ข่าวเด่นวันที่ 8 - 9 มีนาคม 2561

ข่าวเด่นวันที่ 8 - 9 มีนาคม 2561

วันที่นำเข้าข้อมูล 9 มี.ค. 2561

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565

| 993 view

ข่าวเด่นวันที่ 8 – 9 มีนาคม 2561

1. ภาคอสังหาริมทรัพย์คึกคัก นครโฮจิมินห์เตรียมรับเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นในปีนี้

นาย Nguyen Thanh Phong ประธานคณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์ เปิดเผยว่า ปัจจุบัน นครโฮจิมินห์มีโครงการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment: FDI) กว่า 7,372 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 45 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยในปีที่ผ่านมา นครโฮจิมินห์สามารถดึงดูด FDI ได้กว่า 803 โครงการ มูลค่ารวม 2.34 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มี 194 โครงการ FDI เดิมที่เพิ่มเงินลงทุน รวมกว่า 962.63 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลอดจนมีมูลค่าการควบรวมกิจการ (Merge & Acquisition: M&A) กว่า 3.68 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ในปี 2560 การลงทุน FDI ของภาคอสังหาริมทรัพย์มีมูลค่าการลงทุนมากที่สุด คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนกว่า 1.01 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือร้อยละ 43.4 ของเงินลงทุนทั้งหมด โดยมีโครงการลงทุนสำคัญ อาทิ โครงการพัฒนา Eco-Smart City ในพื้นที่ Thu Thiem New Urban Area มูลค่ากว่า 886 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โครงการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท KNT Asia มูลค่ากว่า 215 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และโครงการลงทุนของกลุ่มบริษัท Nam Long ร่วมกับบริษัท Nishi Nippon Railroad และบริษัท Hankyu Realty สัญชาติญี่ปุ่น ในการพัฒนาโครงการพื้นที่อสังหาริมทรัพย์ Mizuki Park ในเขต Binh Chanh มูลค่ากว่า 350 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

นอกจากนั้น ภาคอสังหาริมทรัพย์ในปี 2561 ยังมีแนวโน้มสดใส จากข่าวว่าบริษัท Mitsubishi ได้จับมือกับบริษัท Phuc Khanh Construction and Investment Corporation เพื่อจัดตั้งบริษัท Phuch Khanh Mitsubishi Corporation Holdings (PKMC) ในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ในนครโฮจิมินห์ ด้วยงบประมาณรวมกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อาทิ โครงการ Diamond Lotus Riverside ในเขต 8 ที่จะใช้เทคโนโลยี LEED (Leadership in energy and environmental design)

นาย Su Ngoc Anh ผู้อำนวยการสำนักงานการวางแผนและการลงทุน นครโฮจิมินห์ กล่าวว่า มูลค่าการลงทุน FDI ภาคอสังหาริมทรัพย์ในนครโฮจิมินห์ในปี 2561 จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากหลายปัจจัย อาทิ สิทธิประโยชน์ในการลงทุน กฎหมายสนับสนุนการลงทุนที่ได้รับการแก้ไข แพล็ทฟอร์มออนไลน์ในการยื่นจดทะเบียนการลงทุน การเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้โดยง่าย ตลอดจนความต้องการที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบัน ยังมีโครงการอสังหาริมทรัพย์อีกกว่า 500 โครงการรอให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โครงการต่างๆ ในพื้นที่ Thu Thiem New Urban Area และ Phu My Hung township

นาย Troy Griffiths รองผู้จัดการบริษัท Savills สาขาเวียดนาม เชื่อมั่นว่า นักลงทุนต่างชาติล้วนเห็นศักยภาพในการลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์ในนครโฮจิมินห์ เนื่องจากการพัฒนาอย่างรวดเร็วของสภาพเศรษฐกิจภายในตัวเมือง การพัฒนาตัวเมือง และการเติบโตของคนรุ่นใหม่และชนชั้นกลาง

ที่มา สำนักข่าว Vietnamnet วันที่ 6 มีนาคม 2561

URL: http://english.vietnamnet.vn/fms/business/196632/hcm-city-anticipates-increasing-foreign-capital-inflows.html

