ข่าวเด่นวันที่ 26-27 มีนาคม 2561

ข่าวเด่นวันที่ 26-27 มีนาคม 2561

วันที่นำเข้าข้อมูล 27 มี.ค. 2561

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565

| 931 view

ข่าวเด่นวันที่ 26-27 มีนาคม 2561

1. นครโฮจิมินห์กับการยกระดับเข้าสู่ยุค Smart City

ในช่วงที่ผ่านมา คณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์ได้ประชุมร่วมกันกับหน่วยงานต่างๆ ในนครเพื่อดำเนินการพัฒนาโครงการ Smart City โดยจะเริ่มต้นโครงการนำร่องในเขต 1 เขต 12 และ Thu Thiem ในเขต 2 ตลอดจนพัฒนาศูนย์ควบคุมระบบ Smart City จำนวน 4 ศูนย์สารสนเทศ ซึ่งประกอบด้วย ศูนย์การพยากรณ์ ศูนย์การบริหารจัดการ ศูนย์การรักษาข้อมูล และศูนย์การกระจายข้อมูล ในนครโฮจิมินห์ เพื่อก้าวไปสู่เมืองแห่งเทคโนโลยีชั้นนำของประเทศภายในปี 2560-2563 และกำหนดวิสัยทัศน์การดำเนินโครงการต่อเนื่องไปจนถึงปี 2568

นาย Duong Anh Duc ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลและการประชาสัมพันธ์นครโฮจิมินห์ กล่าวว่า มีการดำเนินโครงการนำร่องดังกล่าวในบางพื้นที่แล้ว เช่น เขต 1 และเขต 12 และปัจจุบัน สำนักงานการวางแผนและการลงทุนกำลังเรียกร้องให้ภาคเอกชนที่สนใจเข้ามาลงทุนในโครงการต่างๆ ซึ่งคณะกรรมการผู้บริหารนิคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ Quang Trung ประกาศให้การสนับสนุนการพัฒนาศูนย์ดังกล่าว

นอกจากนั้น นาย Nguyen Thien Nhan เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์นครโฮจิมินห์ กล่าวระหว่างการหารือว่า นครโฮจิมินห์จะมีการพัฒนาเมืองแห่งเทคโนโลยีในเขต 9 และเขต Thu Duc ให้กลายเป็นเมืองแห่งนวัตกรรมด้านเทคโนโลยี (Smart Innovative City) รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกและโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศต่างๆ โดยให้คำขวัญว่า “เติบโตจากจุดเล็กๆ ไปสู่ศูนย์กลางการพัฒนาเทคโนโลยีของเมืองที่ทันสมัย”

ปัจจุบัน พื้นที่ในเขต 9 ของนครโฮจิมินห์ มีความพร้อมในการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ เนื่องจากเป็นที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรม Saigon Hi-Tech Park ซึ่งครอบคลุมพื้นที่กว่า 700 เฮกตาร์ มีมูลค่าการลงทุนกว่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีจำนวนแรงงานกว่า 36,000 คน ในขณะที่เขต Thu Duc มีสถาบันด้านการศึกษารวมมหาวิทยาลัยกว่า 12 แห่ง นอกจากนี้ พื้นที่ในเขต 2 และเขต 9 และเขต Thu Duc ซึ่งตั้งอยู่บริเวณทิศตะวันออกของนครโฮจิมินห์ ยังมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการคมนาคมที่ทันสมัยจำนวนหลายโครงการ เหมาะสมกับการต่อยอดการพัฒนาโครงการอื่นๆ ต่อไป

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2561 สำนักงานคณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์ได้ประกาศรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนการดำเนินโครงการศูนย์สารสนเทศว่าจะตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมซอฟท์แวร์ Quang Trung และจะแล้วเสร็จภายในปลายปี 2561 ซึ่งเงินลงทุนจะมาจากการร่วมทุนของบริษัทเอกชนและรัฐบาลนครโฮจิมินห์

