ข่าวเด่นวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2561

ข่าวเด่นวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2561

วันที่นำเข้าข้อมูล 9 ก.พ. 2561

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565

| 995 view

ข่าวเด่นวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2561

1. กระแสการทำงานแบบ Co-working space ในนครโฮจิมินห์

บริษัท CBRE Vietnam บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังในเวียดนามรายงานว่า ในปี 2560 กระแสการทำงานแบบ Co-working space ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในนครโฮจิมินห์ที่มีการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รูปแบบ Office-tel ขนาดประมาณ 30 ตารางเมตร ที่สามารถใช้เป็นทั้งที่พักอาศัยและที่ทำงาน และในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา การทำงานรูปแบบ Co-working space ก็ได้รับความนิยมในหมู่ผู้ประกอบธุรกิจ Startup ทั้งในและต่างประเทศ เนื่องด้วยราคาย่อมเยา โดยหนึ่งในอสังหาริมทรัพย์ Co-working space ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดแห่งหนึ่งในนครโฮจิมินห์ได้แก่อาคาร Dreamplex เขต 1 นครโฮจิมินห์ ที่มี 35 ห้อง และมีพื้นที่ใช้สอยราว 1,500 ตารางเมตร

ทั้งนี้ นอกจากพื้นที่อสังหาริมทรัพย์ Co-working space ราคาย่อมเยาแล้ว อาคาร Saigon Center ในเขต 1 ใจกลางนครโฮจิมินห์ ซึ่งได้รับการพัฒนาโดยบริษัท Keppel ประเทศสิงคโปร์ ก็มีแผนการจะพัฒนาพื้นที่ Co-office เช่นกัน ซึ่งเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของอสังหาริมทรัพย์ Co-working space ที่มีราคาสูงขึ้น

บริษัท CBRE Vietnam เปิดเผยเพิ่มเติมว่า คาดการณ์ว่าธุรกิจให้เช่าพื้นที่ Co-working space ในเวียดนามจะเติบโตขึ้นอย่างร้อยร้อยละ 58 /ปี โดยมีนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังทั้งในและต่างประเทศต่างให้ความสนใจในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รูปแบบดังกล่าว อาทิ กลุ่มบริษัท Trung Thuy Group บริษัท OpenAsia และบริษัท Gaw Capitals และคาดการณ์ว่าภายในปี 2563 อสังหาริมทรัพย์ประเภท Co-working space จะคิดเป็นร้อยละ 2 ของพื้นที่ให้เช่าสำนักงานทั้งประเทศ

นาย Jeremy Sheldon ผู้อำนวยการทั่วไป สาขาเอเชียแปซิฟิก ของบริษัท Jones Lang Lasalle (JLL) บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังระดับโลก กล่าวว่า นครโฮจิมินห์มีแนวโน้มที่จะมีอสังหาริมทรัพย์ Co-working space เพิ่มขึ้น เนื่องจากความต้องการของบริษัท Startup ใหม่ๆ ในนคร และพนักงานรุ่นใหม่มีแนวโน้มที่จะชื่นชอบการทำงานในลักษณะ Co-working space มากกว่าการทำงานในสำนักงานแบบเดิม ตลอดจนจะมีการแข่งขันกันเกิดขึ้นในหมู่นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ Co-working space  ในด้านของความพร้อมในการให้บริการ ที่ตั้งของอาคาร และเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าของตน

นอกจากนั้น บริษัท Cush and  Wakefield  บริษัทอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก คาดการณ์ว่า อสังหาริมทรัพย์ประเภทสำนักงานให้เช่าระดับ A หลายแห่งในนครโฮจิมินห์ จะมีราคาเช่าแพงขึ้นจากเดิมร้อยละ 20  ในปี 2561 และจะมีอัตราการปล่อยเช่าสูงมากจนถึงปี 2562 ตลอดจนมีอัตราการเติบโตขึ้นร้อยละ 5 – 7 /ปี

ที่มา นิตยสาร Doanh Nhan Saigon วันที่ 31 มกราคม – 6 กุมภาพันธ์ 2561 หน้า 14

 

2. กระแสการพัฒนาโครงการพลังงานทดแทนในภาคใต้ของเวียดนาม

ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2561 ได้มีการหารือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนประเทศเกาหลีใต้กับเวียดนามด้านไฟฟ้าและพลังงานทดแทน เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและการลงทุนระหว่างสองประเทศ ซึ่งนาย Park Un Gyu รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้า อุตสาหกรรมและพลังงานของเกาหลีใต้ ให้เกียรติเข้าร่วมงานด้วย

