ข่าวเด่นวันที่ 11 พฤษภาคม 2561

ข่าวเด่นวันที่ 11 พฤษภาคม 2561

วันที่นำเข้าข้อมูล 11 พ.ค. 2561

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565

| 836 view

ข่าวเด่นวันที่ 11 พฤษภาคม 2561

1. นครดานังพัฒนาแพล็ตฟอร์ม E-Commerce

ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2561 สำนักงานอุตสาหกรรมและการค้า นครดานัง เปิดตัวแพล็ตฟอร์ม E-Commerce บนเว็บไซต์ www.danangtrade.com.vn/danangtrade.gov.vn ที่ขายผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพที่ผลิตในนครดานังและจังหวัดโดยรอบ ซึ่งจะสร้างประโยชน์โดยตรงต่อนักธุรกิจ SMEs และผู้บริโภค สอดคล้องกับนโยบายการพัฒนา E-Commerce ในปี 2560 ของประเทศ

แพล็ตฟอร์มดังกล่าวจะใช้ระบบ O2O (Online to offline) ซึ่งสำนักงานอุตสาหกรรมและการค้า นครดานังจะเป็นผู้โฆษณาสินค้าและเชื่อมโยงช่องทางการกระจายสินค้าในรูปแบบต่างๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนท้องถิ่นและผู้ประกอบการทั้งภายในและภายนอกนครดานัง และในอนาคตอันใกล้ สำนักงานฯ มีแผนการเชื่อมโยงแพล็ตฟอร์มดังกล่าวเข้ากับบริษัทผู้ให้บริการด้านต่างๆ โดยจะไม่คิดค่าลงทะเบียนกับผู้ประกอบการที่ลงทะเบียนขายสินค้าออนไลน์บนแพล็ตฟอร์มก่อนวันที่ 15 ธันวาคม 2561 และผู้ที่ลงทะเบียนหลังจากนั้นจะต้องเสียค่าลงทะเบียนจำนวน 1.45 ล้านด่ง/ปี

นาย Nguyen Ha Bac รองผู้อำนวยการสำนักงานอุตสาหกรรมและการค้า นครดานัง ให้สัมภาษณ์ว่า ปัจจุบัน รัฐบาลมีความประสงค์ที่จะพัฒนาช่องทางการค้าออนไลน์ของประเทศและปรับปรุงการใช้แพล็ตฟอร์มออนไลน์ของภาครัฐ ซึ่งคาดว่าจะสามารถช่วยพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการภายในประเทศเชื่อมโยงสู่การบูรณาการด้านการค้าระหว่างประเทศ

ปัจจุบัน การค้าออนไลน์ของประเทศเวียดนามมีอัตราการเติบโตในแต่ละปีกว่าร้อยละ 25 – 35 โดยในปี 2560 การทำธุรกรรมออนไลน์ของเวียดนามมีมูลค่ากว่า 6.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 3 ของมูลค่าการซื้อขายสินค้าของประเทศ

ที่มา สำนักข่าว VnExpress วันที่ 10 พฤษภาคม 2561

URL: https://kinhdoanh.vnexpress.net/tin-tuc/thuong-mai-dien-tu/da-nang-co-san-giao-dich-thuong-mai-dien-tu-3747375.html

 

2. ที่ดินบนเกาะกอนด๋าว จังหวัดบ่าเหรี่ยะ-หวุงเต่ามีราคาเพิ่มขึ้นอย่างมาก

จากรายงานของสำนักงาน VnExpress ชี้ให้เห็นว่า นับตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว ราคาที่ดินบนเกาะกอนด๋าว จังหวัดบ่าเหรี่ยะ-หวุงเต่าได้รับความสนใจจากนักลงทุนชาวนครโฮจิมินห์และกรุงฮานอยเพื่อสร้างสถานประกอบการ โรงแรม ร้านอาหาร และสถานที่ให้บริการด้านการท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ที่ดินบริเวณใจกลางเมืองและบริเวณรอบภูเขามีราคาเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว

