ข่าวเด่นวันที่ 25 - 26 พฤษภาคม 2560

ข่าวเด่นวันที่ 25 - 26 พฤษภาคม 2560

วันที่นำเข้าข้อมูล 26 พ.ค. 2560

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 5 พ.ย. 2562

| 1,088 view

ข่าวเด่นวันที่ 25 - 26 พฤษภาคม 2560

1. นครโฮจิมินห์มีแผนจัดการกับสายไฟฟ้าภายใน 3 ปี

ภาพที่ 1 สายไฟฟ้าใยแมงมุมในนครโฮจิมินห์

ชาวนครโฮจิมินห์และนักท่องเที่ยวหลายคนจะสามารถมองเห็นสายไฟฟ้าที่พันกันอย่างยุ่งเหยิงในนครโฮจิมินห์ว่าเปรียบเสมือนใยแมงมุม ซึ่งเป็นดังสัญลักษณ์อันเลวร้ายของนครโฮจิมินห์มานานหลายปี ด้วยเหตุนี้ คณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์ประกาศว่า สายไฟฟ้าและสายโทรศัพท์บริเวณเขต 1 และ เขต 3 จะถูกนำลงไปอยู่ใต้ดินทั้งหมด ในขณะที่ในเขตอื่นๆ จะดำเนินการให้แล้วเสร็จร้อยละ 50 – 80 ภายในปี 2563

แผนการดังกล่าวถูกดำเนินการโดยบริษัทการไฟฟ้าแห่งชาติเวียดนาม (Electricity of Vietnam; EVN) สาขานครโฮจิมินห์โดยความร่วมมือของบริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่หลายราย เช่น บริษัท Viettel บริษัท VNPT บริษัท SCTV และอื่นๆ โดยคาดว่าจะสามารถติดตั้งเครือข่ายไฟฟ้าที่มีความยาวประมาณ 1,800 กิโลเมตรและเคเบิ้ลที่มีความยาวกว่า 2,000 กิโลเมตรให้สำเร็จ ในปัจจุบันเริ่มดำเนินการไปบางส่วนแล้ว

นาง Hoang Oanh เจ้าของร้านค้าแห่งหนึ่งบนถนน Vo Thi Sau ในเขต 3 นครโฮจิมินห์กล่าวว่า ในอดีต สายไฟฟ้าที่พันกันอยู่ที่หน้าร้านของเธอมักจะร่วงหล่นลงมาเนื่องจากรับน้ำหนักไม่ไหวและทำให้ชาวบ้านและผู้สัญจรเกิดความวิตกกังวลอย่างมากว่าจะเกิดอันตรายเกิดขึ้น แต่ตอนนี้ทางการได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้เรียบร้อยแล้ว

นาย Hoang Thuong อาศัยอยู่ในเขต 3 นครโฮจิมินห์กล่าวว่า ก่อนหน้านั้น ชาวนครโฮจิมินห์หลายคนชื่นชมถนนในเขต 7 และเขต 2 เพราะว่าไม่มีสายไฟฟ้าใยแมงมุมเหมือนกับในตัวเมือง

บริษัท EVN สาขานครโฮจิมินห์รายงานว่า บริษัทจะดำเนินการเก็บสายไฟฟ้าและสายโทรศัพท์ที่อยู่บริเวณถนน Vo Thi Sau ถนน Nguyen Dinh Chieu และถนน Dien Bien Phu ในเขต 3 ลงพื้นดินให้เสร็จภายในเดือนมิถุนายน และบริษัทได้ติดตั้งแผงพลังงานไฟฟ้าไว้ในถนนกว่า 40 สาย ในเขต 1 และ เขต 3 เรียบร้อยแล้ว โดยงบประมาณในการดำเนินงานทั้งหมดอยู่ที่ 4,300 ล้านล้านด่ง (ประมาณ 191.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

มีชาวบ้านบางกลุ่มวิจารณ์โครงการดังกล่าวว่าอาจจะส่งผลถึงความปลอดภัยในการใช้ชีวิตและความเสี่ยงที่ไฟฟ้าจะลัดวงจรใต้ดิน และการติดตั้งแผงไฟฟ้าความแรงสูงบริเวณตัวบ้าน อย่างไรก็ตามบริษัท EVN ได้ออกมารับประกันความปลอดภัยในการติดตั้งไฟฟ้าไว้ใต้ดินแล้ว