นาย Vo Tan Thanh รองประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนาม และประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมสาขานครโฮจิมินห์ กล่าวว่า ปัจจุบัน เวียดนามมุ่งพัฒนาโครงการพลังงานทดแทน เพื่อตอบสนองความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหิน โดยเกาหลีใต้เป็นหนึ่งในประเทศที่มีศักยภาพในการพัฒนาพลังงานทดแทนและระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะที่จะช่วยลดการสูญเสียพลังงานไฟฟ้าโดยไม่จำเป็น ซึ่งเทคโนโลยีต่างๆ ข้างต้นจะสามารถพัฒนาระบบการจ่ายไฟฟ้าของประเทศเวียดนามให้ก้าวหน้าได้อย่างมาก

นอกจากนี้ ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (Asian Development Bank: ADB) และบริษัท China Everbright International Limited (CEIL) ได้บรรลุข้อตกลงการกู้เงินจำนวน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสนับสนุนโครงการเปลี่ยนขยะให้เป็นพลังงานไฟฟ้าในภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง ในลักษณะความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน

นาย Christopher Thieme รองผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการภาคเอกชนของ ADB กล่าวว่า ข้อตกลงดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อช่วยปรับปรุงระบบกำจัดขยะมูลฝอยในเวียดนาม โดยจะลดการปล่อยแก๊สมีเทนและเพิ่มการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานทดแทน ซึ่ง ADB และบริษัท CEIL จะสนับสนุนการก่อสร้างและการดำเนินงานของโครงการพลังงานไฟฟ้าจากขยะ โดยนำเทคโนโลยีขั้นสูงและเทคโนโลยีสะอาดมาใช้ในจังหวัดต่างๆ บริเวณภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง ซึ่งตามข้อมูลของ ADB เวียดนามระบายขยะมากกว่า 27.8 ล้านตันต่อปี

ทั้งนี้ เมื่อไม่นานมานี้ รัฐบาลเยอรมนีมอบเงินสนับสนุนโครงการพัฒนาระบบแผงเซลล์แสงอาทิตย์ มูลค่าเงินลงทุนกว่า 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเงินทุนกว่าร้อยละ 90 มาจากรัฐบาลเยอรมนี ที่เมืองฮอยอัน จังหวัดกว๋างนาม โดยจะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 51 กิโลวัตต์-ชั่วโมง เพื่อรองรับกิจกรรมสันทนาการต่าง ๆ ที่จะจัดในพื้นที่ลานอเนกประสงค์ Song Hoai เช่น ถนนศิลปะ การละเล่นพื้นบ้าน การเรียนดนตรีแบบดั้งเดิม โคมไฟตกแต่ง ระบบแสงสว่างสำหรับสะพาน Chua Cau งานเทศกาลด้านวัฒนธรรมต่าง ๆ และสามารถเก็บไฟฟ้าสำรองในระบบแบตเตอรี่อัตโนมัติและนำไปใช้ฉายไฟในสถานที่มรดกทางวัฒนธรรมได้ในเวลากลางคืน

ที่มา สำนักข่าว Dien Dan Doanh Nghiep วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561

URL: http://enternews.vn/adb-danh-100-trieu-usd-trong-linh-vuc-chuyen-hoa-rac-thanh-nang-luong-tai-viet-nam-124490.html

 

3. บริษัทอุตสาหกรรมการบินของสหราชอาณาจักรพิจารณาลงทุนในเวียดนาม

นาย Le Dinh Tho รัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ในระหว่างการหารือของตนกับนาย Gilves Laver เอกอัคราชทูตสหราชอาณาจักร ประจำประเทศเวียดนาม เกี่ยวกับการพัฒนาและการลงทุนในอุตสาหกรรมการบินของทั้งสองประเทศ บริษัทอุตสาหกรรมการบินของสหราชอาณาจักรสนใจที่จะเข้ามาร่วมลงทุนในอุตสาหกรรมการบินของประเทศเวียดนาม โดยมีตัวแทนของบริษัท Arab Atkins และ Benoy บริษัทอุตสาหกรรมการบินจากสหราชอาณาจักรเข้าร่วมการหารือด้วย

นาย Gilves กล่าวระหว่างการหารือว่า บริษัทอุตสาหกรรมการบินของสหราชอาณาจักรหลายรายกำลังพิจารณาในการลงทุนโครงการพัฒนาสร้างสนามบินนานาชาติ Long Thanh ในจังหวัดด่งนาย และโครงการขยายสนามบินนานาชาติ Ton Son Nhat  ในนครโฮจิมินห์ ตลอดจนโครงการทางรถไฟในนครโฮจิมินห์

