ข่าวเด่นวันที่ 20 - 21 กันยายน 2561

ข่าวเด่นวันที่ 20 - 21 กันยายน 2561

วันที่นำเข้าข้อมูล 21 ก.ย. 2561

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565

| 642 view

ข่าวเด่นวันที่ 20 - 21 กันยายน 2561

  1. สำนักงานให้เช่าในนครโฮจิมินห์สามารถดึงดูดบริษัทเทคโนโลยีได้เป็นจำนวนมาก

เมื่อไม่นานมานี้ บริษัท Jones Lang LaSalle (JLL) สาขาเวียดนามได้ประกาศรายงานภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ประเภทสำนักงานให้เช่าของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยนครโฮจิมินห์ติดอันดับที่ 1 เหนือกรุงเทพฯ กรุงจากาตาร์ กรุงกัวลาลัมเปอร์ กรุงมะนิลา และสิงคโปร์ ในด้านพื้นที่สำนักงานให้เช่าที่มีบริษัทเทคโนโลยีเช่ามากที่สุดในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา หรือคิดเป็นกว่าร้อยละ 16 ของทั้งภูมิภาค

ในช่วง 5 ปีก่อนหน้า นครโฮจิมินห์เพิ่งจะอยู่ในลำดับที่ 3 ของภูมิภาครองจากกรุงมะนิลา และสิงคโปร์ในด้านพื้นที่สำนักงานให้เช่าที่มีบริษัทเทคโนโลยีเช่ามากที่สุด อย่างไรก็ดี นครโฮจิมินห์ เมืองที่มีพลวัตรทางเศรษฐกิจมากที่สุดของเวียดนาม สามารถเอาชนะเมืองต่างๆ ของภูมิภาคฯ และรักษาอันดับของตนได้อย่างยอดเยี่ยมตลอด 3 ปีที่ผ่านมา

ตัวแทนบริษัท JLL สาขาเวียดนามเปิดเผยว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ประเภทสำนักงานให้เช่าของนครโฮจิมินห์มีการเคลื่อนไหวและเปลี่ยนมืออย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบริษัทเทคโนโลยีต่างๆ ที่ใช้เทคโนโลยีออนไลน์ ทั้งนี้ คาดว่า ในอนาคตอันใกล้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ประเภทสำนักงานให้เช่าที่มีบริษัทเทคโนโลยีเช่าของประเทศต่างๆ ในภูมิภาคฯ จะเติบโตขึ้นร้อยละ 15 – 20 / ปี

ที่มา สำนักข่าว VnExpress วันที่ 18 กันยายน 2561

URL: https://kinhdoanh.vnexpress.net/tin-tuc/bat-dong-san/van-phong-cho-thue-sai-gon-hut-dai-gia-cong-nghe-3807562.html

 

  1. จังหวัดภาคกลางตอนล่างของเวียดนามร่วมมือกันพัฒนาการท่องเที่ยวในระยะยาว

ในวันที่ 14 กันยายน 2561 กรมการท่องเที่ยว สังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวเวียดนาม ร่วมมือกับภาครัฐและภาคเอกชนขนาดใหญ่ด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดภาคกลางตอนล่างของประเทศจัดการสัมนา “การพัฒนาผลิตภัณการท่องเที่ยวของภูมิภาคในระยะยาว” โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 100 คน

