริมาณแตงโมที่ยังคงค้างอยู่มาก

โดยปัจจุบัน สำนักงานฯ ได้ประสานงานกับภาครัฐและภาคเอกชนร่วมแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกแตงโมโดยเร็ว

ที่มา สำนักข่าว TinTuc วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2561

URL: https://baotintuc.vn/nguoi-trong-dua-hau-binh-thuan-gap-kho-do-gia-qua-thap-n20180202104734931.htm

 

4. นครโฮจิมินห์เรียกร้องให้รัฐบาลกลางจัดสรรงบประมาณ ODA มาโดยเร็ว

คณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์ได้ยื่นคำร้องต่อรัฐบาลกลาง เพื่อขอให้ส่งงบประมาณเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการ (ODA) ให้กับโครงการของนครฯ ที่ยังขาดงบประมาณดังกล่าวโดยเร็ว เพื่อไม่ให้โครงการต่างๆ มีความล่าช้าขึ้น ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ ได้เสนอให้กระทรวงการวางแผนการลงทุนปรับวิธีในการแบ่งสรรงบประมาณ ODA ใหม่ให้มีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น และเสนอว่า รัฐบาลควรให้สิทธินครโฮจิมินห์ในการจัดสรรเงินทุนสำหรับโครงการต่าง ๆ ตามดุลยพินิจ โดยให้ประธานคณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์เป็นผู้ตัดสินใจ

การเบิกจ่ายงบประมาณ ODA ที่ล่าช้าในช่วงที่ผ่านมาทำให้บางโครงการในนครโฮจิมินห์อยู่ในภาวะชะงักงัน โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้าใต้ดินสายที่ 1 เส้นทางตลาด Ben Thanh ในเขต 1 และสวนสาธารณะ Suoi Tien ในเขต 9 ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นได้จัดสรรเงินกู้ ODA ให้กับโครงการดังกล่าว แต่ยังขาดงบประมาณสมทบจากรัฐบาลกลางอีกเป็นจำนวนมาก โดยกระทรวงการวางแผนและการลงทุนชี้ว่า โครงการรถไฟฟ้าดังกล่าวได้รับการอนุมัติครั้งแรกด้วยเงินลงทุนประมาณ 748 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ปัจจุบัน โครงการลงทุนดังกล่าวจำเป็นต้องใช้งบประมาณถึง 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

นอกจากนั้น โครงการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกและโครงสร้างพื้นฐานสาธารณะของกระทรวงคมนาคมอีกหลายโครงการยังขาดงบประมาณ โดยในปี 2560 กระทรวงคมนาคมได้ใช้งบประมาณลงทุนเพื่อพัฒนาโครงการสาธารณะมูลค่ากว่า 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นร้อยละ 94 ซึ่งหมายความว่ายังมีงบประมาณสำหรับโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมเหลืออยู่อีกหลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ

กระทรวงฯ กล่าวเสริมว่า สาเหตุที่โครงการหลายโครงการขาดงบประมาณเป็นเพราะบางโครงการยังมีปัญหาการเวนคืนพื้นที่และปัญหาทางด้านกฎหมาย รวมถึงการจัดสรรงบประมาณจากการขายพันธบัตรรัฐบาลมายังกระทรวงฯ เป็นไปอย่างล่าช้า

ที่มา หนังสือพิมพ์ The Saigon Times Daily วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561 หน้า 1