ข่าวเด่นวันที่ 16-31 สิงหาคม 2563

ข่าวเด่นวันที่ 16-31 สิงหาคม 2563

วันที่นำเข้าข้อมูล 10 ก.ย. 2563

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565

| 1,070 view

บริษัท Millennium มีแผนจะพัฒนาโครงการ LNG มูลค่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในจังหวัดคั้ญหว่า

millenium_lng_khanh_hoa

บริษัท Millennium สัญชาติอมเริกันมีแผนการจะพัฒนาโครงการ LNG มูลค่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในจังหวัดคั้ญหว่า ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ 600 เฮกตาร์และมีกำลังการผลิต 9,600 เมกะวัตต์ ซึ่งจะกลายเป็นแหล่งผลิตพลังงานก๊าซธรรมชาติ (LNG) ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ จะก่อสร้างโรงเก็บก๊าซที่ท่าเรือเพื่อเป็นแหล่งเชื้อเพลิงแก่โครงการผลิคพลังงานดังกล่าวและจะกระจายผลผลิต LNG ส่งออกไปในภูมิภาคอีกด้วย ทั้งนี้ ยังไม่แน่นอนว่าโครงการจะตั้งอยู่ในอำเภอ Ninh Phuoc หรือ Ninh Hoa

บริษัทให้ข้อมูลว่า เมื่อคณะกรรมการประชาชนจังหวัดนิญถ่วนอนุมัติให้ลงทุนในโครงการแล้ว รัฐบาลสหรัฐฯ จะเป็นผู้รับประกันโครงการดังกล่าวและร่วมมือกับรัฐบาลเวียดนามในการดำเนินการโครงการต่อไป ในการนี้ คณะกรรมการประชาชนจังหวัดคั้ญหว่าได้มอบหมายให้คณะกรรมการบริหารเขตเศรษฐกิจ Van Phong เตรียมจัดทำข้อตกลงกับบริษัทในการสำรวจความเป็นไปได้ (feasibility study) ของโครงการ อย่างไรก็ดี ขณะนี้สายส่งไฟฟ้าในจังหวัดได้ดำเนินการเต็มกำลังจนล้นความจุแล้ว จังหวัดจึงอนุญาตให้บริษัทลงทุนด้านสายส่งไฟฟ้าเพิ่มด้วยหากบริษัทต้องการ

ปัจจุบันมีนักลงทุนที่สนใจลงทุนในโครงการ LNG ในจังหวัดจำนวนมาก เมื่อเดือนกรกฎาคม 2562 บริษัท Petrolimex และ JXTG Holdings Tsutomu Sugimori ได้ทำข้อตกลงความเข้าใจ (MoU) ระหว่างกันเพื่อพัฒนาโครงการ LNG ในจังหวัดคั้ญหว่าร่วมกัน โดยในระยะแรก จะสร้างโรงผลิตไฟฟ้าด้วย gas turbine 2 แห่งที่มีกำลังการผลิตรวม 3,000 เมกะวัตต์และ LNG Terminal ความจุ 180,000 ลูกบาศก์เมตร และในระยะที่ 2 จะสร้างโรงผลิตไฟฟ้าเพิ่มอีก 2 แห่งที่มีกำลังการผลิตรวม 3,000 เมกะวัตต์

ที่มา: Vietnam Net วันที่ 6 สิงหาคม 2563

https://vietnamnet.vn/en/business/millenium-to-develop-15-billion-lng-project-in-khanh-hoa-province-664046.html

 

เวียดนามมีแผงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา 42,000 โครงการ

42k_rooftop

การไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) รายงานว่าในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2563 มีการติดตั้งแผงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (rooftop solar) ประมาณ 20,000 โครงการ กำลังการผลิตรวม 541.66 เมกะวัตต์ ทำให้ปัจจุบันเวียดนามมีแผงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาที่กำลังดำเนินการอยู่ทั้งหมด 42,187 โครงการ กำลังการผลิตรวม 925.8 MWp

ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกรกฎาคม 2563 การไฟฟ้าเวียดนามสามารถผลิตไฟฟ้าได้ทั้งหมด 1.42 แสนล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.09 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 ประกอบด้วยไฟฟ้าพลังงานน้ำ 2.92 หมื่นล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง (ลดลงร้อยละ 20.52) พลังงานจากถ่านหิน 8.08 หมื่นล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง (เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.54) ก๊าซ 2.24 หมื่นล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง (ลดลงร้อยละ 15.36) พลังงานจากน้ำมัน 1.03 พันล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง (เพิ่มขึ้นร้อยละ 33.11) และพลังงานหมุนเวียน ได้แก่ พลังงานแสงอาทิตย์ ลมและชีวมวล 6.33 พันล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง โดยไฟฟ้าเชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้นเป็น 1.22 แสนล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.3 นอกจากนี้ การไฟฟ้าเวียดนามได้ก่อสร้างโรงงานผลิตไฟฟ้าเสร็จสิ้น 81 โครงการและได้เชื่อมต่ออีก 63 โครงการเข้าสู่โครงข่ายพลังงานแห่งชาติด้วย

อย่างไรก็ดี กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า (MOIT) เห็นว่า โครงการลงทุนด้านพลังงานยังคงประสบปัญหาและอุปสรรคจำนวนมาก และกระทรวงยืนยันจะสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุนต่อไปตามกฤษฎีกาหมายเลข 13/2020/QD-TTg

ที่มา: Saigon Giai Phong และ Vietnam Plus วันที่ 9 สิงหาคม 2563

https://sggpnews.org.vn/business/vietnam-has-42187-rooftop-solar-power-projects-87915.html

https://en.vietnamplus.vn/nearly-20000-rooftop-solar-power-projects-installed/179959.vnp

 

เวียดนามพิจารณาเปิดการประมูลราคาซื้อขายกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์

solar_bid

กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม (MOIT) มีแผนเสนอนโยบายต่อนายกรัฐมนตรีเวียดนามเรื่องการเปิดประมูลราคาซื้อขายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โดยโครงการที่เข้าร่วมการประมูลต้องเป็นโครงการที่ถูกบรรจุอยู่ในแผนพัฒนาพลังงานแห่งชาติและเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ก่อนวันที่ 30 มิถุนายน 2565 เท่านั้น ภายหลังได้รับการอนุมัติให้เข้าร่วมการประมูลแล้ว นักลงทุนจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อเตรียมการประมูลต่อไป อาทิ การจัดสรรพื้นที่ดำเนินโครงการ การออกแบบและการทำข้อตกลงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยจะจัดการประมูลแยกสำหรับโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ประเภทติดตั้งบนดินและประเภทลอยน้ำ และกำหนดให้กำลังการผลิตไฟฟ้าต่อโครงการต้องไม่เกินร้อยละ 20 ของกำลังผลิตไฟฟ้ารวมของโครงการที่จะเข้าร่วมการประมูลทั้งหมด รวมถึงต้องมีนักลงทุนเข้าร่วมการประมูลอย่างน้อย 5 ราย

ตามกฤษฎีกาหมายเลข 13/2020 โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ที่ได้รับการอนุมัติการลงทุนก่อนวันที่ 23 พฤศจิกายน 2562 และเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ก่อนวันที่ 31 ธันวาคม 2563 จะยังคงใช้อัตราซื้อขายไฟฟ้า (Feed-in Tariff: FiT) เดิมอยู่ ส่วนโครงการในจังหวัดนิญถ่วนที่บรรจุอยู่ในแผนพัฒนาพลังงานแห่งชาติและเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ก่อนวันที่ 1 มกราคม 2564 จะใช้อัตรา FiT ที่ 9.35 เซนต์สหรัฐ/กิโลวัตต์ชั่วโมงเป็นระยะเวลา 20 ปี

เมื่อเดือนเมษายน 2563 กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนามได้เสนอแนวทางการประมูลไว้ 3 รูปแบบ ได้แก่ (1) การประมูลตามโครงการ (2) การประมูลตามสถานีแปลงกระแสไฟฟ้าและ (3) การประมูลเพื่อเลือกนักลงทุนสำหรับโครงการขนาดใหญ่ที่มีกำลังการผลิตเกิน 100 เมกะวัตต์ โดยกระทรวงฯ เห็นว่าแนวทางแรกเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด เนื่องจากโครงการที่ได้รับคัดเลือกจะเป็นโครงการที่ได้มาตรฐานและสามารถเสนอราคาที่สมเหตุสมผลได้