ที่มา สำนักข่าว Cafebiz วันที่ 22 มีนาคม 2561

URL: http://cafebiz.vn/xay-dung-thanh-pho-thong-minh-kha-thi-hay-khong-20180322112639631.chn

 

2. ทุ่มทุนพัฒนา Danang Silicon City มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

นาย Doan Ngoc Hung Anh รองประธานคณะกรรมการบริหารของนิคมอุตสาหกรรม Danang Hi-tech Park (DHTP) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ นิคมฯ ได้ต้อนรับกลุ่มนักลงทุนที่ลงทุนในโครงการ Saigon Silicon City ในนครโฮจิมินห์ โดยกลุ่มนักลงทุนมีแผนที่จะพัฒนาโครงการที่คล้ายคลึงกัน ที่นครดานัง ซึ่งเรียกว่า Danang Silicon City มีพื้นกว่า 70 เฮกตาร์และใช้เงินลงทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในบริเวณนิคมอุตสาหกรรม Danang Hi-tech Park ซึ่งหากนักลงทุนพร้อมก็สามารถเริ่มลงทุนได้ทันที และเมื่อโครงการฯ แล้วเสร็จ คาดว่าจะช่วยดึงดูดโครงการลงทุนทั้งในและต่างประเทศด้านอิเล็กทรอนิกส์ ซอฟท์แวร์ นาโนเทคโนโลยี และเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม ให้เข้ามาลงทุนในจังหวัดได้เป็นอย่างมาก

นาย Nguyen Minh Hieu ประธานบริษัท Saigon Silicon City ซึ่งเป็นผู้ร่วมลงทุนในโครงการ Saigon Silicon City ซึ่งมีพื้นที่ทั้งหมด 52 เฮกตาร์ในบริเวณนิคมอุตสาหกรรม Saigon Hi-tech Park และจำลองโครงการมาจากโครงการ Silicon Valley ในสหรัฐอเมริกา ในนครโฮจิมินห์ กล่าวว่าโครงการ Danang Silicon City จะสามารถดึงดูดนักลงทุนกว่า 20 ราย โดยจะเริ่มก่อตั้งภายในปี 2563

ปัจจุบัน นิคมอุตสาหกรรม DHTP มีพื้นที่กว่า 1,100 เฮกตาร์ และมีโครงการลงทุนมูลค่ารวมทั้งสิ้น 388.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2561 ที่ผ่านมา คณะกรรมการบริหาร DHTP ได้ให้อนุญาตโครงการลงทุนจำนวน 10 โครงการมูลค่ารวมกว่า 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งในจำนวนนั้น 3 โครงการเป็นการลงทุนจากนักลงทุนสัญชาติญี่ปุ่นและอีก 7 โครงการเป็นการลงทุนของนักลงทุนภายในประเทศ

ทั้งนี้ นิคมอุตสาหกรรม DHTP เป็นหนึ่งในสามของศูนย์เทคโนโลยีไฮเทคในประเทศเวียดนาม โดยหากโครงการใดมีมูลค่าการลงทุนมากกว่า 131.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จะได้รับสิทธิประโยชน์ในการลงทุน อาทิ การลดภาษีนิติบุคคลร้อยละ 10 ภายในระยะเวลา 30 ปี

นอกจากนั้น ไม่นานมานี้ สถานเอกอัครราชทูตฟินแลนด์ประจำประเทศเวียดนามได้หารือกับคณะกรรมการประชาชนนครดานังในการร่วมมือกันพัฒนาโครงการ Smart City ในตัวเมืองนครดานัง โดยผู้เชี่ยวชาญจากฟินแลนด์ได้แนะนำแนวทางการพัฒนา 6 ประการ ได้แก่ (1) การดูแลความมั่นคง/ความปลอดภัยของประชาชน (2) การพัฒนา E-Government (3) การพัฒนาการศึกษา (4) การพัฒนาระบบสาธารณสุข (5) การพัฒนาการคมนาคมขนส่ง และ (6) การยกระดับการท่องเที่ยว

