วันที่นำเข้าข้อมูล 26 ธ.ค. 2561
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565
จังหวัดเหิ่วยางชูพัฒนาโลจิสติกส์มุ่งผลักดันสินค้าการเกษตรสู่ห่วงโซ่อุปทานโลก
คณะกรรมการประชาชนจังหวัดเหิ่วยางและนักธุรกิจเห็นพ้องต้องกันในการส่งเสริมธุรกิจผลิตภัณฑ์การเกษตรในงานสัมมนา ณ จังหวัดเหิ่วยางในวันที่ 12 ธันวาคม 2561นาย Le Tien Chau ประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดเหิ่วยาง มีความเห็นว่า ภาคการเกษตรในจังหวัดมีศักยภาพสูงแต่ยังไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่มูลค่าผลิตภัณฑ์การเกษตร (Farm produce value chain) การส่งเสริมห่วงโซ่มูลค่าผลิตภัณฑ์การเกษตร โดยเฉพาะในด้านโลจิสติกส์ จะเป็นประโยชน์ต่อจังหวัดเป็นอย่างมาก
นาย Truong Canh Tuyen รองประธานคณะกรรมการประชาชนฯ ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในปัจจุบัน
จังหวัดกำลังปรับโครงสร้างภาคการเกษตรใหม่ โดยเฉพาะการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ผัก ข้าว และการเกษตรเทคโนโลยีขั้นสูง (hi-tech farming) โดยได้ก่อตั้งนิคมการเกษตรเทคโนโลยีขั้นสูง (high-tech agricultural park) ขึ้นในอำเภอ Long My ครอบคลุมมีพื้นที่ 5,200 เฮกตาร์และมีนโยบายช่วยเหลือเกษตรกรและนักลงทุนท้องถิ่น
นาย Nguyen Do Anh Tuan ผู้จัดการสถาบันด้านนโยบายและการวางแผนสำหรับการพัฒนาการเกษตรและชนบทเวียดนาม กล่าวว่า อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ของเวียดนามเติบโตโดยเฉลี่ยร้อยละ 16 – 20 ต่อปี จัดเป็นอันดับที่ 64 ของโลกและอันดับที่ 4 ในอาเซียน แต่ค่าขนส่งของเวียดนามยังคงสูงอยู่ โดยคิดเป็นร้อยละ 25
ของต้นทุนสินค้าเมื่อเทียบกับประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ ที่มีอัตราค่าขนส่งอยู่ที่ร้อยละ 7 – 15
ระบบโลจิสติกส์ที่ล้าหลังเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผลผลิตการเกษตรมีต้นทุนสูง นาย Tuan คาดว่าตลาด
โลจิสติกส์โลกจะเติบโตโดยเฉลี่ยร้อยละ 6.54 ต่อปีในช่วงปี 2560 – 2563 และจะมีมูลค่า 15.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2567 ดังนั้น การพัฒนาระบบโลจิสติกส์จะช่วยเพิ่มศักยภาพของห่วงโซ่มูลค่าของผลิตภัณฑ์การเกษตรไปด้วย โดยเฉพาะในจังหวัดเหิ่วยาง
สมาคมเกษตรกรรมจีน-อาเซียนได้ให้ข้อมูลว่า จีนนำเข้าสินค้าเกษตรกรรมจากเวียดนาม มูลค่าประมาณ
1.25 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.5 จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2559 โดยส่วนมากเป็นผลไม้
และคาดหวังว่าเวียดนามจะมีการส่งเสริมนโยบายการพัฒนาด้านโลจิสติกส์ในทุกภาคส่วน
นอกจากนี้ บริษัท Lavifood บริษัทสัญชาติเกาหลี คาดการณ์ว่า ภายในปี 2564 ตลาดผลิตภัณฑ์แปรรูป