นาย Anh Tu ชาวบ้านบนเกาะกอนด๋าว ให้สัมภาษณ์ว่า ปัจจุบัน ที่ดินเพื่อการเกษตรเมื่อปีที่แล้วมีราคาเพียง 1 – 2 ล้านด่ง/ตารางเมตร แต่ปัจจุบันราคากลับเพิ่มขึ้นกว่า 7 เท่าหรือมากกว่าขึ้นอยู่กับที่ตั้ง โดยที่ดินขนาด 2,000 ตารางเมตร บริเวณรอบๆ ภูเขาใจกลางตัวเมือง เมื่อปีที่แล้วมีราคาไม่ถึง 1 พันล้านด่ง (ประมาณ 1.5 ล้านบาท) แต่ปัจจุบัน ราคากลับพุ่งสูงถึง 10 พันล้านด่ง (15 ล้านบาท) และที่ดินบริเวณถนน Tran Phu ถนน Pham Van Dong และถนน Nguyen Hue ใจกลางตัวเมืองล้วนมีราคากว่า 50 – 70 ล้านด่ง/ตารางเมตร และมีแนวโน้มว่าราคาจะสูงขึ้นเรื่อยๆ

นาย Nguyen Anh Nhut รองประธานคณะกรรมการอำเภอเกาะกอนด๋าว ชี้ว่า ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 61 มีการซื้อขายที่ดินบนเกาะกว่า 100 ครั้ง เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าเป็นจำนวนมาก ซึ่งจากกระแสการกว้านซื้อที่ดินของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศเพื่อสร้างสถานบริการการท่องเที่ยวชี้ให้เห็นว่า เกาะกอนด๋าวเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีศักยภาพของเวียดนาม โดยปัจจุบัน ภาครัฐกำลังเร่งพัฒนาเส้นทางคมนาคมบนเกาะเชื่อมต่อกับชายหาดต่างๆ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และในแต่ละวัน เกาะกอนด๋าว  สามารถต้อนรับนักท่องเที่ยวได้กว่า 2,000 คน

อย่างไรก็ดี ปัจจุบัน คณะกรรมการประชาชนเกาะกอนด๋าวระงับการออกใบอนุญาตก่อสร้างร้านอาหาร/โรงแรมใหม่ๆ ชั่วคราว เพื่อเร่งปรับปรุงแผนการด้านการท่องเที่ยวของเกาะอย่างยั่งยืน และไม่ให้เกิดการสร้างสิ่งปลูกสร้างผิดกฎหมาย

ที่มา สำนักข่าว VnExpress วันที่ 10 พฤษภาคม 2561

URL: https://kinhdoanh.vnexpress.net/tin-tuc/bat-dong-san/gia-dat-con-dao-tang-chong-mat-3747311.html

 

3. นักลงทุนสัญชาติสวีเดนหาโอกาสในการลงทุนในนครโฮจิมินห์

เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2561 นาย Pereric Hogberg เอกอัคราชทูตสวีเดนประจำประเทศเวียดนามได้นำกลุ่มนักลงทุนสัญชาติสวีเดนที่ลงทุนด้านการพัฒนาการจราจรและ Smart City อาทิ บริษัท Volvo บริษัท Ericsson บริษัท ABB และบริษัท Rotex เข้าพบนาย Le Thanh Liem รองประธานคณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์เพื่อหารือเกี่ยวกับโอกาสในการลงทุนด้านการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกและโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมและโครงการพัฒนา Smart City ของนคร

นาย Liem กล่าวระหว่างการหารือว่า ปัจจุบัน นครโฮจิมินห์กำลังประสบปัญหาการจราจรที่ติดขัดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในตัวนคร และปัญหาน้ำท่วม เนื่องจากประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้น นครโฮจิมินห์จึงจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาข้างต้นโดยเร็ว นอกจากนั้น ยังต้องการให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในการพัฒนาโครงการ Smart City ซึ่งนักลงทุนชาวสวีเดนมีความสนใจเป็นอย่างมาก

