ตลาดผลิตภัณฑ์ความงามและผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายในเวียดนามตอนใต้

ตลาดผลิตภัณฑ์ความงามและผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายในเวียดนามตอนใต้

วันที่นำเข้าข้อมูล 24 ต.ค. 2561

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565

| 2,842 view

ตลาดผลิตภัณฑ์ความงามและผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายในเวียดนามตอนใต้

ภาพรวม

การบริโภคผลิตภัณฑ์ความงามในเวียดนามเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2559 โดยกลุ่มประชากรที่มีอิทธิพลมากที่สุดในธุรกิจนี้เป็นประชากรเพศหญิงอายุ 20 - 44 ปี คิดเป็นประมาณร้อยละ 40 ชองประชากรเพศหญิงทั้งหมดในประเทศ และจากการสำรวจพบว่ากลุ่มผู้บริโภคที่มีอายุและตำแหน่งการงานสูงขึ้น มักหันมาสนใจและดูแลผิวพรรณมากขึ้น ทั้งนี้ กลุ่มผู้บริโภคในจังหวัดทางตอนใต้จะมีความต้องการและกำลังซื้อมากกว่ากลุ่มผู้บริโภคในพื้นที่อื่น ๆ

ในปี 2560 ตลาดผลิตภัณฑ์ความงามในเวียดนาม มีมูลค่าประมาณ 1.53 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยในระหว่างปี 2555 - 2560 มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 13.3 อย่างไรก็ดี มูลค่าแท้จริงของตลาดผลิตภัณฑ์ความงามน่าจะมีมูลค่าสูงกว่าการประมาณการดังกล่าว เนื่องจากมีร้านขายผลิตภัณฑ์ความงามในช่องทางออนไลน์จำนวนมากที่ไม่ได้จดทะเบียนหรือไม่มีใบอนุญาต จึงไม่ทราบมูลค่าของตลาดที่แท้จริง

ปัจจุบัน มีบริษัทผลิตหรือจำหน่ายผลิตภัณฑ์ความงามในเวียดนามประมาณ 400 บริษัท ร้อยละ 75 เป็นบริษัทเวียดนาม อย่างไรก็ดี บริษัท วน. มีสัดส่วนการครอบครองตลาดเพียงร้อยละ 10เท่านั้น ในขณะที่บริษัทต่างชาติมีสัดส่วนการครอบครองตลาดร้อยละ 90 เนื่องจากมีเงินทุนและประสิทธิภาพของเครือข่ายการกระจายสินค้าดีกว่า

ด้านช่องทางการซื้อ ผู้บริโภคประมาณร้อยละ 40 ซื้อสินค้าจากร้านตัวแทนจำหน่ายหรือร้าน ขายผลิตภัณฑ์ความงาม เช่น Guardian หรือ Medicare เป็นต้น และอีกประมาณร้อยละ 58 ซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ โดยมีแนวโน้มว่าผู้บริโภคนิยมซื้อผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น เนื่องจากสะดวกรวดเร็วและผู้บริโภคยังสามารถเปรียบเทียบข้อมูลและราคาสินค้าก่อนตัดสินใจซื้อได้ แต่การซื้อขายผ่านช่องทางออนไลน์ยังนิยมการชำระเงินเมื่อรับสินค้า

แนวโน้มผลิตภัณฑ์ความงามที่ได้รับความนิยมในเวียดนามในปัจจุบัน

--ผลิตภัณฑ์ออร์แกนนิก ผลิตภัณฑ์สำหรับสุภาพบุรุษ และอาหารเสริม --

ผลิตภัณฑ์ความงาม โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ดูแลผิวจากเกาหลีใต้และญี่ปุ่นเป็นที่นิยมในเวียดนาม โดยเฉพาะเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ทำให้เหมาะสมกับสภาพผิวและเนื่องจากการแต่งหน้าแบบเกาหลีเป็นที่นิยมอย่างมาก แต่หากรวมผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายด้วยแล้ว กลับพบว่า ผลิตภัณฑ์จากไทยกำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากราคาย่อมเยา โดยในปี 2555 – 2561สิงคโปร์ ไทยและจีน ครองอันดับการส่งออกผลิตภัณฑ์ความงามและผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายไปที่เวียดนามมากที่สุด  อัตราการการนำเข้าผลิตภัณฑ์ข้างต้นจากสามประเทศดังกล่าวเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 8.8 และในปี 2561 คาดว่าการนำเข้าผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะมีมูลค่าสูงถึง758.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องใช้ส่วนตัวสำหรับสุภาพบุรุษก็กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วขึ้นเช่นกัน เนื่องจากกลุ่มผู้บริโภคชายหันมาให้ความสนใจและให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ภายนอกมากขึ้น โดยได้รับอิทธิพลจากสื่อต่าง ๆ ที่ให้ความสำคัญและความรู้เรื่องการรักษาผิวพรรณ ปัจจุบัน แบรนด์ผลิตภัณฑ์ความงามต่าง ๆ จึงได้เพิ่มผลิตภัณฑ์สำหรับกลุ่มผู้บริโภคชายโดยเฉพาะ ออกวางขายในตลาดเป็นจำนวนมาก เช่น Vaseline for Men, Head & Shoulder Men หรือแม้กระทั่งแบรนด์ชั้นสูงต่าง ๆ ก็ตาม เช่น Biotherm Homme เป็นต้น โดยในปี 2555 - 2560 ผลิตภัณฑ์สำหรับสุภาพบุรุษชายมีอัตราการเจริญเติบโตกว่ากลุ่มอื่น ๆ เฉลี่ยร้อยละ 13.8

ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ เช่น นครโฮจิมินห์ เนื่องจากชาวเวียดนามหันมาให้ความสนใจการรักษาสุขภาพมากขึ้น ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่ขายอยู่ในท้องตลาดเวียดนามมีกว่า 7,000 ยี่ห้อ โดยมีทั้งที่ผลิตในเวียดนามเอง และนำเข้าจากต่างประเทศอีกหลายแห่ง เช่น สหรัฐฯ เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย เป็นต้น ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่เป็นที่นิยมชาวเวียดนามนิยมบริโภคมักเป็นจำพวกผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก บำรุงร่างกายและหัวใจ หรือบำรุงผิว เป็นต้น ยี่ห้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริมในเวียดนามที่ได้รับความนิยมได้แก่ น้ำมันฟักข้าว Vinaga DHA, Bioglucumin, GLUTA – DavinFrance, Goodnight เป็นต้น

ผู้ประกอบการไทยที่สนใจขยายตลาดผลิตภัณฑ์ความงามไปที่เวียดนาม ควรพิจารณาผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ ประเภท “Organic” ซึ่งบริษัทที่ปรึกษาทางกฎหมายได้แนะนำว่า หากเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทดังกล่าว ควรระบุในฉลากด้วยว่าใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ โดยถ้อยคำที่จะดึงดูดผู้บริโภคชาวเวียดนามได้แก่ “organic” หรือ“detox” รวมทั้งพิจารณาช่องทาง E-Commerce  ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคของคนเวียดนามในปัจจุบันอย่างไรก็ดี ระบบการค้าขายทาง E-Commerce ในเวียดนามก็ไม่เหมือนในไทยเสียทีเดียว ผู้ประกอบการจึงต้องศึกษาข้อมูลการตลาด กฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจน

                                                                                    ศูนย์ข้อมูลธุรกิจไทยในนครโฮจิมินห์

                                                                                      สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์

                                                                                                  ตุลาคม 2561