นาย Tho รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวเสริมว่า กระทรวงคมนาคมจะช่วยสนับสนุนนักลงทุนชาว  สหราชอาณาจักร ในการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงการก่อสร้างสนามบินนานาชาติ Long Thanh  ซึ่งกระทรวงมอบหมายให้ บริษัท Airports Corporation of Vietnam (ACV) เลือกหุ้นส่วนที่เหมาะสมเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ร่วมกันในการพัฒนาโครงการดังกล่าว และจะเริ่มประมูลหุ้นส่วนในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561 ทั้งนี้ การศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการจะใช้เวลา 16 เดือน เมื่อเสร็จสิ้นและส่งรายงานให้กับรัฐสภาแห่งชาติ และได้รับการอนุมัติแล้ว การทำงานในระยะแรกจะประกอบด้วย การก่อสร้างรันเวย์และสถานีรองรับผู้โดยสารจำนวน 25 ล้านคน และสามารถรองรับการขนส่งสินค้าจำนวน 1.2 ล้านตันต่อปี และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2568

โครงการสนามบินนานาชาติ Long Thanh ได้รับการอนุมัติโครงการโดยรัฐสภาแห่งชาติ ในเดือนมิถุนายน 2558 เงินลงทุนรวม 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยการพัฒนาโครงการระยะแรกจะใช้เงินลงทุนถึง 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา หนังสือพิมพ์ The Saigon Times Daily วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2561 หน้า 2

 

4. ภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงมีอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจลดลง

ในระหว่างการประชุมทบทวนแผนงานของจังหวัดในภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2561 คณะกรรมการอำนวยการภาคตะวันตกเฉียงใต้ของเวียดนาม เปิดเผยว่า แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมา การพัฒนาเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานในจังหวัดบริเวณภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงจะประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก แต่ในปีที่ผ่านมา อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจในภาพรวมกลับมีอัตราลดลง ซึ่งจากรายงานของคณะกรรมการฯ ชี้ให้เห็นว่า ระหว่างปี 2544 – 2553 เศรษฐกิจของภูมิภาคฯ เติบโตขึ้นร้อยละ 11.7 / ปี ระหว่างปี 2554 – 2558 เติบโตขึ้นร้อยละ 8.55 และในปี 2559 เติบโตร้อยละ 7.39 อย่างไรก็ดี ในปี 2560 กลับเติบโตเพียงร้อยละ 6.9 โดยหลายฝ่ายวิเคราะห์ว่า สาเหตุที่ทำให้เศรษฐกิจโดยรวมของภูมิภาคฯ เติบโตน้อยลง เป็นเพราะภาคการเกษตรของภูมิภาคฯ มีอัตราการเติบโตลดลงอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา

นาย Vo Hung Dunh ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนาม สาขานครเกิ่นเทอ กล่าวว่า ก่อนปี 2557 ภาคการเกษตรของภูมิภาคฯ มีอัตราการเติบโตร้อยละ 6 / ปี แต่ลดลงเหลือร้อยละ 3 ในปี 2557 และ 2558 ร้อยละ 0.6 ในปี 2559 และร้อยละ 2.77 ในปี 2560 ซึ่งเมื่อภาคการเกษตรซึ่งเป็นหัวใจหลักของประชาชนในภูมิภาคฯ มีอัตราการเติบโตลดลง ก็ส่งผลโดยรวมต่อเศรษฐกิจในทุกภาคส่วน แต่หากมีสัดส่วนต่อโครงสร้างของเศรษฐกิจมากเกินไป ก็จะส่งผลให้ภาพรวมการพัฒนาเศรษฐกิจลดลงเช่นกัน โดยยกตัวอย่างเช่น ในปี 2560 จังหวัด        บากเลียวซึ่งภาคการเกษตรมีมูลค่าถึง 10.02 ล้านล้านด่ง (4.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ภาคอุตสาหกรรมมีมูลค่า 3.65 ล้านล้านด่ง (1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) และภาคการค้าและบริการมีมูลค่า 9.93 ล้านล้านด่ง (4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ของโครงสร้างเศรษฐกิจของจังหวัด ส่งผลให้จังหวัดบากเลียวมีอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจเพียงร้อยละ 6.5 ในขณะที่จังหวัดลองอาน ซึ่งภาคการเกษตรมีมูลค่า 12.77 ล้านล้านด่ง (5.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ภาคอุตสาหกรรมมีมูลค่า 29.29 ล้านล้านด่ง (13 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) และภาคการค้าและบริการมีมูลค่า 19.90 ล้านล้านด่ง (8.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ของโครงสร้างเศรษฐกิจของจังหวัด ส่งผลให้จังหวัดลองอานมีอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจถึงร้อยละ 9.53

ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาไม่นาน กรมการเมืองเพิ่งจะยกเลิกการปฎิบัติงานของคณะกรรมการอำนวยการภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ภาคกลางเขตที่ราบสูง และภาคตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งกิจกรรมของคณะกรรมการอำนวยการในแต่ละภาคจะสิ้นสุดลงเมื่อจบไตรมาสที่ 1 ของปีนี้

ที่มา หนังสือพิมพ์ The Saigon Times Daily วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2561