ข่าวเด่นวันที่ 9 - 10 พฤษภาคม 2561

ข่าวเด่นวันที่ 9 - 10 พฤษภาคม 2561

วันที่นำเข้าข้อมูล 10 พ.ค. 2561

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 24 พ.ย. 2565

| 830 view

ข่าวเด่นวันที่ 9 - 10 พฤษภาคม 2561

1. บริษัท Sunseap International เตรียมพัฒนาโรงงานผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในจังหวัดนิ่งห์ถ่วน

บริษัท Sunseap International บริษัทในเครือบริษัท Sunseap Group ผู้นำด้านพลังงานสะอาดจากประเทศสิงคโปร์จะดำเนินการก่อสร้างโรงงานผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มูลค่า 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในกลางปี 2561 และจะสามารถเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือนมิถุนายน ปี 2562 โรงงานผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ดังกล่าวตั้งอยู่ที่จังหวัดนิ่งห์ถ่วน มีกำลังผลิตไฟฟ้าขนาด 168 เมกกะวัตต์ โดยปัจจุบัน บริษัทได้ดำเนินการเวนคืนที่ดินเรียบร้อยแล้ว

เมื่อโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จ จะสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าให้บ้านเรือนได้มากกว่า 200,000 หลังคาเรือนในประเทศเวียดนาม และสร้างงานให้กับคนในท้องถิ่นได้มากกว่า 200 ตำแหน่ง โดยบริษัทได้รับอนุญาตให้ขายกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้ในราคาหน่วยละ 9.35 เซ็นต์/กิโลวัตภายในอีก 20 ปีข้างหน้า

นาย Frank Phuan ผู้บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Sunseap International กล่าวว่า โครงการโรงงานผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของบริษัทในจังหวัดนิ่งห์ถ่วนเป็นโครงการที่มีมูลค่าการลงทุนมากที่สุดของบริษัท และสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบริษัทในการรักษาสิ่งแวดล้อมและการผลิตพลังงานสะอาดให้กับผู้ใช้ทั่วทวีปเอเชีย โดยคณะกรรมการประชาชนจังหวัดนินห์ถ่วนได้มอบใบอนุญาตการลงทุนโครงการบนพื้นที่กว่า 130 เฮกตาร์ในการพัฒนาโครงการระยะแรก และคาดว่าพื้นที่ที่เหลืออีก 56 เฮกตาร์ในการพัฒนาโครงการระยะที่สองจะได้รับการอนุมัติภายในเดือนพฤษภาคม 2561

นาย Frank Phuan กล่าวเสริมว่า โครงการนี้เปรียบเสมือนตัวอย่างของความร่วมมือระหว่างประเทศเวียดนามและสิงคโปร์ในการลงทุนด้านพลังงานทดแทน และแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจและการสนับสนุนที่ดีจากรัฐบาลเวียดนามในการพัฒนาด้านพลังงานทดแทนของชาติ

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 14 เมษายน บริษัท Sunseap International ได้ลงนามความร่วมมือกับบริษัท InfraCo Aisa Development และบริษัท CMX RE Canada เพื่อร่วมลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในจังหวัดนิ่งห์ถ่วน โดยบริษัท Sunseap International จะเป็นผู้ถือหุ้นหลัก

ที่มา สำนักข่าว Vietnam Investment Review วันที่ 4 พฤษภาคม 2561

URL: http://www.vir.com.vn/sunseap-solar-farm-to-be-kicked-off-in-mid-2018-58783.html

 

2. จังหวัดกว๋างนามเร่งพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกและโครงสร้างพื้นฐานเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยว

เมื่อเร็วๆ นี้ จังหวัดกว๋างนาม หนึ่งในจังหวัดที่โดดเด่นด้านการท่องเที่ยวในภาคกลางของเวียดนามซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองมรดกโลกฮอยอัน ปราสาทหินหมีเซิน และเกาะกู่ ล่าว จ่าม และยังมีพื้นที่ติดต่อกันกับนครดานัง ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของภูมิภาค ได้จัดการประชุมในหัวข้อการพัฒนาการท่องเที่ยว 2561 โดยมีเนื้อหาสำคัญในการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกและโครงสร้างพื้นฐานเพื่อยกระดับการท่องเที่ยวของจังหวัด

นาย Dinh Van Thu ประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดกว๋างนาม กล่าวว่า จังหวัดกว๋างนามมีแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลก และมีที่ตั้งที่มีศักยภาพในการพัฒนาการท่องเที่ยว โดยในปี 2560 จังหวัดสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ถึง 5.35 ล้านคน เพิ่มขึ้น 2.54 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเวลา 10 ปีก่อนหน้า มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 9.8/ปี นักท่องเที่ยวใช้เวลาท่องเที่ยวในจังหวัดกว่า 2.5 วัน/คน จังหวัดมีบุคลากรที่ให้บริการ/ทำงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวประมาณ 13,000 คน เพิ่มขึ้นกว่า 2.6 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเวลา 10 ปีก่อนหน้า หรือคิดเป็นกว่าร้อยละ 10.03/ปี และจังหวัดมีรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 9,200 พันล้านด่ง (ประมาณ 402 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้น 5.7 เท่าเมื่อเทียบกับช่วง 10 ปีก่อนหน้า