ผักและผลไม้จะมีมูลค่า 3.17 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และตลาดผักและผลไม้สดจะมีมูลค่า 5.4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และภายในปี 2563 อุปสงค์ของผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ในเวียดนามจะเพิ่มขึ้นเป็น 19.4 ล้านตัน บริษัท Lavifood จะร่วมมือกับจังหวัดเหิ่วยางในการสร้างโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์การเกษตร และจะร่วมมือกับเกษตรกรท้องถิ่นเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์การเกษตรคุณภาพสูง โดยลงทุนในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
และโลจิสติกส์
ที่มา: The Saigon Times Daily วันที่ 14 ธันวาคม 2561
URL: https://english.thesaigontimes.vn/64831/hau-giang-seeks-to-boost-green-economy.html
นครดานังเล็งเพิ่มห้องพักสำหรับนักท่องเที่ยวกว่า 1 แสนห้องภายในปี 2573
กรมการท่องเที่ยวนครดานังคาดการณ์ว่า นครดานังต้องมีห้องพักโรงแรมเพิ่มอีก 109,000 ห้อง ในบริเวณชายหาดและ
ใจกลางเมืองภายในปี 2573 ทั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการท่องเที่ยวจนถึงปี 2568 โดยมีวิสัยทัศน์ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2573 แผนพัฒนาฯ นี้ มุ่งแก้ปัญหาความแออัดของที่พักอาศัยในนครดานัง รวมถึงระบบการจราจร ระบบการระบายน้ำและโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ
ทั้งนี้ ภายในปี 2563 โรงแรมระดับ 4 – 5 ดาวถูกคาดหวังให้สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ 14,500 ห้อง ส่วนโรงแรม
ระดับ 1 – 3 ดาวถูกคาดหวังให้สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ 21,100 ห้อง คิดเป็นร้อยละ 35.8 และร้อยละ 52
ของจำนวนห้องพักทั้งหมด ตามลำดับ
อย่างไรก็ดี แผนดังกล่าวมีประเด็นที่ต้องคำนึงถึง ได้แก่ (1) อัตราการเติบโตของจำนวนห้องพัก (2) ความสมดุลระหว่างประเภทห้องพัก ราคาและจำนวนผู้เข้าพัก และ (3) ความต้องการของนักท่องเที่ยวในการเข้าพักห้องประเภทต่าง ๆ ทั้งนี้ แม้ว่าจะมีแผนพัฒนาการท่องเที่ยว แต่ยังมีความกังวลจากผู้ประกอบการว่าจะมีจำนวนห้องพักเหลือ ซึ่งนาย Nguyen Duc Quynh รองประธานสมาคมโรงแรมนครดานังและรองผู้จัดการทั่วไปรีสอร์ท Furama นครดานัง ได้เปิดเผยว่าสถานการณ์อุปทานห้องพักล้นตลาดในปัจจุบันทำให้ราคาห้องพักในโรงแรมระดับ 1 – 5 ดาวลดลง ซึ่งบางแห่งจำเป็นต้องลดราคาห้องลงถึงครึ่งหนึ่ง
นาย Quynh ได้เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาค่าห้องพักตกต่ำ โดยการเพิ่มจำนวนเที่ยวบิน การส่งเสริมกิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยว และการผ่อนปรนนโยบายเรื่องวีซ่า เป็นต้น ซึ่งจะช่วยปรับความสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานของจำนวนห้องพักได้
