ข่าวเด่นวันที่ 18 - 19 เมษายน 2561

ข่าวเด่นวันที่ 18 - 19 เมษายน 2561

วันที่นำเข้าข้อมูล 19 เม.ย. 2561

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565

| 1,209 view

ข่าวเด่นวันที่ 18 – 19 เมษายน 2561

1. ธุรกิจร้านสะดวกซื้อขนาดเล็กจากต่างประเทศประสบความสำเร็จในนครโฮจิมินห์

บริษัท Jones Lang Lasalle (JLL) บริษัทอสังหาริมทรัพย์และวิเคราะห์การตลาดชื่อดังของโลก รายงานข้อมูลตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศเวียดนามว่า จำนวนร้านสะดวกซื้อขนาดเล็กในนครโฮจิมินห์ในไตรมาสแรกของปี 2561 เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.1 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า มีจำนวนมากกว่า 1,800 แห่ง และมีพื้นที่ทั้งหมดกว่า 270,000 ตารางเมตร ในนครโฮจิมินห์ ทั้งนี้ ภายในปี 2564 ธุรกิจร้านสะดวกซื้อขนาดเล็กในประเทศเวียดนามจะมีการเจริญเติบโตที่รวดเร็วที่สุดในกลุ่มประเทศแถบเอเชีย

ตัวแทนบริษัท JLL คาดการณ์ว่า ร้านค้าสะดวกซื้อขนาดเล็กในนครโฮจิมินห์จะเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมหาศาลในอนาคตอันใกล้ เพื่อรองรับความต้องการของประชากรภายในนครโฮจิมินห์ที่มีจำนวนกว่า 13 ล้านคน และนักท่องเที่ยวกว่า 6 ล้านคน/ปี

นอกจากนั้น เมื่อเร็วๆ นี้ องค์กรวิจัยร้านค้าปลีกสากล (International Grocery Research Organization: IGD) เปิดเผยว่า ธุรกิจร้านสะดวกซื้อขนาดเล็กในประเทศเวียดนามมีอัตราการเจริญเติบโตรวดเร็วที่สุดในกลุ่มประเทศเอเชีย โดยเติบโตขึ้นร้อยละ 37.4/ปี และคาดการณ์ว่า อัตราการเจริญเติบโตในภาคธุรกิจดังกล่าวในประเทศเวียดนาม ประเทศฟิลิปปินส์ และประเทศอินโดนีเซียจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าภายใน 4 ปีข้างหน้า

นาย Nick Miles ประธาน IGD สาขาเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า ร้านสะดวกซื้อขนาดเล็กในประเทศเวียดนามได้รับความนิยมจากผู้บริโภคยุคใหม่อย่างมาก เนื่องจากมีบรรยากาศดี มีการจัดชั้นวางสินค้าอย่างเป็นระเบียบ สินค้ามีคุณภาพ มีบริเวณนั่งพักรับรอง และมีอินเตอร์เน็ตไวไฟคอยให้บริการด้วย นอกจากนั้น ขั้นตอนการลงทุนธุรกิจ    ร้านสะดวกซื้อขนาดเล็กในประเทศเวียดนามที่มีขนาดพื้นที่ไม่เกิน 500 เมตรสามารถทำได้ค่อนข้างง่าย

ร้านสะดวกซื้อขนาดเล็กส่วนใหญ่ในประเทศเวียดนามกว่าร้อยละ 70  เป็นการลงทุนโดยตรงของต่างชาติ อาทิ ร้าน Circle K จากประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีสาขามากกว่า 250 สาขากระจายอยู่ทั่วนครโฮจิมินห์และบางส่วนในกรุงฮานอย ร้าน Famliy Mart จากประเทศญี่ปุ่น มีจำนวนกว่า 130 สาขาในนครโฮจิมินห์และจังหวัดใกล้เคียง อาทิ จังหวัดบ่าเหรี่ยะ-หวุงเต่า และจังหวัดบินห์เยือง และร้าน B’s mart จากประเทศไทยที่มีจำนวนกว่า 300 สาขาในนครโฮจิมินห์ อย่างไรก็ดี ร้านสะดวกซื้อที่ยังครองส่วนแบ่งทางการตลาดมากที่สุดยังคงเป็นร้าน Vinmart  จากกลุ่มบริษัท Vingroup ของเวียดนาม ซึ่งมีจำนวนกว่า 700 สาขา