ที่มา หนังสือพิมพ์ Tuoi Tre วันที่ 23 พฤษภาคม 2560

URL: http://tuoitre.vn/tin/chinh-tri-xa-hoi/20170523/ba-nam-nua-tphcm-sach-bong-mang-nhen/1318941.html

 

2. ค่าเช่าสำนักงานและค่าเช่าพื้นที่ค้าปลีกในนครดานังลดราคาลง

ภาพที่ 2 อาคารสำนักงานให้เช่าในนครโฮจิมินห์

บริษัท Savills Vietnam บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังในเวียดนามรายงานว่า อาคารสำนักงานให้เช่าหลายแห่งในนครดานังมีราคาลดลงร้อยละ 9 ส่วนค่าเช่าพื้นที่ค้าปลีกมีราคาลดลงร้อยละ 8 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี ที่แล้ว

ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2559 ราคาเช่าพื้นที่ค้าปลีกในเขตตัวเมืองนครดานังลดลงร้อยละ 7.9 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และลดลงร้อยละ 4.2 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า อัตราการเช่าพื้นที่ลดลงร้อยละ 2.2 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าและลดลงร้อยละ 1.7 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของก่อนหน้า

จากสถิติเมื่อต้นปี 2560 ชี้ให้เห็นว่า พื้นที่ค้าปลีกให้เช่าในตัวเมืองนครดานังเพิ่มขึ้น 186,000 ตารางเมตร เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.4 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าและร้อยละ 10.7 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องมาจากการเปิดห้างสรรพสินค้า Nguyen Kim หลังจากปิดปรับปรุงมา 3 ไตรมาส เขต Hai Chau เป็นเขตที่มีพื้นที่ให้เช่าค้าปลีกมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 35 ของนครดานัง โดยเขต Than Khe ตามมาเป็นลำดับ 2 ด้วยอัตราการเช่าพื้นที่ร้อยละ 30 ของนครดานัง

ทั้งนี้ ในปัจจุบัน ราคาค่าเช่าพื้นที่สำนักงานในนครดานังมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ราคาค่าเช่าที่บางแห่งลดลงถึงร้อยละ 30 แต่ยังมีอัตราการเช่าที่อยู่ในระดับสูงถึงร้อยละ 93 เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 เมื่อกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยเมื่อนับถึงปลายปี 2559 นครดานังมีพื้นที่ให้เช่าสำนักงานทั้งหมด 85,000 ตารางเมตร จาก 24 โครงการโดยพื้นที่เช่าสำนักงานลดลงร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เนื่องจากมีโครงการที่มีพื้นที่ 1,000 ตารางเมตรล้มเลิกกิจการไป

ที่มา VNExpress วันที่ 23 พฤษภาคม 2560

URL: http://kinhdoanh.vnexpress.net/tin-tuc/bat-dong-san/van-phong-cho-thue-mat-bang-ban-le-da-nang-rot-gia-3588954.html

 

3. นครโฮจิมินห์มีแผนการวางผังเมืองใหม่ทั้งหมดเพื่อรองรับการเจริญเติบโตที่เพิ่มขึ้น

สำนักงานคณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์รายงานว่า ปัญหาที่คอยฉุดรั้งนักลงทุนที่จะลงทุนในโครงการใหญ่ๆ ในนครโฮจิมินห์ก็คือการจัดการกับปัญหาการวางผังเมืองในนครโฮจิมินห์ ซึ่งนักลงทุนจะต้องเผชิญปัญหาหลายขั้นตอน เช่น ปัญหาสภาพแวดล้อม ปัญหาคุณภาพของพื้นที่ ปัญหาความยืดหยุ่นของพื้นที่ และปัญหาทางด้านยุทธศาสตร์ ดังนั้น สำนักงานคณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะศึกษาและปรับแผนการวางผังเมืองทั้งหมดใหม่อีกครั้งหนึ่ง

นอกจากนั้น สืบเนื่องจากข้อจำกัดทางมาตรฐาน กฏเกณฑ์ และการจัดการเขตชุมชนเมืองในนครโฮจิมินห์ที่ไม่ตอบสนองกับความเป็นจริงส่งผลให้การบริหารจัดการผังเมืองภายในนครโฮจิมินห์ไม่มีประสิทธิภาพ การบังคับใช้กฏหมายของเจ้าหน้าที่ยังไม่มีประสิทธิภาพ ทำให้บางโครงการที่ได้รับการอนุมัติให้ลงทุนแล้วไม่สามารถดำเนินต่อไปได้และต้องให้เจ้าหน้าที่แก้ไขอีกหลายครั้ง