นาย Le Nguyen Minh Quang ประธานคณะกรรมการบริหารจัดการรถไฟในนครโฮจิมินห์ (HCMC Management Authority for Urban Railways; MAUR) ซึ่งเข้าร่วมการหารือด้วย กล่าวว่า นครโฮจิมินห์กำลังพัฒนาโครงการรถไฟฟ้าใต้ดินหมายเลข 1 เชื่อมต่อบริเวณตลาด Ben Thanh เขต 1 กับบริเวณ Suoi Tien Park ในเขต 9 มีกำหนดการแล้วเสร็จในปี 2563 และโครงการรถไฟฟ้าใต้ดินหมายเลข 2 เชื่อมต่อบริเวณตลาด Ben Thanh กับบริเวณ Tham Luong ในเขต 12 มีกำหนดเริ่มก่อสร้างปีหน้า นอกจากนั้น แผนการลงทุนเพื่อพัฒนาโครงการรถไฟฟ้าใต้ดินหมายเลข 5 เชื่อมต่อบริเวณแยก Bay Hien เขต Tan Binh และสะพาน Saigon ในระยะแรกได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งหากนักลงทุนชาวสวีเดนรายใดสนใจเข้าร่วมลงทุนในโครงการพัฒนารถไฟฟ้าใต้ดินของนคร ก็สามารถหารือร่วมกันได้

นาย Tran Quang Lam รองประธานสำนักงานคมนาคมนครโฮจิมินห์ กล่าวว่า ปัจจุบัน นครโฮจิมินห์กำลังจัดซื้อรถขนส่งสาธารณะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และรถโดยสารประจำทางไฟฟ้า ซึ่งนักลงทุนจะได้รับสิทธิประโยชน์ในการเข้าถึงแหล่งกู้ยืมเงินด้วย

ที่มา หนังสือพิมพ์ The Saigon Times Daily วันที่ 9 พฤษภาคม 2561

 

4. นักลงทุนญี่ปุ่นนำเสนอบริการโดรนพ่นยาฆ่าแมลงให้กับคณะกรรมการประชาชนนครเกิ่นเทอ

ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2561 นาย Takagi Shunji ผู้อำนวยการบริษัท DMM Technologies สัญชาติญี่ปุ่น ได้เข้าพบผู้นำคณะกรรมการประชาชนนครเกิ่นเทอ เพื่อนำเสนอบริการโดรนพ่นยาฆ่าแมลงที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งจะสามารถลดค่าจ้างแรงงานและใช้ระยะเวลาพ่นยาฆ่าแมลงต่อพื้นที่ปลูกข้าว 1 เฮกตาร์เพียง 10 นาทีเท่านั้น ในขณะที่การพ่นยาฆ่าแมลงแบบใช้แรงงานคนจำเป็นต้องใช้ระยะเวลากว่า 2 – 3 ชั่วโมง และมีค่าบริการเพียง 350,000 ด่ง (ประมาณ 550 บาท) / 1 เฮกตาร์

นาย Shunji กล่าวเสริมว่า การพ่นยนฆ่าแมลงโดยใช้เทคโนโลยีโดรนยังพึ่งพาปริมาณน้ำที่ใช้น้อยกว่ามาก โดยใช้น้ำเพียง 10 ลิตร/เฮกตาร์ ในขณะที่การพ่นยาฆ่าแมลงแบบใช้แรงงานคนจำเป็นต้องใช้น้ำกว่า 300 – 400 ลิตร / เฮกตาร์ โดยบริษัทได้ทดลองใช้งานโดรนในหลายๆ พื้นที่ของประเทศแล้ว และบริษัทยังได้รับอนุญาตจากกระทรวงกลาโหมให้สามารถจำหน่ายบริการดังกล่าวได้ในประเทศเวียดนาม โดยกลุ่มเป้าหมายหลักคือบริษัท/สหกรณ์การเกษตรขนาดใหญ่

โดรนพ่นยาฆ่าแมลงของบริษัทฯ มีราคาขายปลีกประมาณ 18,000 – 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัว ทั้งนี้ ยังไม่สามารถจำหน่ายให้กับเกษตรกรในประเทศได้เนื่องจากยังขัดต่อกฎหมายของประเทศ

นาย Dao Anh Dung รองประธานคณะกรรมการประชาชนนครเกิ่นเทอ กล่าวเห็นด้วยกับบริการโดรนของบริษัท อย่างไรก็ดี บริษัทจำเป็นต้องดำเนินการทางเอกสารให้ครบถ้วนเสียก่อนจึงจะสามารถให้บริการภายในนครเกิ่นเทอได้ นอกจากนั้น บริษัทควรพิจารณาการขยายบริการโดรนดังกล่าวให้ครอบคลุมการปลูกกล้วยไม้ ซึ่งนครมีพื้นที่ปลูกกล้วยไม้กว่า 19,000 เฮกตาร์

ที่มา สำนักข่าว The Saigon Times Daily วันที่ 10 พฤษภาคม 2561