จังหวัดต่างๆ ในภาคกลางตอนล่าง ได้แก่ จังหวัดจังหวัดคั้นห์หว่า จังหวัดนิ่งห์ถ่วน และจังหวัดบิ่งห์ถ่วนได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก และมีศักยภาพในการพัฒนาการท่องเที่ยว อย่างไรก็ดี เพื่อที่จะพัฒนาการท่องเที่ยวในระยะยาว จังหวัดต่างๆ จำเป็นต้องร่วมมือกันพัฒนาแผนการท่องเที่ยวระยะยาวของภูมิภาคฯ ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมสัมมนาหลายคนชี้ว่า ปัจจุบัน ภูมิภาคฯ ยังมีข้อจำกัดในการพัฒนาการท่องเที่ยวอีกมาก อาทิ ผลิตภัณฑ์ด้านการท่องเที่ยวที่คล้ายคลึงกัน สภาพเวดล้อมด้านการท่องเที่ยวที่ยังไม่ได้รับการพัฒนา ขยะจากการท่องเที่ยวที่ทำลายสิ่งแวดล้อม บริษัททัวร์หลายแห่งยังไม่มีมาตรฐานระดับสากล สถานที่การท่องเที่ยวในรูปแบบภูมิปัญญาท้องถิ่นยังไม่ได้รับการประชาสัมพันธ์ และยังขาดบุลคลากรด้านการท่องเที่ยวทีมีคุณภาพ

ที่สัมมนายังเห็นว่า ปัจจุบัน นักท่องเที่ยวชาวจีนและชาวรัสเซียมีจำนวนมากเกินไปในจังหวัดคั้นห์หว่าและจังหวัดนิ่งห์ถ่วน ซึ่งส่งผลให้เสียลูกค้าจากประเทศอื่นๆ รวมถึงนักท่องเที่ยวภายในประเทศ เนื่องจากไม่สามารถจองห้องพักในจังหวัดทั้งสองได้เป็นจำนวนมาก

นอกจากนั้น นาย Nguyen Van Cuong ตัวแทนบริษัท Vietworld นครโฮจิมินห์ ชี้ว่า ปัจจุบัน คุณภาพการให้บริการการท่องเที่ยวของจังหวัดต่างๆ ในภูมิภาคฯ ยังไม่มีมาตรฐาน ซึ่งอาจจะทำให้เสียลูกค้าที่มีคุณภาพจากต่างประเทศ อาทิ เยอรมนี โปแลนด์ เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก ไทย และมาเลเซีย

นาง Pham Le Thao รองหัวหน้าฝ่ายนักท่องเที่ยว สังกัดกรมการท่องเที่ยวเวียดนาม กล่าวว่า ภูมิภาคฯ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และมีทรัพยากรณ์ด้านการท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ ทั้งนี้ จังหวัดต่างๆ จะต้องร่วมมือกันขยายตลาดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และแก้ไขปัญหาปริมาณนักท่องเที่ยวชาวจีนในจังหวัดคั้นห์หว่าโดยเร็ว

ที่มา สำนักข่าว Bao Dau Tu วันที่ 15 กันยายน 2561

URL: https://baodautu.vn/cac-tinh-nam-trung-bo-ban-cach-hop-tac-phat-trien-du-lich-lau-dai-d87876.html

 

  1. บริษัทสัญชาติเดนมาร์กเสนอให้ขุดแม่น้ำบริเวณท่าเรือ Cai Mep-Thi Vai ให้ลึกขึ้น

บริษัท Maerk Line บริษัทขนส่งสินค้ารายใหญ่ของประเทศเดนมาร์กได้เสนอให้กระทรวงคมนาคมเวียดนามเร่งขุดลอกทางเดินเรือของท่าเรือ Cai Mep-Thi Vai ในจังหวัดบ่าเหรี่ยะ-หวุงเต่า ให้ลึก 15.5 เมตร (เดิม 14 เมตร) เพื่อให้สามารถรองรับเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ได้

นาย Robert Maerk Uggla ตัวแทนของบริษัท Maersk Line ได้เข้าพบและหารือกับนาย Nguyen Van Cong รัฐมนตรีช่วยกระทรวงคมนาคมเวียดนาม โดยชี้แจงว่า ปัจจุบัน ความลึกของเส้นทางการเดินเรือดังกล่าวยังเป็นอุปสรรค์ต่อการขนส่งสินค้าของเรือขนาดใหญ่ และในอนาคต เวียดนามจะมีการขนส่งทางทะเลเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างเวียดนามกับยุโรป ซึ่งมีผลบังคับใช้เร็วๆ นี้ โดยข้อตกลงดังกล่าวจะสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับบริษัทสัญชาติเวียดนามและสัญชาติยุโรป รวมไปถึงการขยายตัวของภาคการขนส่งทางทะเลอย่างรวดเร็ว