ดังนั้น สำนักงานคณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์กล่าวว่า ทางสำนักงานจะตรวจสอบการวางแผนผังเมืองใหม่ครั้งนี้อย่างละเอียดเพื่อที่จะให้การดำเนินงานออกมาดีที่สุดเพื่อให้เขตตัวเมืองสามารถพัฒนาได้อย่างเต็มที่ ซึ่งในอดีต นครโฮจิมินห์ไม่สามารถจัดการกับปัญหาดังกล่าวได้เลย สืบเนื่องมาจากความรวดเร็วในการพัฒนาเขตตัวเมือง ดังนั้น การดำเนินการในครั้งนี้จะพิจารณาถึงปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจและสังคมให้มากขึ้น

ก่อนหน้านี้ กฏหมายการวางผังเมืองนครโฮจิมินห์จนถึงปี 2568 ได้รับการอนุมัติจากนายกรัฐมนตรีในวันที่    6 มกราคม 2553 ซึ่งเป็นกฏหมายการวางผังเมืองฉบับล่าสุด

ที่มา หนังสือพิมพ์ The Saigon Times Daily วันที่ 24 พฤษภาคม 2560 หน้า 1

 

4. เงินสนับสนุนส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าไปสู่จังหวัดบิ่นห์เยืองและจังหวัดด่งนายยังคงไม่ชัดเจน

ภาพที่ 3 เริ่มสร้างโครงการรถไฟฟ้าในตัวเมืองนครโฮจิมินห์

คณะกรรมการบริหารจัดการรถไฟในตัวนครโฮจิมินห์ (HCMC Management Authority for Urban Railways; MAUR) กล่าวว่าเงินสนับสนุนส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าหมายเลข 1 (Ben Thanh – Suoi Tien) ไปยังจังหวัด     บิ่นห์เบืองและจังหวัดด่งนายยังคงไม่ได้รับการอนุมัติ ในขณะที่เจ้าของโครงการก่อสร้างกำลังประสบปัญหาทางด้านการเงินเนื่องมาจากความล่าช้าในการจัดสรรเงินจากรัฐบาลกลาง

MAUR รายงานต่อว่า โครงการระยะที่ 1A คือการก่อสร้างทางรถไฟฟ้าใต้ดินจากสถานี Ben Thanh ไปยัง Opera House เสร็จสิ้นแล้วร้อยละ 5 โครงการระยะที่ 1B คือการก่อสร้างทางรถไฟฟ้าใต้ดินจาก Opera House ไปยังสถานี Ba Son เสร็จสิ้นแล้วร้อยละ 45 โครงการระยะ 2 สำหรับการก่อสร้างทางยกระดับจากสถานี Ba Son    ไปยังสถานี Suoi Tien ระยะทาง 17.1 กิโลเมตรเสร็จสิ้นแล้วร้อยละ 67 โครงการระยะที่ 3 ในการซื้อหัวรถไฟฟ้า ตัวขบวนรถไฟฟ้า และรางเสร็จสิ้นแล้วร้อยละ 12 โดยผู้รับเหมากำลังนำเข้ารางรถไฟฟ้าและกำลังมีแผนการจะติดตั้งในช่วงเดือนสิงหาคม 2560 และจะนำเข้ารถไฟฟ้าขบวนแรกในเดือนมิถุนายน 2561 โครงการระยะที่ 4 คือโครงการติดตั้งระบบเทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับการดำเนินการและการบำรุงรักษาคาดว่าจะเริ่มดำเนินการทางเทคนิคได้ภายในปลายปี 2560

นอกจากนั้น ผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าหมายเลข 1 ได้ส่งหนังสือขอร้องให้ทางคณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์พิจารณาชำระเงินค่าโครงการให้เร็วขึ้น มิเช่นนั้น ผู้รับเหมาอาจจะหยุดโครงการก่อสร้างหรือใช้เวลาในการก่อสร้างเพิ่มขึ้น

