ข่าวเด่นวันที่ 26 -28 มิถุนายน 2560

ข่าวเด่นวันที่ 26 -28 มิถุนายน 2560

วันที่นำเข้าข้อมูล 28 มิ.ย. 2560

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 5 พ.ย. 2562

| 917 view

ข่าวเด่นวันที่ 26 - 28 มิถุนายน 2560

1. นครโฮจิมินห์บล็อคบัญชี Facebook ผู้ประกอบการที่เลี่ยงการชำระภาษี

สำนักงานสรรพากรนครโฮจิมินห์ได้ประกาศว่า จะร่วมมือกับผู้ให้บริการเครือข่ายอินเตอร์เน็ตในการบล็อคบัญชี Facebook และเว็บไซต์ต่างๆ ที่เลี่ยงการจ่ายภาษี

นาย Anh Dung ผู้ขายเครื่องสำอางบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ตในนครโฮจิมินห์ยอมรับว่า ค่อนข้างตกใจกับประกาศดังกล่าวและไม่ทราบว่าทางการจะใช้วิธีใดในการบล็อคบัญชี Facebook ของตน อย่างไรก็ดี การบล็อค Facebook อาจจะไม่มีประสิทธิภาพมากนัก เพราะผู้ประกอบการที่ขายสินค้าบน Facebook ส่วนตัวมักมีกลุ่มขายสินค้าออนไลน์ด้วย

นาง Nguyen ผู้ส่งออกเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายมายังเวียดนาม ซึ่งกำลังอาศัยอยู่ที่ประเทศจีน ตั้งคำถามกับทางการนครโฮจิมินห์ว่า ตนมักจะโพสต์ขายสินค้าบน Facebook แต่ตนไม่ได้ใช้เครือข่ายอินเตอร์เน็ตของเวียดนาม ดังนั้น ทางสำนักงานสรรพากรนครโฮจิมินห์จะสามารถบล็อคบัญชี Facebook ของตนได้อย่างไร ?

ตัวแทนของสำนักงานสรรพากรนครโฮจิมินห์กล่าวถึงการบล็อคบัญชี Facebook ว่า สำนักงานจะร่วมมือกับผู้บริการเครือข่ายอินเตอร์เน็ต และผู้แทนจาก Facebook ในการบล็อคบัญชีผู้ประกอบการที่ขายสินค้าจำนวนมากแต่ไม่เสียภาษีให้ภาครัฐ และประสงค์จะสร้างบัญชี Facebook ใหม่ ก็จะเป็นการยากที่จะทำให้ยอดผู้ติดตามมีจำนวนเท่าเดิม

เมื่อไม่นานมานี้ สำนักงานสรรพากรนครโฮจิมินห์ได้ส่งหนังสือผู้ประกอบการบน Facebook จำนวน 13,469 คน เข้าหารือและให้นำเอกสารรายรับมาเปิดเผยกับทางการ อย่างไรก็ดี หลายรายยังไม่ให้ความร่วมมือ

นอกจากนั้น สำนักงานสรรพากรนครโฮจิมินห์ยังได้ร่วมมือกับสำนักงานอุตสาหกรรมและการค้า สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศ และสำนักงานตำรวจนครโฮจิมินห์ ในการตรวจสอบบัญชีรายชื่อผู้ประกอบการบน Facebook เพื่อดำเนินการขั้นต่อไป