นอกจากนี้ ภายในปี 2562 นครดานังยังมีแผนการพัฒนาการท่องเที่ยวทางน้ำ โดยเพิ่มรายการท่องเที่ยว และเปิดให้บริการเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ รวมถึงการเพิ่มสินค้าและบริการใหม่ ๆ บนเรือท่องเที่ยวเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวมากขึ้นด้วย
ปัจจุบัน นครดานังมีเรือสำราญที่ให้บริการอยู่ 24 ลำ ในจำนวนดังกล่าว มี 20 ลำที่ให้บริการในเส้นทางแม่น้ำฮัน – สะพาน Tran Thi Ly และอีก 4 ลำให้บริการในเส้นทางอ่าวดานัง – แหลมเซินจ่า
ในปี 2561 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเยือนนครดานังประมาณ 498,000 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 42 เมื่อเทียบกับปี 2560 และคาดว่าในปี 2562 จะมีนักท่องเที่ยวถึง 595,000 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับปี 2561 โดยส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 90 เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาท่องเที่ยวทางน้ำ
ที่มา: The Saigon Times Daily วันที่ 17 ธันวาคม 2561
URL: https://english.thesaigontimes.vn/64913/danang-needs-over-100000-hotel-rooms-by-2030.html
สายการบิน Vietjet เปิดตัวเส้นทางบินตรงนครโฮจิมินห์ – โอซากา
เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2561 สายการบิน Vietjet ได้เปิดเส้นทางบินใหม่ระหว่างนครโฮจิมินห์และนครโอซากาเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว การค้าและความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามและญี่ปุ่น
เส้นทางบินดังกล่าวเปิดให้บริการทุกวัน โดยใช้เวลาบินเที่ยวละ 5 ชั่วโมง โดยออกเดินทางจาก
นครโฮจิมินห์ เวลา 01.30 น. ถึงนครโอซากา เวลา 08.30 น. จากนั้น จะออกเดินทางจากนครโอซากา
เวลา 09.30 น. ถึงนครโฮจิมินห์ เวลา 13.30 น. ซึ่งในเที่ยวบินปฐมฤกษ์จากนครโฮจิมินห์ไปยังนครโอซากา มีการแสดงคอสเพลย์ (Cosplay) ที่นำเสนอวัฒนธรรมญี่ปุ่น และแจกของที่ระลึกให้แก่ผู้โดยสาร
นาย Gregory Jamet เจ้าหน้าที่ฝ่ายโฆษณา สนามบินคันไซ นครโอซากา กล่าวว่า ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง
ที่สายการบิน Vietjet เลือกนครโอซากาเป็นจุดหมายปลายทางอีกครั้งหลังจากที่ได้เปิดเส้นทางบินระหว่าง
กรุงฮานอย – นครโอซากาไปก่อนหน้านี้ และคาดหวังว่านักท่องเที่ยวทั้งจากเวียดนามและญี่ปุ่นจะได้รับ
การอำนวยความสะดวกจากสายการบินอย่างเต็มที่เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและการค้าระหว่าง
ทั้งสองประเทศ
เที่ยวบินระหว่างกรุงฮานอยและนครโอซากาเปิดให้บริการทุกวัน โดยใช้เวลาบินเที่ยวละกว่า 4 ชั่วโมง โดยออกเดินทางจากกรุงฮานอย เวลา 01.40 น. ถึงนครโอซากา เวลา 07.50 น. จากนั้น จะออกเดินทางจาก
นครโอซากา เวลา 09.20 น. ถึงกรุงฮานอย เวลา 13.05 น.