นาย Le Nguyen Minh Quang ผู้อำนวยการ MAUR กล่าวว่า ในปีนี้ นครโฮจิมินห์ต้องการเงิน 5.2 ล้านล้านด่ง (ประมาณ 289 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) สำหรับรถไฟฟ้าหมายเลข 1 แต่เงินสนับสนุนจากความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการ (ODA) ที่ทางกระทรวงการวางแผนและการลงทุนมอบให้มีเพียงแค่ 2.9 ล้านล้านด่ง    ทำให้แผนการสร้างรถไฟฟ้าอาจจะล่าช้ากว่ากำหนด และอาจจะประสบกับปัญหา 3 ด้านด้วยกัน ได้แก่ 1. ผู้เชี่ยวชาญที่ทำงานในโครงการนี้อาจจะลาออก 2. การส่งมอบเงินล่าช้าอาจต้องชดเชยค่าเสียหายที่เกิดขึ้นตามที่ระบุไว้ในสัญญา 3. ภาพลักษณ์เสียหายต่อนักลงทุน ทั้งนี้ องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศญี่ปุ่น (Japan International Cooperation Agency; JICA) ได้แสดงออกถึงความกังวลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นได้ส่งมอบแผนส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าหมายเลข 1 ไปยังจังหวัดบิ่นห์เยืองและจังหวัดด่งนายให้ MAUR ในเดือนกุมภาพันธ์ 2560

นาย Phan Nhat Linh หัวหน้าแผนกการวางแผนและการลงทุน สังกัด MAUR กล่าวถึงประเด็นข้างต้นว่า ผู้บริหารโครงการต้องการที่จะสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายระยะทาง 2 กิโลจากสถานี Suoi Tien ไปยังสถานี      Nut Giao ในจังหวัดบิ่งห์เยือง และจากสถานีข้างต้น ขบวนรถไฟฟ้าจะแยกเป็น 2 สายย่อยโดยสายหนึ่งไปยังจังหวัดบิ่งห์เยืองและอีกสายหนึ่งไปยังจังหวัดด่งนาย โดยคาดว่าการสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย 2 กิโลเมตรดังกล่าวจะต้องใช้เงินประมาณ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ทุกฝ่ายยังไม่สามารถหาทางออกเรื่องเงินสนับสนุนในโครงการดังกล่าวได้ อย่างไรก็ดี JICA ได้กล่าวว่าจะพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการสนับสนุนโครงการนี้

หากโครงการส่วนต่อขยายดังกล่าวได้รับการอนุมัติและร่วมมือจากทุกๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะสามารถเพิ่มจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการรถไฟฟ้าได้เป็นจำนวนมาก ลดปัญหาผู้ใช้รถใช้ถนนที่มุ่งหน้าเข้า-กลับนครโฮจิมินห์    ได้อย่างมาก และลดปัญหาการจราจรติดขัดภายในตัวเมืองและทางฝั่งตะวันออกของนครโฮจิมินห์

ที่มา หนังสือพิมพ์ Sai Gon Giai Phong วันที่ 25 พฤษภาคม 2560 หน้า 11 และหนังสือพิมพ์ The Saigon Times Daily วันที่ 25 พฤษภาคม 2560 หน้า 2

 

5. นาข้าวกว่า 100 เฮกตาร์ในจังหวัดก่าเมากำลังเสี่ยงที่จะสูญเสียผลผลิตข้าวในนาทั้งหมด

นาย Nguyen Tran Thuc ผู้อำนวยการสำนักงานและรักษาพันธุ์พืชจังหวัดก่าเมาให้สัมภาษณ์ว่า ในปัจจุบัน      มีนาข้าวกว่า 113 เฮกตาร์ในจังหวัดมีความเสี่ยงที่จะสูญเสียผลผลิตทั้งหมดเนื่องมาจากปัญหาสภาพอากาศ     การขาดน้ำ วัชพืช และอื่นๆ บริเวณที่ประสบปัญหามากที่สุดคือที่หมู่บ้าน Tran Hoi หมู่บ้าน Khanh Hung หมู่บ้าน Khanh Loc หมู่บ้าน Khanh Hai หมู่บ้าน Khanh Binh หมู่บ้าน Khanh Binh Dong หมู่บ้าน      Khanh Binh Tay และหมู่บ้าน Tran Van Thoi

เหล่าเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบในหลายๆ หมูบ้านดังกล่าวให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากปลูกข้าวครั้งที่ 2 เสร็จ       ตนสังเกตุเห็นว่าระดับน้ำยังคงมีมากและเกษตรกรก็เริ่มทำการปลูกข้าวครั้งที่ 3 เลย แม้ว่าทางการจะประกาศเตือนแล้ว โดยในช่วง 1 เดือนแรก การปลูกข้าวดูเหมือนจะไปได้ดี แต่หลังจากนั้น ข้าวในนาเริ่มแสดงอาการติดโรคและขาดน้ำ ทำให้ไม่เจริญเติบโตเท่าที่ควร นอกจากนั้น นาข้าวยังประสบปัญหาถูกสัตว์ เช่น นกและหนูมากัดกินเป็นบริเวณกว้าง