นาย Nguyen Thai Son อดีตหัวหน้าฝ่ายภาษีนิติบุคคล สำนักงานสรรพากร นครโฮจิมินห์ กล่าวว่า ตั้งแต่อดีต สำนักงานสรรพากรยังคงใช้รูปแบบการจัดเก็บภาษีแบบเดิมๆ คือการเชิญผู้ทำการค้ามาเสียภาษีให้สำนักงานโดยตรง ซึ่งทำให้มีผู้ประกอบการจำนวนมากสามารถหลีกเลี่ยงการชำระภาษีได้ เช่น การไม่มาจ่ายภาษีเลยหรือการแจ้งว่าตนมีรายได้จากการค้าขายบน Facebook ไม่ถึง 100 ล้านด่งต่อปี ทำให้ไม่อยู่ในกลุ่มบุคคลที่ต้องเสียภาษี  ถึงแม้ว่าสำนักงานสรรพากรจะใช้วิธีการตรวจสอบผ่านบัญชีธนาคารได้ก็ตาม ดังนั้น ทางสำนักงานควรจะมีมาตรการใหม่ๆ ที่หลากหลายในการตรวจสอบและจัดเก็บภาษีเหล่านั้นอย่างมีประสิทธิภาพ

ที่มา หนังสือพิมพ์ Tuoi Tre วันที่ 26 มิถุนายน 2560 หน้า 6

 

2. ญี่ปุ่นเริ่มนำเข้าเนื้อสัตว์ปีกจากเวียดนามอย่างเป็นทางการ

จากข้อมูลของกรมปศุสัตว์ สังกัดกระทรวงการเกษตรและการพัฒนาชนบทเวียดนาม นับตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายน ญี่ปุ่นอนุญาตให้บริษัท Koyu & Unitek ที่ตั้งอยู่ที่จังหวัดด่งนาย สามารถส่งออกเนื้อสัตว์ปีกไปยังประเทศญี่ปุ่นได้ โดยเนื้อสัตว์ปีกล็อตแรกที่บริษัทจะส่งไปยังประเทศญี่ปุ่นมีจำนวนถึง 300 ตัน

ก่อนหน้านี้ไม่นาน กรมปศุสัตว์เวียดนามได้ร่วมมือกับบริษัท Koyu & Unitek และกรมปศุสัตว์ญี่ปุ่น ในการตรวจสอบขั้นตอนการเลี้ยงสัตว์ปีก ตลอดจนกระบวนการการแปรรูปและการผลิตให้ได้มาตรฐานการนำเข้าสัตว์ปีกของประเทศญี่ปุ่น โดยกรมปศุสัตว์ญี่ปุ่นได้ส่งผู้แทนมาตรวจสอบถึงที่โรงงานด้วยตนเอง เพื่อรับรองคุณภาพและความปลอดภัยของปศุสัตว์ ซึ่งให้ความสำคัญกับการตรวจสอบเชื้อโรคและไวรัสชนิดต่างๆ มากเป็นพิเศษ

ในเดือนมีนาคม 2560 บริษัท Koyu & Unitek ได้เปิดโรงงานแปรรูปเนื้อไก่แห่งใหม่ มูลค่าการลงทุนกว่า 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยใช้เทคโนโลยีจากประเทศญี่ปุ่น มีกำลังการแปรรูปไก่กว่า 50,000 ตัวต่อวัน เพื่อเตรียมพร้อมส่งสินค้าไปยังประเทศญี่ปุ่นและแปรรูปเป็นอาหารนานาชนิด เช่น ไก่ทอด เบอร์เกอร์ไก่ ลูกชิ้นไก่ และอื่นๆ

จากข้อมูลของกรมปศุสัตว์เวียดนาม บริษัท Koyu & Unitek เป็นบริษัทแรกในประเทศเวียดนามที่สามารถส่งออกเนื้อไก่ไปยังประเทศญี่ปุ่นได้อย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ บริษัท CP Vietnam ก็กำลังเตรียมตัวยื่นลงทะเบียนส่งออกเนื้อสัตว์ปีกไปยังประเทศญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน

ในเร็วๆ นี้ กรมปศุสัตว์เวียดนามจะพยายามช่วยเหลือบริษัท Koyu & Unitek ให้สามารถส่งออกเนื้อสัตว์ปีกแปรรูปไปยังตลาดประเทศยุโรปและตลาดประเทศอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อพัฒนาศักยภาพการส่งออกเนื้อสัตว์ปีกของเวียดนามให้มีช่องทางในการส่งออกสินค้าที่หลากหลายขึ้น