นาย Tran Viet Ngai ประธานสมาคมพลังงานเวียดนาม (Vietnam Energy Association: VEA) เชื่อว่าการเปิดประมูลราคาซื้อขายไฟฟ้าจะช่วยชะลอการเพิ่มขึ้นของโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ลง ในขณะเดียวกัน นักลงทุนโครงการพลังงานแสงอาทิตย์หลายรายมีความกังวลว่าจะไม่สามารถเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ภายในสิ้นปี 2563 เพื่อให้ได้รับอัตรา FiT เดิมเนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ได้ส่งผลกระทบต่อการนำเข้าอุปกรณ์และตลาดแรงงานในประเทศด้วย

ที่มา: Vietnam Net วันที่ 12 สิงหาคม 2563

https://vietnamnet.vn/en/business/moit-considers-bidding-on-solar-power-prices-665634.html

 

จังหวัดบิ่ญดิ่ญประสงค์ดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติใน 2 โครงการใหญ่

binh_dinh_2_fdi

คณะกรรมการปประชาชนจังหวัดบิ่ญดิ่ญได้เสนอต่อกระทรวงการวางแผนและการลงทุนให้บรรจุ 2 โครงการเพิ่มในรายการโครงการที่ต้องการดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ (FDI)

โครงการแรก ได้แก่ โครงการโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์แห่งที่ 2 ในเวียดนามของบริษัท Mitsubishi Motors Vietnam มูลค่าการลงทุน 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีกำลังการผลิตปีละ 30,000 – 50,000 ชิ้น มีพื้นที่ 50 เฮกตาร์ ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม Becamex – Binh Dinh Industrial, Urban and Service Complex ซึ่งบริษัทเลือกลงทุนในจังหวัดบิ่ญดิ่ญเนื่องจากมีระบบการคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานที่ดี รวมถึงคณะกรรมการประชาชนจังหวัดให้คำมั่นว่าจะสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุนและเร่งปฏิรูปการบริหารงานในจังหวัดอีกด้วย

โครงการที่สอง ได้แก่ โรงพยาบาลศักยภาพรองรับผู้ป่วย 300 เตียงในเขตเศรษฐกิจ Nhon Hoi ครอบคลุมพื้นที่ 3.5 เฮกตาร์ มูลค่าการลงทุน 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ก่อนหน้านี้ มีโครงการที่ประสงค์ดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติทั้งหมด 4 โครงการ แต่ได้ยกเลิกคำร้องไป 2 โครงการ เนื่องจากการพัฒนาโครงการไม่สอดคล้องกับแผนพัฒนาจังหวัดอีกต่อไป ได้แก่ โรงพยาบาล มูลค่าการลงทุน 24 ล้านดอลลาร์สหรัฐและโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน มูลค่าการลงทุน 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยอีก 2 โครงการสามารถสรรหานักลงทุนได้แล้ว ได้แก่ โรงงานบำบัดขยะ Cat Nhon มูลค่าการลงทุน 75 ล้านดอลลาร์สหรัฐและโครงการซ่อมบำรุงถนน มูลค่าการลงทุน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

อนึ่ง จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2563 จังหวัดมีโครงการ FDI ทั้งหมด 33 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 506 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ประกอบด้วยนักลงทุนจาก 12 ประเทศ โดยนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดได้แก่ จีน สิงคโปร์และญี่ปุ่น ภายใน 7 เดือนแรกของปี 2563 จังหวัดสามารถดึงดูดการลงทุน FDI มูลค่ารวม 2.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นโครงการใหม่ 2 โครงการและโครงการเดิมที่เพิ่มการลงทุน 1 โครงการ

ที่มา: Vietnam Plus วันที่ 22 สิงหาคม 2563

https://en.vietnamplus.vn/binh-dinh-wants-two-large-projects-to-seek-fdi/181705.vnp