นาย Thuc กล่าวว่า พื้นที่ปลูกข้าวครั้งที่ 3 เก็บเกี่ยวผลผลิตไปบ้างแล้วประมาณ 420 เฮกตาร์ แต่จำนวนผลผลิตน้อยมาก ประมาณ 2.5 – 3 ตันต่อเฮกตาร์เท่านั้น

สำนักงานการเกษตรจังหวัดก่าเมาชี้ว่า ชาวนาไม่ควรเร่งปลูกข้าวครั้งที่ 3 โดยควรจะเน้นการผลิตข้าวครั้งที่ 2    ให้ได้ผลผลิตเป็นจำนวนมากแทน และช่วงเวลาผลัดเปลี่ยนการปลูกข้าวควรจะใช้เพื่อฟื้นฟูสภาพดินให้ดีเสียก่อน

ปัจจุบัน จังหวัดก่าเมามีพื้นที่ทำการเกษตรประมาณ 100,000 เฮกตาร์ ผลผลิตประมาณ 500,000 – 550,000   ต่อปี

ที่มา หนังสือพิมพ์ Bao Tin Tuc วันที่ 25 พฤษภาคม 2560

URL: http://baotintuc.vn/kinh-te/ca-mau-co-tren-100-ha-lua-vu-3-truoc-nguy-co-mat-trang-20170525094203503.htm

 

6. นครโฮจิมินห์เร่งจัดการกับปัญหาทางเท้าอีกครั้ง

ภาพที่ 4 เจ้าหน้าที่เขต 1 กำลังจัดการกับรถยนต์ที่จอดผิดที่

นาย Nguyen Thanh Phong ประธานคณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์ได้กล่าวว่าการจัดระเบียบทางเท้าและถนนในนครโฮจิมินห์เมื่อตนพูดไปแล้วจะต้องทำให้สำเร็จตามที่เคยสั่งการไว้ให้ได้ อย่างไรก็ตาม หลังจากการบังคับใช้กฎหมายใหม่ได้สองเดือนยังปรากฏความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยบนทางเท้าและท้องถนนอยู่

นาย Nguyen Ngoc Tuong รองหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยในการจราจรนครโฮจิมินห์กล่าวว่า ใน 2 เดือนที่ผ่านมา ถนนและทางเท้าหลายสายมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น ประชาชนที่เคยทำประกอบกิจการล้ำมาบนทางเท้าได้เปลี่ยนพฤติกรรมไปมาก เมื่อไม่นานมานี้ มีถนน 85 เส้นเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น ถนนอีก 85 เส้นมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น และถนนอีก 15 เส้นยังมีสภาพคงเดิม โดยคณะทำงานจะพยายามบังคับใช้กฎหมายต่อผู้กระทำผิดให้มากขึ้นกับบุคคลที่ประกอบกิจการล้ำมาบนทางเท้า จอดรถไม่เป็นระเบียบ และขับรถขึ้นมาบนทางเท้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ร้านอาหารและร้านสุราที่ขายบนทางเท้าต่างๆ บนถนน Truong Sa ถนน Hoang Sa ถนน Pham Van Dong ถนนหลวงหมายเลข 22 บริเวณ เรียบคลอง และบริเวณถนนอื่นๆ อีกหลายสาย ตลอดจนผู้ให้บริการที่จอดรถที่นำรถไปจอดเกินบริเวณที่กำหนด

นับตั้งแต่เริ่มใช้กฏหมายปรับปรุงทางเท้า คณะกรรมการตรวจสอบทางเท้า สังกัดสำนักงานคมนาคมนครโฮจิมินห์ได้ร่วมมือกับหลายๆ ฝ่ายได้ดำเนินการปรับผู้กระทำความผิดบนทางเท้ากว่า 1,132 ครั้ง ค่าปรับรวม 1.3  พันล้านด่ง

ที่มา หนังสือพิมพ์ Tuoi Tre วันที่ 25 พฤษภาคม 2560 หน้า 5

************************************

ศูนย์ข้อมูลธุรกิจไทยในนครโฮจิมินห์