ที่มา สำนักข่าว Bao Dau Tu วันที่ 26 มิถุนายน 2560

URL: http://baodautu.vn/300-tan-thit-ga-viet-len-duong-sang-nhat-ban-d65661.html

 

3. กระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบทเรียกร้องให้เกษตรกรปลูกข้าวเพิ่มขึ้นแม้เสี่ยงประสบปัญหาน้ำท่วม

กระทรวงการเกษตรและการพัฒนาชนบทได้เรียกร้องให้เกษตรกรเร่งผลิตข้าวในช่วงฤดูปลูกข้าวเดือนมีนาคม – ตุลาคมเพิ่มมากขึ้น แม้จะเสี่ยงประสบปัญหาน้ำท่วมสูงก็ตาม

ในวันที่ 23 มิถุนายน 2560 นาย Le Quoc Doanh รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการเกษตรและการพัฒนาชุมชน กล่าวในที่ประชุมหัวข้อการผลิตข้าวในบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงที่นครเกิ่นเทอ ใจความว่า ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงใช้มาตรการในการรับรองความปลอดภัยในการผลิตข้าวในช่วงฤดูปลูกข้าวเดือนมีนาคม – ตุลาคมปีนี้ เนื่องจากฤดูเก็บเกี่ยวข้าวปีนี้มีความสำคัญอย่างมาก ราคาส่งออกข้าวเพิ่มขึ้นสูง แต่ปริมาณการผลิตข้าวในช่วงฤดูปลูกข้าวเดือนตุลาคมปีที่แล้ว – มิถุนายนปีนี้มีแนวโน้มลดลง เนื่องจากฝนตกมากขึ้นและแดดน้อยลง

นาย Le Thanh Tung ตัวแทนสำนักงานกสิกรรม สังกัดกระทรวงการเกษตรและการพัฒนาชนบท กล่าวว่า มีการประเมินว่า ปริมาณการผลิตข้าวในบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงในช่วงฤดูปลูกข้าวเดือนมีนาคม – ตุลาคมในปีนี้ อยู่ที่ประมาณ 4.65 ล้านตัน เพิ่มขึ้นกว่า 446,000 ตันจากเมื่อเทียบกับเวลาเดียวกันของปี 2559 พื้นที่ที่ใช้ในการปลูกข้าวในปีนี้มีประมาณ 832,000 เฮกตาร์ เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ประมาณ 7,071 เฮกตาร์ ศักยภาพการผลิตข้าว 5.6 ตันต่อ 1 เฮกตาร์ เพิ่มขึ้นครึ่งตันต่อ 1 เฮกตาร์ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2559

นาย Tung กล่าวเสริมว่า เมื่อ 10 ปีที่แล้ว มีเพียง 5 จังหวัดจาก 13 จังหวัดในบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงเท่านั้นที่ทำการเพาะปลูกข้าวในช่วงฤดูปลูกข้าวเดือนมีนาคม – ตุลาคม แต่ปัจจุบัน ทั้ง 13 จังหวัดสามารถปลูกข้าวช่วงดังกล่าว ซึ่งทำให้ยอดการส่งออกและราคาข้าวสูงขึ้นอย่างมาก โดยบริเวณพื้นที่ปลูกข้าวที่ไม่เสี่ยงต่อการประสบปัญหาน้ำท่วมจะได้รับการดูแลเป็นพิเศษเพื่อรับประกันผลผลิต