นอกจากนั้น มีรายงานเพิ่มเติมว่า นาย Cho Byung Hyun ประธานแผนกจัดซื้อของร้านสะดวกซื้อ GS25 ร้านสะดวกซื้อชื่อดังสัญชาติเกาหลีใต้ที่มีสาขาอยู่ในเกาหลีใต้กว่า 12,000 สาขา ได้ให้คำมั่นว่า ตนจะพยายามนำสินค้าที่มีคุณภาพของเวียดนาม อาทิ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป Vifon กาแฟ Trung Nguyen และ Highlands ไปขายในร้านสะดวกซื้อ GS25 ในสาขาเกาหลีใต้ให้มากขึ้น เพื่อส่งเสริมการค้าระหว่างสองประเทศ และสร้างช่องทางการตลาดให้กับสินค้าเวียดนาม

ปัจจุบัน ร้านสะดวกซื้อ GS25 มีสาขาอยู่ในนครโฮจิมินห์จำนวน 5 สาขา และมีแผนจะขยายเพิ่มให้ได้ 50 สาขาภายในปี 2561 และในอีก 10 ปีข้างหน้าจะขยายให้มีจำนวนถึง 2,500 สาขาทั่วประเทศเวียดนาม

ที่มา: หนังสือพิมพ์ VNExpress วันที่ 15 เมษายน 2561

https://kinhdoanh.vnexpress.net/tin-tuc/doanh-nghiep/cua-hang-tien-loi-ke-dong-nguoi-mo-3736375.html

 

2. เงินโอนกลับประเทศมายังนครโฮจิมินห์มีมูลค่าถึง 1.12 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2561 เงินโอนกลับประเทศมายังนครโฮจิมินห์มีมูลค่าถึง 1.12 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 4.5 โดยเงินโอนกลับประเทศมายังนครโฮจิมินห์กว่าร้อยละ 50 มาจากประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดา และออสเตรเลีย แสดงให้เห็นว่า ความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ และอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นระหว่างค่าเงินด่งและดอลลาร์สหรัฐไม่ได้ส่งผลต่อการโอนเงินกลับมายังนครโฮจิมินห์

อย่างไรก็ดี ศูนย์ข้อมูลเศรษฐกิจ สังคม และการพยากรณ์ ภายใต้กระทรวงการวางแผนและการลงทุน กล่าวว่า  เงินโอนกลับประเทศของชาวเวียดนามอพยพจะเผชิญแรงกดดันจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และกระแสไหลเข้าของการลงทุนต่างประเทศมายังประเทศเวียดนาม

จากรายงานของธนาคารแห่งชาติเวียดนาม สาขานครโฮจิมินห์ ชี้ให้เห็นว่า ในปี 2560 เงินโอนกลับประเทศมายังนครโฮจิมินห์มีมูลค่าถึง 5.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.5 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า

หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจมหภาคของประเทศเวียดนามจะยังคงมีเสถียรภาพในปี 2561 โดย GDP จะเติบโตอยู่ระหว่างร้อยละ 6.5 ถึงร้อยละ 6.8 และมีอัตราเงินเฟ้อต่ำกว่าร้อยละ 4 ในขณะที่ ธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank: ADB) คาดการณ์ว่า GDP ของเวียดนามจะเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 6.8 ในปี 2560 เป็นร้อยละ 7.1 ในปี 2561

ที่มา: สำนักข่าว Vietnam Breaking News วันที่ 9 เมษายน 2561

https://www.vietnambreakingnews.com/2018/04/first-quarter-overseas-remittances-to-hcm-city-hit-usd1-12-billion/

 

