วันที่นำเข้าข้อมูล 20 พ.ค. 2561
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565
ข่าวเด่นวันที่ 20-21 พฤษภาคม 2561
1. เปลือกส้มโออบแห้งไทยบุกตลาดนครโฮจิมินห์
เปลือกส้มโออบแห้งจากประเทศไทยที่วางขายอยู่ในนครโฮจิมินห์มีราคากว่า 500,000 – 600,000 ด่ง / 1 กิโลกรัม (ประมาณ 750-840 บาท) สามารถดึงดูดผู้บริโภคชาวเวียดนามได้เป็นจำนวนมาก เพราะมีบรรจุภัณฑ์ที่หลากหลายและสีสันที่สวยงามกว่าผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศเวียดนาม
ผู้ค้าและผู้นำเข้าส้มโออบแห้งไทยในนครโฮจิมินห์ที่มีหน้าร้าน/ ค้าออนไลน์หลายราย กล่าวว่า เปลือกส้มโออบแห้งที่นำเข้าจากประเทศไทยได้รับความนิยมมากกว่าสินค้าที่ผลิตในประเทศเวียดนาม แม้ว่าจะมีราคาสูงกว่า 3 เท่าตัว และสามารถขายได้เดือนละหลายสิบกิโลกรัม นอกจากนั้น เปลือกส้มโออบแห้งจากไทยยังสามารถเก็บได้นานและมีการบรรจุภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้มากกว่าส้มโออบแห้งเวียดนาม
จากการสำรวจของสำนักข่าว VnExpress พบว่า ปัจจุบัน มีผู้นำเข้าเปลือกส้มโออบแห้งไทยในเวียดนามมากกว่า 10 ราย และมีมูลค่าการนำเข้าหลายพันล้านด่ง โดยมีราคานำเข้าเริ่มต้นเพียงกิโลกรัมละ 150,000 – 220,000 ด่ง แต่เมื่อนำไปขายต่อให้กับร้านค้าปลีก กลับมีราคาสูงขึ้นหลายเท่าและสร้างกำไรเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ ปัจจุบัน การปลูกส้มโอในประเทศเวียดนามมีจำนวนเพียงแค่ 1 ใน 4 เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศไทย และยังไม่มีบริษัทใดที่ทำการแปรรูปส้มโออบแห้งให้ได้มาตรฐานได้ดีเทียบเท่า ทำให้ไม่สามารถแข่งขันกับสินค้านำเข้าจากไทยได้
ที่มา สำนักข่าว VnExpress วันที่ 16 พฤษภาคม 2561
URL: https://kinhdoanh.vnexpress.net/tin-tuc/hang-hoa/hon-nua-trieu-dong-mot-kg-mut-vo-buoi-thai-3749377.html
2. นายกรัฐมนตรีเวียดนามสั่งการให้ภาครัฐนครโฮจิมินห์แก้ไขข้อพิพาทเกี่ยวกับที่ดินบริเวณ Thu Thiem โดยเร็ว
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2561 นาย Nguyen Xuan Phuc นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้สั่งการให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องในนครโฮจิมินห์เร่งแก้ไขข้อพิพาทเกี่ยวกับที่ดินบริเวณ Thu Thiem New Urban Area ในเขต 2 ของนครโฮจิมินห์โดยเร็ว
โครงการ Thu Thiem New Urban Area ได้รับการอนุมัติตั้งแต่ปี 2539 ให้พัฒนาเป็นพื้นที่อยู่อาศัย ศูนย์การค้าและศูนย์กลางการบริการที่ทัยสมัยของนครโฮจิมินห์ ซึ่งจำเป็นต้องเวนคืนที่ดินจากผู้อยู่อาศัยจำนวนกว่า 15,000 ครัวเรือน ซึ่งมีกระบวนการที่ล่าช้าและมีผู้อาศัยหลายครัวเรือนบริเวณดังกล่าวได้ออกมาเรียกร้องว่าค่าชดเชยที่ภาครัฐจัดสรรให้ต่ำเกินไปและไม่เหมาะสม นอกจากนี้ ในช่วงระหว่างการเวนคืนที่ดิน เกิดปัญหาในด้านการวางแผน การจัดการที่ดิน การจัดเก็บเอกสาร และเพิกเฉยต่อข้อเรียกร้องของประชาชนในพื้นที่ ทำให้ข้อพิพาทเกี่ยวกับที่ดินในบริเวณดังกล่าวยืดเยื้อเป็นระยะเวลาหลายปี