ข้อมูลจากสมาคมอาหารเวียดนามชี้ให้เห็นว่า การส่งออกข้าวในช่วงเดือนมกราคมถึงพฤษภาคม 2560 มีปริมาณ 2.3 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.71 โดยมีมูลค่าราคา ณ ต้นทาง (Free on Board Price; FOB Price)  ประมาณ 975 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.29 จากปี 2559 และมูลค่าราคารวมค่าระวางและประกันภัยสินค้า (Cost Insurance Freight Price; CIF Price) กว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.29 จากปี 2559 มูลค่า FOB เฉลี่ยอยู่ที่ 427.17 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน เพิ่มขึ้น 6.06 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน อย่างไรก็ดี ผู้ส่งออกข้าวเวียดนามได้ทำข้อตกลงขายข้าวถึง 3.5 ล้านตันในขณะที่คลังเก็บข้าวมีปริมาณเพียง 1.15 ล้านตัน ทำให้ทุกฝ่ายต้องเร่งการผลิตข้าวให้เพียงพอต่อการส่งออก

กระทรวงการคลังรายงานว่า การผลิตข้าวโดยเฉลี่ยในบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงในช่วงฤดูปลูกข้าวเดือนมีนาคม – มิถุนายน มีมูลค่า 3,992 ด่งต่อกิโลกรัม (ประมาณ 0.18 ดอลลาร์สหรัฐต่อกิโลกรัม) เพิ่มขึ้น 154 ด่งต่อกิโลกรัมเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2559 จังหวัดเบ๊นแจมีมูลค่าการผลิตข้าวที่สูงที่สุดประมาณ 5,192   ด่งต่อกิโลกรัม และจังหวัดก่าเมามีมูลค่าการผลิตข้าวต่ำที่สุดประมาณ 3,148 ด่งต่อกิโลกรัม

กรมอุตุนิยมวิทยาภาคใต้ของเวียดนามพยากรณ์ว่า ในปี 2560 มีโอกาสเกิดน้ำท่วมเร็วกว่าปกติ โดยในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม ระดับน้ำบริเวณต้นน้ำในอำเภอ Tan Chau จังหวัดด่งทับ และอำเภอ Chau Doc จังหวัดอันยาง จะเพิ่มขึ้นถึง 2.5 - 3 เมตร ซึ่งจะทำให้อำเภอ Tan Hung และ Vinh Hung ในจังหวัดลองอาน และพื้นที่อุตสาหกรรมในจังหวัดอันยางและด่งทับเสี่ยงประสบปัญหาน้ำท่วม

 ที่มา หนังสือพิมพ์ The Saigon Times Daily วันที่ 26 มิถุนายน 2560 หน้า 1

 

4. นครดานัง – จังหวัดกว๋างนามร่วมกันสนับสนุนผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและเนื้อสัตว์ปลอดสารพิษ

เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2560 คณะกรรมการประชาชนนครดานังและคณะกรรมการประชาชนจังหวัดกว๋างนามได้ลงนามในข้อตกลงในการพัฒนาผลิตภัณฑ์การเกษตรและเนื้อสัตว์ปลอดสารพิษ โดยทั้ง 2 จังหวัดจะร่วมกันตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์การเกษตรและเนื้อสัตว์ จังหวัดกว๋างนามจะตรวจสอบขั้นตอนการผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในจังหวัด ทุกขั้นตอน ตั้งแต่กระบวนการปลูกพืช – ผัก การเลี้ยงสัตว์ จนไปถึงกระบวนการบรรจุภัณฑ์ ก่อนที่จะส่งไปให้นครดานัง ส่วนนครดานังจะนำผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากจังหวัดกว๋างนามไปตรวจสอบอีกทีก่อนที่จะนำขายในตลาด ซุปเปอร์มาเก็ต และร้านสะดวกซื้อในนครดานังต่อไป

สำนักงานการเกษตรและการพัฒนาชนบทจังหวัดกว๋างนามและสำนักงานอุตสาหกรรมและการค้านครดานังจะเป็นผู้รับผิดชอบร่วมกันในการตรวจสอบกระบวนการข้างต้น และจะร่วมกันโฆษณาเพื่อดึงดูดทั้งผู้บริโภคและเกษตรกรให้มีความสนใจปลูกพืชผักและเนื้อสัตว์ปลอดสารพิษเพิ่มขึ้นด้วย