อนึ่ง สายการบิน Vietjet และสายการบิน Japan Airlines มีความร่วมมือในการทำเที่ยวบินร่วมกัน
(code-sharing) ในเส้นทางบินระหว่างกรุงฮานอย – นครโอซากา และเส้นทางบินภายในประเทศของ
สายการบิน Vietjet อีก 3 เส้นทาง ได้แก่ กรุงฮานอย – นครโฮจิมินห์, กรุงฮานอย – นครดานัง,
และนครโฮจิมินห์ – นครดานัง และ สายการบิน Vietjet มีแผนจะเปิดตัวเส้นทางบินใหม่ระหว่าง
กรุงฮานอย – กรุงโตเกียวในวันที่ 11 มกราคม 2562
ปัจจุบัน สายการบิน Vietjet มีเครื่องบิน A320 และ A321 กว่า 60 ลำ ให้บริการกว่า 385 เที่ยวบินต่อวัน และมีเส้นทางบินกว่า 104 เส้นทางทั่วเวียดนามและในต่างประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ไต้หวัน จีน ไทย เมียนมาร์ มาเลเซีย และกัมพูชา
ที่มา: The Saigon Times Daily วันที่ 14 ธันวาคม 2561
URL: https://english.thesaigontimes.vn/64872/vietjet-launches-hcmc-osaka-route.html
นครโฮจิมินห์เล็งเพิ่มจำนวนร้านสะดวกซื้อ 2,000 แห่งและซุปเปอร์มาร์เก็ต 50 แห่งภายในปี 2568
ในงานสัมมนา “Eat Clean – Live Green” จัดขึ้นเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2561 โดยกรมอุตสาหกรรมและการค้า นครโฮจิมินห์ นาย Nguyen Huynh Trang รองอธิการบดีกรมอุตสาหกรรมและการค้าฯ กล่าวว่า นครมีแผนส่งเสริมการเปิดร้านสะดวกซื้อเพิ่มขึ้น 2,000 แห่งและซุปเปอร์มาร์เก็ตอีก 50 แห่ง ภายในปี 2568 ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหารให้แก่ผู้บริโภค
ในปัจจุบัน นครโฮจิมินห์มีซุปเปอร์มาร์เก็ต 204 แห่ง ห้างสรรพสินค้า 44 แห่ง ร้านสะดวกซื้อกว่า 2,300 แห่ง ตลาดขายส่ง 3 แห่ง และตลาดสดกว่า 500 แห่ง คณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์ต้องการให้ผู้ผลิตกระจายสินค้าผ่านร้านสะดวกซื้อและซุปเปอร์มาร์เก็ตมากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคจะสามารถมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้าได้ ทั้งนี้ ในปัจจุบัน มูลค่าการค้าจากร้านค้าปลีกในรูปแบบทันสมัยคิดเป็นเพียงร้อยละ 30 ของมูลค่าการค้าในตลาดค้าปลีกทั้งหมด ส่วนที่เหลือยังเป็นตลาดขายส่งและตลาดสด ดังนั้น
ในอนาคต ผู้ค้าปลีกจะต้องรับสินค้าจากแหล่งที่สามารถตรวจสอบได้
นอกจากนี้ คณะกรรมการความปลอดภัยด้านอาหาร นครโฮจิมินห์ (HCMC Food Safety Management Board) มีความร่วมมือกับผู้ผลิตจากจังหวัดลองอานและจังหวัดลัมด่ง ซึ่งเป็นแหล่งส่งผลิตภัณฑ์การเกษตรคุณภาพสูงให้กับร้านสะดวกซื้อและซุปเปอร์มาร์เก็ตในนครโฮจิมินห์ ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว มาตรการเกี่ยวกับความปลอดภัยด้านอาหารจะถูกตรวจตราอย่างเข้มงวดตั้งแต่ขั้นตอนการเพาะปลูก การเก็บเกี่ยว การแปรรูป ไปจนถึงการบรรจุหีบห่อ
งานสัมมนาดังกล่าวร่วมจัดโดยสหภาพสตรีเวียดนามในนครโฮจิมินห์ (Vietnam Women’s Union in
Ho Chi Minh City) และเครือซุปเปอร์มาร์เก็ต VinMart โดยมีความคาดหวังว่าสหภาพสตรีฯ จะช่วยเสริมสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยด้านอาหารในครัวเรือนด้วย
ที่มา: The Saigon Times Daily วันที่ 18 ธันวาคม 2561
URL: https://english.thesaigontimes.vn/64865/hcmc-to-have-2000-more-convenience-stores-50-supermarkets-by-2025.html
อีเมลสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์
ติดต่อทั่วไป
แผนกเศรษฐกิจ
แผนกกงสุล (หนังสือเดินทาง, นิติกรณ์และทะเบียนราษฎร์, บัตรประชาชน, การตรวจลงตราและรับรองเอกสาร)