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี Phuc กล่าวว่า จากการดำเนินการที่ผ่านมาเป็นระยะเวลาหลายปี กระบวนการเวนคืนที่ดินและจัดสรรที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ให้กับผู้ได้รับผลกระทบดำเนินการแล้วเสร็จร้อยละ 99 แล้ว ซึ่งโครงการ Thu Thiem New Urban Area จะทำให้การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของนครโฮจิมินห์เติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งจำเป็นต้องมีการเสียสละ ทั้งนี้ ตนได้สั่งการให้หน่วยงานภาครัฐของนครโฮจิมินห์ที่เกี่ยวข้องเร่งดูแลและแก้ไขปัญหาดังกล่าวแล้ว ทั้งนี้ ย้ำว่าการพัฒนานครโฮจิมินห์จะต้องไม่เอาเปรียบและคำนึงถึงประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากแผนดังกล่าว
นายกรัฐมนตรี Phuc กล่าวปิดท้ายว่า การจัดการข้อพิพาทจะต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ต้องเคารพและรักษาสิทธิของประชาชน นักลงทุน และภาครัฐ ตลอดจนต้องเป็นประโยชน์แก่ทุกฝ่าย โดยภาครัฐจะต้องมีความโปร่งใสในการบริหารจัดการข้อพิพาทดังกล่าวให้มากขึ้น โดยผู้ตรวจการรัฐบาลจะเข้ามาช่วยตรวจสอบข้อเรียกร้องต่างๆ และจะส่งรายงานตรงให้กับตนรับทราบภายในวันที่ 15 มิถุนายน 2561
โครงการ Thu Thiem New Urban Area มีพื้นที่ 657 เฮกตาร์ ตั้งอยู่บริเวณปลายสุดของเขต 2 นครโฮจิมินห์ ซึ่งคาดหวังว่าจะได้รับการพัฒนาให้เป็นพื้นที้อยู่อาศัยในลักษณะ Inner-city ที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยงบประมาณของภาครัฐที่ใช้ในการเวนคืนที่ดินและหาที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ การพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกและโครงสร้างพื้นฐาน และค่าดอกเบี้ย มีจำนวนมากกว่า 29 ล้านล้านด่ง (ประมาณ 1.27 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ที่มา หนังสือพิมพ์ Dan Tri วันที่ 15 พฤษภาคม 2561
3. บริษัท Warburg Pincus จับมือกับบริษัท Becamex IDC Corp เปิดตัวบริษัท BW Industiral ในจังหวัดบินห์เยือง
บริษัท Warburg Pincus บริษัทหุ้นนอกตลาด (Private Equity) ชื่อดังระดับโลก ได้จับมือกับบริษัท Becamex IDC Corp เปิดตัวบริษัท BW Industiral บริษัทอสังหาริมทรัพย์และโลจิสติกส์ในจังหวัดบิ่นห์เยือง ทุนจดทะเบียนกว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยบริษัท Warburg Pincus ถือหุ้นร้อยละ 70 และมีแผนการจะพัฒนาพื้นที่อสังหาริมทรัพย์อุตสาหกรรมและพื้นที่โลจิสติกส์ให้เช่ากว่า 200 เฮกตาร์ในจังหวัดบิ่นห์เยือง ด่งนาย ไฮฟอง หายเยือง และบั๊กนิงห์ ซึ่งได้รับการหมายมั่นว่าบริษัท BW Industiral จะเป็นผู้พัฒนาพื้นที่อุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ให้เช่ารายใหญ่ทึ่สุดในประเทศเวียดนาม
การร่วมทุนดังกล่าวเกิดขึ้นจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นของพื้นที่คลังสินค้าสมัยใหม่ โรงงานแบบสำเร็จรูป และพื้นที่ใช้สอยอเนกประสงค์เพื่อใช้ในภาคอุตสาหกรรมภายในประเทศเวียดนาม โดยบริษัท BW Industiral พร้อมจะช่วยสนับสนุนโครงการลงทุนในด้านต่างๆ ที่สอดคล้องกับนโยบายการปฎิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ของประเทศ