การร่วมมือกันของทั้ง 2 จังหวัดจะช่วยพัฒนาการผลิตผลิตภัณฑ์การเกษตรและเนื้อสัตว์ปลอดสารพิษและเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์การเกษตรและเนื้อสัตว์ปลอดสารพิษของจังหวัดกว๋างนาม ตลอดจนเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในนครดานังอีกด้วย

ในแต่ละปี จังหวัดกว๋างนามส่งออกอาหารทะเลมากกว่า 100,000 ตัน ส่งออกผัก-ผลไม้ กว่า 240,000 ตัน และ ส่งออกเนื้อสัตว์กว่า 60,000 ตัน ในจำนวนนั้น เป็นการส่งออกผักไปยังนครดานังกว่า 6,000 ตัน ส่งออกเนื้อสุกร 5,000 ตัน ส่งออกเนื้อวัว 4,000 ตัน และส่งออกเนื้อเป็ด-ไก่ 400 ตัน

ที่มา สำนักข่าว Bao Chinh Phu วันที่ 22 มิถุนายน 2560

URL: http://baochinhphu.vn/doi-song/da-nangquang-nam-hop-tac-san-xuat-tieu-thu-nong-san-an-toan/309292.vgp

 

5. นักลงทุนชาวต่างชาติสนใจลงทุนในโครงการพลังงานลมในจังหวัดบากเลียว

บริษัท UPC Renewables และคณะกรรมการประชาชนจังหวัดบากเลียวได้ร่วมกันหารือในการดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังลม ตัวแทนของบริษัทฯ ได้นำเสนอรายงานโครงการลงทุน ซึ่งประกอบด้วย แผนการลงทุนของบริษัท สถานที่ที่บริษัทสนใจลงทุน และศักยภาพในการดำเนินโครงการของบริษัท ซึ่งบริษัทดังกล่าวเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญชั้นนำของโลกในการพัฒนาโครงการพลังงานทดแทน

จนถึงปัจจุบัน บริษัทฯ ใช้เงินลงทุนในทุกประเทศทั่วโลกมากกว่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และสามารถผลิตไฟฟ้ารวม 2,000 MW ทั้งนี้ หากจังหวัดบากเลียวอนุมัติแผนการลงทุนดังกล่าว บริษัทฯ จะใช้เวลาราว 6 – 9 เดือนในการติดตั้ง และ 1 เดือนในการทดลองใช้งาน

บริษัทฯ วางแผนที่จะลงทุนโรงงานผลิตไฟฟ้าที่มีกำลังการผลิต 200 MW ในจังหวัดบากเลียว โครงการจะแบ่งออกเป็น 2 ระยะ ในระยะแรกจะสามารถผลิตไฟฟ้าได้ 50 MW และ ในระยะที่สองสามารถผลิตไฟฟ้าได้ 150 MW นอกจากนั้น บริษัทฯ วางแผนที่จะขออนุญาตขยายโรงแปลงพลังงานไฟฟ้าทั้งหมด 220 แห่งในจังหวัดอีกด้วย โดยก่อนหน้านี้ บริษัทฯ ได้ตรวจสอบการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์และพบว่า บริษัทฯ สามารถพัฒนาโรงแปลงพลังงานไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพดีกว่าเดิมได้

นาย Duong Thanh Trung ประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดบากเลียว กล่าวว่า หากโครงการข้างต้นประสบความสำเร็จ บริษัทจะสามารถขยายการลงทุนในการผลิตไฟฟ้าออกไปยังบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงและทั่วประเทศเวียดนามด้วย ดังนั้น จังหวัดบากเลียวจะให้การสนับสนุนการลงทุนของบริษัทฯ อย่างเต็มที่

ที่มา สำนักข่าว Vietnam Investment Review วันที่ 20 มิถุนายน 2560

URL: http://www.vir.com.vn/bac-lieu-foreign-investors-eye-wind-power-projects.html

*********************************************************

ศูนย์ข้อมูลธุรกิจไทยในนครโฮจิมินห์