นาย Thu กล่าวเสริมว่า ในช่วงระยะเวลาหลายปีมานี้ จังหวัดและรัฐบาลได้ร่วมมือกันพัฒนาเมืองมรดกโลก Hoi An ให้มีชื่อเสียงและมีสิ่งอำนวยความสะดวกและโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวอย่างครบครัน และเป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวของจังหวัด โดยในปีนี้ จังหวัดจะเริ่มพัฒนาโครงการสะพาน Cau Dai เพื่อเชื่อมต่อกับสะพาน De Vong ทางทิศเหนือของเมือง มีความยาวประมาณ 4.2 กิโลเมตร และความกว้าง 12.5 เมตร เพื่อที่จะสามารถรองรับนักท่องเที่ยวให้สามารถสัญจรไปมาระหว่างนครดานัง – เมืองฮอยอันได้ดียิ่งขึ้น และคาดว่าจะแล้วเสร็จในระยะเวลา 2 ปี และจังหวัดจะเร่งยกระดับทางหลวงหมายเลข 1 และทางรถไฟสายเหนือ-ใต้ ให้สามารถเชื่อมต่อกับท่าเรือ Chu Lai และทางด่วนนครดานัง – จังหวัดกว๋างนามอีกด้วย

นอกจากนั้น เมื่อไม่นานมานี้ คณะกรรมการประชาชนจังหวัดกว๋างนามยังได้ให้ใบอนุญาตการลงทุนเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวของจังหวัด โครงการสำคัญๆ อาทิ โครงการ Vinpearl Land Hoi An Resort and Villa โดยกลุ่มบริษัท Vingroup ซึ่งได้รับการหมายมั่นว่าจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมาก

ที่มา สำนักข่าว VnEconomy วันที่ 3 พฤษภาคม 2561

URL: http://vneconomy.vn/quang-nam-day-manh-ha-tang-de-phat-trien-du-lich-2018050307595828.htm

 

3. จังหวัดในภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงจำเป็นต้องพัฒนาคุณภาพทรัพยากรมนุษย์เพื่อดึงดูดนักลงทุนให้มากขึ้น

นาย Dau Anh Tuan หัวหน้าฝ่ายกฎหมายของหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนาม สาขานครเกิ่นเทอ ให้การบรรยายในงานสัมมนา “Analysis of the 2017 PCI of the Mekong Delta and Lessons for management and reform” เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2561 ณ นครเกิ่นเทอ ว่า จังหวัดในภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงควรจะพัฒนาคุณภาพทรัพยากรมนุษย์เพื่อดึงดูดนักลงทุนให้มากขึ้น นอกจากนั้น ดัชนีความสามารถในการแข่งขันของจังหวัด (Provincial Competitiveness Index) ในภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงยังมีภาพรวมที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงระหว่างปี 2557 – 2560

ข้อได้เปรียบของภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงเหนือภูมิภาคอื่นๆ อาทิ ภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแดงทางภาคเหนือ ภาคเหนือเขตภูเขา ภาคกลางเขตภูเขา ภาคกลางเขตทะเล และภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ได้แก่ ทรัพยากรที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ค่าใช้จ่ายในการเริ่มต้นธุรกิจที่ถูกกว่า การสนับสนุนจากรัฐบาลท้องถิ่นที่ดีกว่า และขั้นตอนการดำเนินงานทางเอกสารไม่ยุ่งยาก อย่างไรก็ดี ภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงมีจุดด้อยคือการพัฒนาทักษะแรงงานที่ค่อนข้างต่ำ และการให้การสนับสนุนนักลงทุนจากภาครัฐยังมีอยู่จำกัด

นาย Tuan แนะนำเพิ่มเติมว่า โครงการฝึกฝนพัฒนาทักษะแรงงานที่ดีจะเป็นส่วนสำคัญในการดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะโครงการลงทุนที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ดังนั้น หน่วยงานต่างๆ ในภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงควรจะลงทุนพัฒนาโครงการดังกล่าวและควรมีอุปกรณ์เทคโนโลยีขั้นสูงประเภทต่างๆ ในการอบรมต่างๆ นอกจากนั้น ภาครัฐควรเร่งพัฒนาบริการสนับสนุนนักลงทุน อาทิ กิจกรรม Business Connectivity กิจกรรมส่งเสริมเทคโนโลยี กิจกรรมการให้คำปรึกษาทางนโยบาย และกิจกรรมส่งเสริมการค้า/งาน Trade Fair และ Exhibition อีกด้วย