3. ราคาค่าเช่าพื้นที่สำนักงานและห้องพักปรับในนครโฮจิมินห์ตัวสูงขึ้น

จากรายงานของบริษัทสำรวจการตลาดหลายในเวียดนามชี้ให้เห็นว่า ในไตรมาสแรกของปี 2561 ความต้องการอาคารสำนักงานในนครโฮจิมินห์เพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่ พื้นที่ว่างให้เช่าไม่เพียงพอต่อความต้องการ นอกจากนั้น ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ไม่มีอาคารสำนักงานให้เช่าประเภทเกรด A และ B ใหม่เปิดให้บริการ จึงส่งผลให้ค่าเช่าอาคารสำนักงานในนครโฮจิมินห์สูงขึ้นเล็กน้อย

ตัวแทนบริษัท CBRE สาขาเวียดนาม บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังของโลก กล่าวว่า ค่าเช่าอาคารสำนักงานประเภทเกรด A มีมูลค่า 39.71 ดอลลาร์สหรัฐ/ตารางเมตร และอาคารสำนักงานประเภทเกรด B มีมูลค่า 22.35 ดอลลาร์สหรัฐ/ตารางเมตร เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ร้อยละ 7.4 และร้อยละ 1.8 ตามลำดับ

บริษัท Cushman & Wakefield บริษัทวิจัยการตลาดชื่อดังของโลกเปิดเผยว่า ในไตรมาสแรกของปี 2561 อาคารสำนักงานให้เช่าประเภทเกรด B มีจำนวนผู้เช่าแล้วกว่าร้อยละ 80 ซึ่งส่วนมากอยู่ในเขต 1 ของนครโฮจิมินห์

ทั้งนี้ เนื่องจากพื้นที่การก่อสร้างอาคารสำนักงานให้เช่าใหม่ๆ มีจำกัดในเขตตัวเมือง และยังมีการคาดการณ์ว่าค่าเช่าอาคารสำนักงานมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องในระยะสั้นและระยะกลาง อันเนื่องมาจากการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดด และการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติจำนวนมากในนครโฮจิมินห์ ส่งผลให้อาคารใหม่ตั้งราคาค่าเช่าไว้สูง และอาคารเดิมก็ปรับค่าเช่าให้สูงขึ้นเช่นกัน

นอกจากนั้น ตัวแทนบริษัทอสังหาริมทรัพย์ Savills สาขาเวียดนาม กล่าวว่า อัตราการเข้าพักเฉลี่ยของโรงแรม  ในนครโฮจิมินห์ในไตรมาสแรกอยู่ที่ร้อยละ 74 เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2560  และค่าห้องพักเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 83 ดอลลาร์สหรัฐต่อคืน

โรงแรมระดับ 3 ดาวถึงระดับ 5 ดาวในนครโฮจิมินห์มีผลการดำเนินงานที่ดีในช่วงไตรมาสแรกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเดือนมีนาคมมีอัตราการเข้าพักพักสูงกว่าที่คาดไว้และในบางโรงแรมมีการเข้าพักของนักท่องเที่ยวเต็มตลอดทั้งเดือน

นาย Lam Quang Huy รองผู้อำนวยการโรงแรม Grand Hotel Saigon กล่าวว่า อัตรานักท่องเที่ยวเข้ามาพักที่โรงแรมในเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม 2561 อยู่ที่ร้อยละ 92 สูงสุดในรอบ 3 ปี และแม้ว่าในเดือนเมษายนจะอยู่ในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวของนครโฮจิมินห์ แต่อัตราการเข้าพักในเดือนนี้อาจจะสูงถึงร้อยละ 75 ถึงร้อยละ 85

ตัวแทนของโรงแรม Rex Hotel โรงแรมระดับ 5 ดาวแห่งแรกในนครโฮจิมินห์ กล่าวว่า อัตราการเข้าพักในไตรมาสแรกอยู่ที่ร้อยละ 89 ในขณะที่การเข้าพักไตรมาสแรกของปี 2560 อยู่ที่ร้อยละ 84

ตัวแทนสำนักงานการท่องเที่ยวนครโฮจิมินห์กล่าวว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2561 มีนักท่องเที่ยวกว่า 2 ล้านคนเดินทางมายังนครโฮจิมินห์ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 16 และคาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนนครโฮจิมินห์ประมาณ 7.5 ล้านคนในปี 2561

ที่มา : หนังสือพิมพ์ Saigon Times Daily วันที่ 17 เมษายน 2561 หน้า 2

 