นาย Nguyen Quang Thanh ผู้อำนวยการสำนักงานสารสนเทศและสื่อสารนครดานัง กล่าวเห็นด้วยกับคำแนะนำข้างต้น และกล่าวเสริมว่า นครดานังเริ่มดำเนินงานโครงการ Smart City ตั้งแต่ปี 2546 ซึ่งได้เรียนรู้จากหลายประเทศรวมถึงประเทศฟินแลนด์ด้วย ทั้งนี้ ปัจจุบัน นครดานังกำลังเผชิญอยู่บนความท้าทายมากมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านเศรษฐกิจและเงินทุน เนื่องจากนครดานังยังคงเป็นนครที่มีรายได้ปานกลางในขณะที่การพัฒนาสู่ Smart City ต้องอาศัยเงินทุนจำนวนมาก

ที่มา สำนักข่าว Xay Dung วันที่ 22 มีนาคม 2561

URL: http://www.baoxaydung.com.vn/news/vn/xa-hoi/phan-lan-ho-tro-da-nang-xay-dung-thanh-pho-thong-minh.html

 

3. บริษัทในจังหวัดบริเวณภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงมีผลการประกอบการที่ดีในปี 2560

จากการสำรวจของหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งประเทศเวียดนาม สาขานครเกิ่นเทอ ระบุว่า บริษัทที่ดำเนินธุรกิจในภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงมีผลการประกอบธุรกิจที่ดีขึ้น โดยมีรายได้และกำไรที่สูงขึ้นในปี 2560  ซึ่งบริษัทที่ร่วมตอบแบบสำรวจกว่าร้อยละ 38.9 มีผลประกอบการที่ดีขึ้น เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 6.8 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และบริษัทร้อยละ 47.2 มีการดำเนินงานที่มั่นคง

นอกจากนั้น บริษัทที่ตอบแบบสำรวจ กว่าร้อยละ 63.9  มีรายได้ที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 20.5 เมื่อเทียบกับปี 2559 ในขณะที่ธุรกิจที่มีผลกำไรเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 57.1  ซึ่งส่งผลให้การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในภูมิภาค (GDRP) ในปี 2560 เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.6 สูงกว่า GDP ของประเทศที่มีอัตราการเติบโตร้อยละ 6.81 และมีจำนวนผู้ประกอบการรายใหม่กว่า 8,994 ราย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่าร้อยละ 7 ของทั้งประเทศ ตามหลังภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศที่มีผู้ประกอบการรายใหม่ 53,698 ราย ภาคเหนือบริเวณแม่น้ำแดง 38,075 ราย และภาคกลางฝั่งทะเลและตอนเหนือ 17,556 ราย

การสำรวจชี้ให้เห็นว่า การเติบโตที่สูงขึ้นของบริษัทในภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงเป็นผลมาจากการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ การฝึกอบรมพนักงาน การปรับโครงสร้างเครื่องจักรการพึ่งพาวัสดุและการบริโภคที่มีเสถียรภาพรวมไปถึงการปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์

อย่างไรก็ตาม บริษัทต่างๆ ยังต้องเผชิญกับความท้าทายในปีนี้ อาทิ ปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบด้านการประมง เนื่องจากผลกระทบการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อัตราการแข่งขันที่สูงขึ้นในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน และการไม่สามารถควบคุมการนำเข้าสินค้าอย่างผิดกฎหมายได้

นอกจากนั้น ทุกๆ บริษัทควรให้ความสำคัญกับนโยบายปฎิวัติอุตสาหกรรม 4.0 การฝึกอบรมพนักงานให้มีทักษะการทำงานที่ดี การบริหารกิจการ การสร้างผลิตภัณฑ์และการจัดการเครื่องหมายการค้าและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ เนื่องจากข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (Comprehensive and Progressive Agreement for Trans-Pacific Partnership : CPTPP) จะมีผลบังคับใช้ในปีนี้