นาย Cong ชี้แจงว่า เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2560 ท่าเรือ Cai Mep – Thi Vai ได้รองรับเรือขนส่งสินค้าที่มีชื่อว่า Margrethe Maersk ที่มีปริมาณการขนส่งสินค้ากว่า 194,000 DWT และมีความสามารถในการบรรทุกสินค้าได้กว่า 18,000 ตัน ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่า ท่าเรือ Cai Mep-Thi Vai  สามารถกลายเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนั้น ในปี 2560 ภาคการขนส่งทางทะเลของประเทศเติบโตขึ้นร้อยละ 6 และระบบท่าเรือ (Seaport System) มีการเติบโตกว่าร้อยละ 17 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

ทั้งนี้ ต่อข้อเสนอของบริษัท Maersk Line นาย Cong แจ้งว่า กระทรวงฯ จะเสนอต่อรัฐบาลในการลงทุนขุดแม่น้ำบริเวณท่าเรือ Cai Mep-Thi Vai ให้ลึกขึ้นเพื่อยกระดับการขนส่งสินค้าของประเทศ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า บริษัทฯ จะเพิ่มการลงทุนในพัฒนาท่าเรือและโลจิสติกส์ในเวียดนามต่อไป และนำเรือขนาดใหญ่มาใช้บริการท่าเรือของเวียดนามโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ท่าเรือ Cai Mep-Thi Vai เพื่อเพิ่มระดับการนำเข้า-ส่งออกสินค้าของเวียดนามและต่างประเทศ

ที่มา หนังสือพิมพ์ The Saigon Times Daily วันที่ 14 กันยายน 2561

 

  1. KOTRA เตรียมเปิดสำนักงานใหม่ในนครดานัง

สำนักงานส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศของเกาหลีใต้ (The Korea Trade Investment Promotion Agency : KOTRA) จะเปิดสาขาในนครดานังเดือนพฤศจิกายน 2561 เพื่อส่งเสริมการลงทุน และกิจกรรมส่งเสริมการขาย ของบริษัทสัญชาติเกาหลีในบริเวณภาคกลางของเวียดนาม

นาย Kim Ki Joon ผู้อำนวยการ KOTRA ณ กรุงฮานอย กล่าวว่า สำนักงานฯ ในนครดานังจะมีหน้าที่ดึงดูดนักลงทุนชาวเกาหลีใต้ให้เข้ามาลงทุนในภาคกลางของเวียดนาม ตลอดจนส่งเสริมการค้าของทั้งสองประเทศ โดยปัจจุบัน เกาหลีใต้เป็นนักลงทุนที่สำคัญของนครดานัง ทั้งในด้านการท่องเที่ยว การค้า และการลงทุน นอกจากนั้น ในปี 2560 นักท่องเที่ยวเกาหลีใต้เดินทางมาท่องเที่ยวนครดานังกว่า 900,000 คน เพิ่มขึ้นจากปี 2559 เป็นสองเท่า และนับตั้งแต่ช่วงต้นปีจนถึงเดือนมิถุนายน มีนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้เดินทางมายังนครดานัง กว่า 8 แสนคน คิดเป็นร้อยละ 50 ของจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทั้งหมด 1.6 ล้านคนของนครดานัง 

ในช่วงครึ่งปีแรก การส่งออกของนครดานังไปยังเกาหลีใต้มีมูลค่าอยู่ที่ 17 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 45 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ในขณะที่นครดานังนำเข้าจากเกาหลีใต้ประมาณ 36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.6  และปัจจุบัน นักลงทุนชาวเกาหลีใต้มีโครงการลงทุนในนครดานังกว่า 112 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 550 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา หนังสือพิมพ์ The Saigon Times Daily วันที่ 12 กันยายน 2561