4. นายกรัฐมนตรีอนุมัติแผนการขยายท่าอากาศยานนานาชาติ Tan Son Nhat นครโฮจิมินห์

นาย Nguyen Xuan Phuc นายกรัฐมนตรีเวียดนาม อนุมัติแผนการขยายท่าอากาศยานนานาชาติ Tan Son Nhat (TSN) ออกไปทางทิศใต้ ตามการวางแผนของบริษัท ADPi ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความชำนาญด้านสถาปัตยกรรมและสนามบินของฝรั่งเศส เพื่อรับรองผู้โดยสารและยังสามารถรักษาสนามกอล์ฟทางทิศเหนือ โดยจะใช้พื้นที่ในการขยายท่าอากาศยานนานาชาติกว่า 200,000 ตารางเมตรที่ติดกับอาคารผู้โดยสารทั้งภายในและนอกประเทศ สามารถรับรองผู้โดยสารได้อย่างน้อย 50 ล้านคนต่อปี โดยใช้เงินลงทุนในการขยายท่าอากาศยานนานาชาติ TSN ประมาณ 790 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

นอกจากนั้น พื้นที่ทางทิศเหนือของสนามบินนานาชาติที่ปัจจุบันเป็นสนามกอล์ฟพื้นที่กว่า 16 เฮกตาร์ ของกระทรวงกลาโหมยังไม่มีคำสั่งให้เปลี่ยนแปลงเป็นพื้นที่สนามบินจนถึงปี 2563

การขยายท่าอากาศยานฯ ออกไปทางทิศใต้จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายการเวนคืนที่ดิน ช่วยแก้ปัญหาความแออัดการจราจรทางอากาศ และเตรียมความพร้อมในการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกก่อนที่จะก่อสร้างในทิศเหนือของท่าอากาศยานฯ ที่มีความปลอดภัยสูงตามข้อบังคับขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ แต่หากขยายท่าอากาศยานฯ ออกไปทางทิศเหนือจะเพิ่มค่าใช้จ่ายการก่อสร้างขึ้นเป็นสองเท่า

นายกรัฐมนตรีได้ขอให้สำนักงานคมนาคมดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อให้การอนุมัติโครงการขยายอากาศยานฯ สามารถทำได้พร้อมกับแผนงานและโครงการอื่นที่เกี่ยวข้องรวมทั้งการจัดการแหล่งเงินทุนให้เป็นไปตามกฎระเบียบการบริหารงบประมาณ

นอกจากนั้น นาย Nguyen Dong รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า รัฐบาลเตรียมอัดฉีดงบประมาณ 197.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อเวนคืนที่ดินในโครงการพัฒนาท่าอากาศยานนานาชาติ Long Thanh ในจังหวัดด่งนาย ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในเดือนมิถุนายน 2563 ในขณะที่ การดำเนินงานในส่วนอื่น ๆ จะเริ่มขึ้นในปี 2564 ซึ่งคาดว่าการก่อสร้างระยะแรกของโครงการสนามบินจะแล้วเสร็จในปี 2568

อย่างไรก็ตาม นาย Do Tar Binh รองผู้อำนวยสถาบันการบินพลเรือนเวียดนาม (Airports Corporation of Vietnam: ACV) กล่าวว่า การดำเนินงานตามแผนการคงเป็นไปได้ยากเนื่องจากขาดงบประมาณในหลายๆ ส่วน จึงเสนอให้รัฐบาลเร่งอนุมัตินโยบายพิเศษเพื่อเร่งกระบวนการการก่อสร้างของโครงการขยายท่าอากาศยานนานาชาติ Long Thanh ให้เร็วที่สุด เนื่องจากมูลค่าการก่อสร้างอาจเพิ่มสูงขึ้นเป็นสองเท่าในอีก 5 ปีข้างหน้า (จาก 5.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเป็น 10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เช่นเดียวกับการขยายสนามบินนานาชาติ TNS

ที่มา หนังสือพิมพ์ Tuoi Tre วันที่ 16 เมษายน 2561

URL: https://tuoitre.vn/thu-tuong-su-dung-dat-ca-phia-nam-va-bac-san-bay-tan-son-nhat-20180416191500812.htm