ทั้งนี้ เมื่อเร็วๆ นี้ มีรายงานว่าบริษัทท้องถิ่นในนครเกิ่นเทอ บริเวณภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงประสบความสำเร็จในการผลิตทรายสะอาด ซึ่งถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญ เพราะจะสามารถแก้ไขปัญหาการขาดแคลนทรายที่สะอาดเพื่อการก่อสร้างได้ ตลอดจนสามารถลดการใช้ปูนซีเมนต์ได้ร้อยละ 10-17 โดยมีผลการทดลองที่ได้รับการยอมรับจากศูนย์ Can Tho Technical Center และศูนย์ The South Vietnam Institute ซึ่งได้ทำการวิเคราะห์ตัวอย่างทราย บริเวณอ่าว Ka Long (จังหวักว๋างนิงห์) และพบว่าความเค็มของทรายลดลง

ที่มา สำนักข่าว Vietnamplus วันที่ 19 มีนาคม 2561

URL: https://en.vietnamplus.vn/firms-in-mekong-delta-perform-well-in-2017/128120.vnp

 

4. บริษัทสัญชาติเบลเยี่ยมเล็งเห็นศักยภาพในการพัฒนาท่าเรือบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง

ตัวแทนกระทรวงคมนาคมและการขนส่งรายงานว่า บริษัท Rent-A-Port บริษัทที่ลงทุนด้านวิศวกรรมและท่าเรือสัญชาติเบลเยี่ยม กำลังสนใจร่วมลงทุนในโครงการก่อสร้างการท่าเรือและช่องทางคมนาคมทางน้ำในบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง

ตัวแทนบริษัท Rent-A-Port กล่าวอย่างมั่นใจว่า ด้วยประสบการณ์ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางน้ำของบริษัทฯ มีความสนใจจะเข้าร่วมโครงการการก่อสร้างท่าเรือและช่องทางการคมนาคมน้ำบริเวณภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง ซึ่งโครงการดังกล่าวจะสามารถเพิ่มศักยภาพในการขนส่งสินค้าประเภทเกษตรกรรมทางน้ำได้มากขึ้น

บริษัท Rent-A-Port เห็นว่า สินค้าประเภทผักและผลไม้ที่มาจากสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงจำนวนเกือบทั้งหมดสามารถส่งขายที่ประเทศกาตาร์และประเทศโอมานได้ด้วยตู้บรรจุสินค้าเย็น ดังนั้น บริษัทฯ คาดหวังให้กระทรวงคมนาคมและการขนส่งผลักดันโครงการการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางน้ำที่จะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยเหลือผู้ประกอบการส่งออกสินค้าเกษตรกรรมจากภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง

นาย Nguyen Van The รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและการขนส่งกล่าวว่า การพัฒนาการขนส่งทางน้ำสำหรับสินค้าประเภทผักและผลไม้สู่ตลาดประเทศตะวันออกกลางตรงจากนครเกิ่นเทอจะช่วยลดการจราจรติดขัดในบริเวณท่าเรือนครโฮจิมินห์ และค่าโลจิสติกส์ทางบก

อย่างไรก็ตาม กระทรวงคมนาคมและการขนส่งต้องการให้บริษัท Rent-A-Port เสนอแผนการดำเนินการพัฒนาท่าเรือรวมถึงโครงการขุดลอกแม่น้ำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างละเอียดก่อน รวมถึงการวิจัยผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยกระทรวงฯ อาจจะพิจารณาบรรจุโครงการในแผนการพัฒนาท่าเรือสากลของประเทศในอนาคต

ที่มา หนังสือพิมพ์ The Saigon Times Daily วันที่ 21 มีนาคม 2561 หน้า 2