นาย Jeffrey Perlman ประธานผู้อำนวยการและประธานฝ่ายเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของบริษัท Warburg Pincus กล่าวว่า บริษัท BW Industiral มีแผนการพัฒนาพื้นที่โลจิสติกส์และพื้นที่อุตสาหกรรมสำหรับบริษัทชั้นนำต่างประเทศ ตลอดจนพื้นที่คลังสินค้าสำหรับบริษัท E-Commerce โดยปัจจุบัน เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่สามารถดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศได้เป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีพลวัตทางเศรษฐกิจสูงและมีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ทำให้เป็นปัจจัยผลักดันธุรกิจบริการพื้นที่อสังหาริมทรัพย์และโลจิสติกส์ให้เช่าให้ประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน
นาย Nguyen Van Hung ประธานบริษัท Becamex กล่าวว่า การร่วมลงทุนดังกล่าวจะเป็นการสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมในประเทศเวียดนามอย่างยั่งยืนและจะทำให้ประเทศเวียดนามเป็นผู้เล่นสำคัญในห่วงโซ่อุปทานด้านเศรษฐกิจของโลก
ที่มา หนังสือพิมพ์ The Saigon Times Daily วันที่ 16 พฤษภาคม 2561 หน้า 2
4. 4 เหตุผลที่ทำให้ที่ดินในนครโฮจิมินห์มีราคาสูงขึ้นไม่หยุด
นาย Huynh Phuc Nghia รองคณะบดีคณะ International Business – Marketing มหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์ นครโฮจิมินห์ กล่าวว่า มี 4 ปัจจัยที่ทำให้ที่ดินในนครโฮจิมินห์และเขตโดยรอบมีราคาสูงขึ้นไม่หยุด ได้แก่
1. การเก็งกำไรที่ปลอดภัย
ในช่วงระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา ราคาที่ดินในนครโฮจิมินห์ไม่เคยตกลง เนื่องจากสภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนในประเทศ ภาวะค่าเงินเฟ้อ ตลอดจนเศรษฐกิจที่เจริญเติบโตของนครโฮจิมินห์ ทำให้นักลงทุน/ผู้ซื้อที่ดิน ต้องการซื้อที่ดินมาเก็งกำไร เนื่องจากหลายคนมองว่าการลงทุนในที่ดินเป็นการลงทุนที่ปลอดภัย
2. ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับที่ดินนับวันยิ่งมีราคาสูงขึ้น
ปัจจุบัน ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับที่ดิน อาทิ ค่าสร้างบ้าน ค่าดำเนินการด้านเอกสาร ค่ารักษาที่ดิน และค่าน้ำค่าไฟ ทำให้เจ้าของที่ดินต้องเสียเงินเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ราคาที่ดินสูงขึ้น
3. ความต้องการครอบครองที่ดิน
ในช่วงระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา กระแสการซื้อที่ดินในนครโฮจิมินห์ และในประเทศเวียดนามมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยตลาดอสังหาริมทรัพย์ของประเทศได้รับการยอมรับว่าเป็นตลาดที่มีความผันผวนและมีการเติบโตมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นอกจากนั้น ความต้องการครอบครองที่ดินที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้ราคาที่ดินจะพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ
4. ที่ทองคำ
ที่ดินบริเวณใดที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ทำเลที่เหมาะสมและสามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกและโครงสร้างพื้นฐานได้ ที่ดินเหล่านั้นจะมีราคาที่สูงขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับบริเวณอื่นๆ และส่งผลให้นักลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่างต้องการซื้อที่ดินเหล่านั้น
ที่มา สำนักข่าว VnExpress วันที่ 15 พฤษภาคม 2561
อีเมลสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์
ติดต่อทั่วไป
แผนกเศรษฐกิจ
แผนกกงสุล (หนังสือเดินทาง, นิติกรณ์และทะเบียนราษฎร์, บัตรประชาชน, การตรวจลงตราและรับรองเอกสาร)