 

2. รถไฟความเร็วสูงนครโฮจิมินห์ – นครเกิ่นเทอจะเริ่มก่อสร้างได้ในปลายปี 2561

ในวันที่ 7 มีนาคม 2561 สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีภาคใต้ เปิดเผยว่า สถาบันฯ ได้ทำการวิจัยและศึกษาโครงการก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูงนครโฮจิมินห์ – นครเกิ่นเทอแล้วเสร็จหลังจากใช้เวลากว่า 5 ปี ซึ่งตัวแทนของจังหวัดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องต่างเห็นด้วยกับโครงการพัฒนาทางรถไฟดังกล่าว โดยทางรถไฟมีเส้นทางผ่านนครโฮจิมินห์ จังหวัดลองอาน จังหวัดเตี่ยนยาง จังหวัดหวิงลอง และนครเกิ่นเทอ และจะใช้ควบคู่ไปกับทางด่วนนครโฮจิมินห์ – อำเภอ Trung Luong (จังหวัดเตี่ยนยาง) – อำเภอ My Thuan (จังหวัดหวิงลอง)

โครงการทางรถไฟความเร็วสูงนครโฮจิมินห์ – นครเกิ่นเทอจะใช้ระบบรางคู่ซึ่งมีความกว้าง 1,435 มิลลิเมตร เหมือนกับเส้นทางรถไฟความเร็วสูงสายต่างๆ ทั่วโลก โดยสถาบันฯ ได้ร่วมมือกับกองทุนพัฒนาจากต่างประเทศกว่า 15 กองทุน ซึ่งในเดือนกุมภาพันธ์ 2561 ที่ผ่านมา ได้เลือกกองทุน Morfund ประเทศแคนาดาเป็นผู้พัฒนาร่วมในลักษณะการลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (Public Private Partnership: PPP) และได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจร่วม (MOU) ในการพัฒนาโครงการดังกล่าว มูลค่ากว่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแคนาดาได้มีหนังสือถึงประธานคณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์ แจ้งความคาดหวังในการร่วมกันพัฒนาโครงการดังกล่าวว่าจะสามารถพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของภาคใต้ของเวียดนามได้เป็นอย่างมาก และประเทศแคนาดาพร้อมที่จะให้การสนับสนุนในด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม เครื่องมือที่ใช้ในการก่อสร้าง ตลอดจนเงินทุน

คาดการณ์ว่า สถาบันฯ จะรีบส่งรายงานฉบับสมบูรณ์ให้กระทรวงคมนาคม นายกรัฐมนตรี และรัฐสภาพิจารณาอนุมัติการลงทุนในโครงการดังกล่าว เพื่อให้สามารถเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ในปลายปีนี้

ที่มา หนังสือพิมพ์ Tuoi Tre วันที่ 7 มีนาคม 2561 หน้า 7

 

3. นครโฮจิมินห์มีค่าเงินเดือนเฉลี่ยสูงที่สุดในประเทศ

รายงานเกี่ยวกับฐานเงินเดือนประจำปี 2560 ของเว็บไซต์ VietnamWorks เว็บไซต์หางานที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศ และได้รวบรวมข้อมูลการสมัครงานและฐานเงินเดือนตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม - 31 ธันวาคม ปี 2560 ชี้ให้เห็นว่า แรงงานในนครโฮจิมินห์มีค่าเฉลี่ยเงินเดือนสูงที่สุดในประเทศและสูงกว่าค่าเฉลี่ยของทั้งประเทศกว่าร้อยละ 38