นาย Vu Tien Loc ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนาม กล่าวในที่ประชุมว่า ภาครัฐจำเป็นต้องตอบสนองต่อข้อเรียกร้องที่เพิ่มขึ้นของนักลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นักลงทุนในโครงการภาคการเกษตรและการท่องเที่ยว และควรจะยกระดับสภาพแวดล้อมในการลงทุนของภูมิภาค ในขณะเดียวกัน จังหวัดต่างๆ ในภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงควรจะจัดตั้งหน่วยงานที่ดูแลด้านการลงทุนมาโดยเฉพาะ เพื่อใช้เป็นฐานในการเชื่อมต่อภาคธุรกิจเข้ากับภาครัฐ

ที่มา สำนักข่าว Bao Dau Tu วันที่ 5 พฤษภาคม 2561

URL: http://baodautu.vn/dong-bang-song-cuu-long-co-nhieu-cai-nhat-ve-nang-luc-canh-tranh-cap-tinh-d81086.html

 

4. อสังหาริมทรัพย์ประเภท Condotel ในเวียดนามมีจำนวนมากเกินความต้องการ

ตามรายงานของสมาคมอสังหาริมทรัพย์นครโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh Real Estate Association; HoREA) ชี้ให้เห็นว่า เมื่อปีที่แล้ว ห้องพักประเภท Condotel จำนวนกว่า 23,000 ห้องถูกสร้างเมื่อปีที่แล้ว และสามารถขายได้เพียงร้อยละ 33 โดยในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ มีจำนวนห้องพักประเภท Condotel ใหม่จำนวน 2,078 ห้อง โดยในจำนวนนั้นสามารถขายได้เพียง 387 ห้อง หรือคิดเป็นร้อยละ 19 และคาดการณ์ว่า ในปีนี้ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภท Condotel จะเผชิญกับความท้าทายอย่างมากเนื่องจากมีปริมาณมากเกินความต้องการ

การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ประเภท Condotel ในเวียดนามมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ปี 2559 โดยสมาคมฯ คาดการณ์ว่า ในช่วงปี 2560 – 2562 อสังหาริมทรัพย์ประเภท Condotel จะมีจำนวนห้องเพิ่มขึ้น 29,000 ห้อง

นาย Nguyen Van Sinh รัฐมนตรีช่วยประจำกระทรวงการก่อสร้าง กล่าวว่า หนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้อสังหาริมทรัพย์ประเภท Condotel มีจำนวนล้นตลาดเป็นเพราะเวียดนามยังขาดกฎหมายที่ชัดเจนในการกำกับดูแลอสังหาริมทรัพย์ประเภทดังกล่าวอยู่ โดยผู้ซื้อห้องหลายรายยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับสิทธิการถือครองและการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ของตน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถออกเอกสารถือครองสิทธิที่อยู่อาศัยตามกฎหมายได้

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญหลายรายยังเชื่อว่า แม้ว่าอสังหาริมทรัพย์ประเภท Condotel จะประสบกับข้อท้าทายหลายประการในปัจจุบัน แต่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ประเภทดังกล่าวยังมีศักยภาพสูงและสภาวะการล้นตลาดจะเกิดขึ้นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ เนื่องจากในช่วงเวลา 3 ปีที่ผ่านมา เวียดนามสามารถต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 30 และโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภท Condotel ยังสามารถพบเห็นได้เรื่อยๆ ในสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง เช่น เมืองญาจาง (ปัจจุบันมีจำนวนอสังหาริมทรัพย์ประเภท Condotel กว่าร้อยละ 52 ของทั้งประเทศ) จังหวัดบิ่นห์ถ่วน นครดานัง และเกาะฝู๊ก๊วก

นาย Dang Hung Vo รัฐมนตรีช่วยประจำการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวเสริมว่า ปัจจัยที่ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ประเภท Condotel มีความน่าสนใจเพิ่มขึ้นในปัจจุบันคือการเพิ่มขึ้นของจำนวนชนชั้นกลางในประเทศ โดยภายในปี 2563 จำนวนชนชั้นกลางของประเทศจะมีจำนวนกว่า 44 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 46.3 ของประชากรทั้งประเทศ ซึ่งชนชนกลางหลายรายนิยมซื้อห้องประเภท Condotel มากกว่าจะอยู่บ้านหลังเดี่ยว นอกจากนั้น คาดการณ์ว่า นักลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภท Condotel จะสามารถทำกำไรได้กว่าร้อยละ 8 – 12

เมื่อเดือนที่แล้ว กระทรวงการก่อสร้างประกาศว่า อสังหาริมทรัพย์ประเภท Condotel ควรจะถูกจัดอยู่ในอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัย และควรจะมีการแก้ไขกฎหมายที่อยู่อาศัย ที่ดิน และการก่อสร้างเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทดังกล่าว

ที่มา สำนักข่าว VnExpress วันที่ 2 พฤษภาคม 2561

URL: https://e.vnexpress.net/news/business/real-estate-firms-in-a-spin-over-condotel-oversupply-in-vietnam-3740690.html