เงินเดือนเฉลี่ยของแรงงานในนครโฮจิมินห์อยู่ที่ 456 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเงินเดือนเฉลี่ยของทั้งประเทศอยู่ที่ 285 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เมืองหลวงของประเทศอย่างกรุงฮานอยมีเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 407 ดอลลาร์สหรัฐ อยู่เพียงอันดับที่ 5 เท่านั้น ส่วนนครดานังมีค่าเฉลี่ยเงินเดือนมากที่สุดเป็นอันดับ 2 อยู่ที่ 452 ดอลลาร์สหรัฐ ตามมาด้วยจังหวัดบิ่นห์เยือง และจังหวัดบั๊กนิง ที่ค่าเฉลี่ยเงินเดือนอยู่ที่ 444 ดอลลาร์สหรัฐ และ 421 ดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งผู้บริหารของนครดานังกลับได้รับเงินเดือนน้อยกว่าจังหวัดอื่นๆ โดยบริษัทต่างๆ ในนคร    โฮจิมินห์ กรุงฮานอย จังหวัดบิ่นห์เยือง และจังหวัดกว๋างนิงห์ จะให้เงินเดือนกับผู้บริหารประมาณ 1,000 - 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ผู้บริหารของนครดานังได้รับเงินเดือนเพียง 701 - 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ เท่านั้น

ที่มา สำนักข่าว Zing,vn วันที่ 6 มีนาคม 2561

URL: https://news.zing.vn/nguoi-lao-dong-o-tphcm-nhan-luong-cao-nhat-binh-quan-120-trieunam-post823824.html

 

4. การแข่งขันธุรกิจ Startup ในภูมิภาคแม่น้ำโขงต้องการนวัตกรรมใหม่

การแข่งขัน Startup ในภูมิภาคแม่น้ำโขงครั้งที่สองจะจัดขึ้นที่นครเกิ่นเทอ ระหว่างเดือนเมษายนถึงเดือนพฤศจิกายน 2561 โดยจะพิจารณาจากนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ เป็นอันดับแรก

นาง Nguyen Thi Thuong Linh รองผู้อำนวยการหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนาม สาขานครเกิ่นเทอ (Vietnam Chamber of Commerce and Industry : VCCI) กล่าวว่า ในการแข่งขันปีที่แล้ว แม้ว่าจะมีโครงการธุรกิจ Startup ส่งเข้ามาแข่งขันกว่า 100 โครงการ แต่โครงการเหล่านั้นกลับมีแผนการพัฒนาคล้ายคลึงกัน อาทิ การแก้ไขปัญหาทางธุรกิจ การเกษตร การผลิต การกระจายสินค้าและงานฝีมือ ซึ่งในการแข่งขันปีนี้ผู้จัดงานต้องการที่จะดึงดูดธุรกิจประเภทอื่น ๆ ให้มาเข้าร่วมการแข่งขันด้วย

นาง Linh กล่าวเสริมว่า ผู้เข้าร่วมแข่งขันโครงการ Startup ในปีที่ผ่านมามุ่งเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาทางธุรกิจ และคว้าโอกาสทางธุรกิจด้านการผลิตและการค้าทั่วไป จึงไม่เป็นไปตามเป้าหมายของการแข่งขันที่ต้องการธุรกิจ Startup ที่มีนวัตกรรมและมีความคิดสร้างสรรค์ ในขณะที่ผู้เข้าแข่งในภาคการเกษตรสนใจแต่เพียงเรื่องอาหารทะเล ผักปลอดสารพิษ และปศุสัตว์

นอกจากนั้น นาย Nguyen Phuong Lam รองผู้อำนวยการ VCCI สาขานครเกิ่นเทอ เน้นย้ำเรื่องวัตถุประสงค์ของการแข่งขันในปีนี้ คือ ธุรกิจ Startup ที่มีนวัตกรรมและมีความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งธุรกิจที่มีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาปรับใช้จะสามารถเพิ่มมูลค่าให้แก่ธุรกิจได้ ตลอดจนพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ โดยผู้เข้าร่วมควรมีความรู้พื้นฐานในการเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ

ทั้งนี้ นาย Lam ยังฝากไปถึงภาคการศึกษาของประเทศว่า สถาบันการศึกษาต่างๆ ควรเพิ่มกิจกรรมภาคปฏิบัติให้มากขึ้น ที่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจของพื้นที่นั้นๆ และให้ความรู้ด้านเทคโนโลยีเพิ่มเติมด้วย

ที่มา หนังสือพิมพ์ The Saigon Times Daily วันที่ 7 มีนาคม 2561 หน้า 2